ทดลองอ่าน เรื่องราวของเรากับนาง บทที่ 1 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เรื่องราวของเรากับนาง บทที่ 1

ม่านสีครามซ้อนกันเป็นชั้นๆ โต๊ะดินเผารูปดอกบัวมีรูปสลักพระโพธิสัตว์กวนอินตั้งบูชาเอาไว้ หน้ารูปสลักวางถวายดอกเหมยไว้หนึ่งดอก นอกจากนั้นแล้วภายในห้องช่างดูเรียบง่าย ไม่มีเครื่องเรือนอื่นใด บุรุษผู้นั้นนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าโต๊ะดินเผา ก้มหน้าลงพลางใช้ผ้าแพรสีขาวเช็ดเลือดบนมือ เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดบนตัวของเขายังไม่ถูกเปลี่ยน พอแสงไฟส่องมาจึงทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน

หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าไป ในมุมมืดกลับมีเสียงเห่าอย่างบ้าคลั่งดังขึ้น นางยังไม่ทันรู้ชัดว่าเสียงนั้นอยู่ที่ใด สุนัขเสวี่ยหลงซา ตัวหนึ่งก็กระโจนเข้าใส่ ในเวลานี้เองพลันมีลมจากแส้ฟาดลงมาตรงเบื้องหน้านาง

แส้หนังงูฟาดลงบนตัวเจ้าสุนัขเสียงดังฟังชัด สุนัขเสวี่ยหลงซาตัวนั้นกลับตัวร้องอย่างน่าเวทนา มันเห็นคนที่ถือแส้อยู่ข้างหลังแล้วก็ชะงักไปทันที ก่อนจะหมอบตัวลง ถอยกลับไปหลังม่านทีละนิด สุดท้ายก็ไปนอนขดอยู่ที่มุมห้องพลางสั่นไปทั้งตัว ส่งเสียงครางออกจมูกเป็นพักๆ

“มานี่”

เขาวางแส้หนังงูลงแล้วหยิบผ้าแพรเช็ดหน้าสีขาวข้างมือขึ้นมาอีกครั้ง

หญิงสาวกลับจิตใจไม่อยู่กับตัว เหม่อมองก้อนขนสีขาวที่มุมห้องนั้น

ชั่วขณะนั้นนางไม่เข้าใจว่าบุรุษตรงหน้าเป็นคนเช่นไรกันแน่ จึงทำให้สุนัขดุร้ายตัวหนึ่งกลัวได้ถึงขั้นนี้

“มันชอบกลิ่นเลือด ถ้ายังไม่มาอีก ข้าจะยกเจ้าให้เป็นรางวัลแก่มัน”

“อย่านะ…”

เงาร่างหนึ่งมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แต่เขาไม่ได้เงยหน้ามองแม้แต่น้อย

“นั่งลง รอข้าเช็ดมือให้สะอาด”

ตอนอยู่ในรถม้านางก็ตกใจกลัวอยู่แล้ว ยามนี้ยังถูกสุนัขเสวี่ยหลงซาตัวนั้นทำให้หวาดกลัวจนขวัญกระเจิงอีก จะกล้านั่งส่งเดชได้อย่างไร นางพยายามดึงเสื้อลงมาคลุมกายท่อนล่างของตนเองเอาไว้ จึงกล้านั่งลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง

ในค่ำคืนที่ความหนาวเย็นยังไม่คลายไป สุนัขตรงมุมห้องส่งเสียงร้องครางอย่างน่าเวทนาออกมาบ่อยครั้ง

ตรงหน้าตะเกียงเพียงดวงเดียว คนสองคนที่สวมเสื้อบางขาดรุ่ยเช่นเดียวกันนั่งตรงข้ามกันตามลำพัง

ชายหนุ่มอดกลั้นต่อความเจ็บปวดทั่วตัวอย่างเงียบๆ ตั้งใจเช็ดมือ แม้แต่ร่องเล็บก็ไม่ปล่อยผ่าน ส่วนหญิงสาวจ้องมองพื้นข้างขาของชายหนุ่ม รอคอยให้เขาพูด แต่ก็กลัวว่าเขาจะเอ่ยปาก

ทว่าเขายังคงไม่มีทีท่าจะเอ่ยอะไร

“คนข้างนอกบอกว่า…คุณชายไม่เคยอนุญาตให้ผู้อื่นเข้าห้องพักมาก่อน”

ผ่านไปครู่ใหญ่สุดท้ายนางก็ทนไม่ไหว อยากจะทดสอบความเป็นความตายของตนเอง

จางตั๋วยังคงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เพียงแค่ส่งเสียง “อืม” เบาๆ

“เช่นนั้นข้า…”

“เจ้าครึ่งคนครึ่งผี”

นางฟังไม่เข้าใจ แต่ยังคงถูกพลังข่มขู่ในคำพูดนั้นทำให้หวาดกลัวจนไร้เสียง

เขาทิ้งผ้าแพรเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือดจนเลอะเทอะลงบนพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองนาง “ใส่ยาเป็นหรือไม่”

“ไม่เป็น…อ๊ะ ไม่ๆ ใส่เป็นๆ…”

“ถ้าเป็น เจ้าก็จะมีชีวิตรอดผ่านคืนนี้ไปได้” เขาเลิกคิ้วพลางหัวเราะ “เจ้าชื่ออะไร”

“สี…อิ๋น”

“สีเป็นแซ่หรือ”

“ไม่ใช่…ข้าไม่มีแซ่”

“ในเมื่อเจ้ามีพี่ชาย เหตุใดจึงไม่มีแซ่”

ได้ยินคำพูดนั้นแววตานางก็สลดลง ก้มมองความมอมแมมยุ่งเหยิงทั่วตัวของตนเอง แล้วมองไปทางสองหัวเข่าที่เขียวช้ำอย่างยิ่ง

“พี่ชายของข้าเป็นคนที่งามสง่า แซ่ของเขา…ข้าไม่คู่ควร”

จางตั๋วฟังคำพูดประโยคนี้จบแล้วก็เงยหน้าหัวเราะอย่างสบายใจทันใด จนกระเทือนไปถึงบาดแผลจากแส้ทั่วร่าง ทำให้เลือดที่แข็งตัวปริออกอีกครั้งและเหนียวติดเสื้อผ้า เลือดไหลเนื้อแตกแยกกันไม่ชัดเจน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com