แต่นั่นแหละ ยังไงเท่าที่จำได้จิรปริยาก็ไม่เคยแทนตัวเองด้วยชื่อกับใครเลยจริงๆ
“ใช่ แดไม่เคยแทนตัวแบบนั้นกับใคร” นับนิรันดร์ช่วยยืนยันอีกเสียง ดวงตาสีอำพันอบอุ่นอ่อนหวานยามหวนถึงความหลัง “แต่แดใช้กับผมไง” เขายิ้มกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างไม่ปิดบัง “เพราะแดบอกว่าตัวเองเป็นดวงใจของผม”
เหตุผลนั้นทำให้เจ้าของชื่อเบิกตากว้าง หัวใจกระแทกรัวจนเริ่มเจ็บหน้าอก
หญิงสาวรู้มาตลอดว่าชื่อเล่นของตัวเองแปลว่า ‘ดวงใจ’ ทั้งยังภาคภูมิใจกับความหมายของชื่อจริงและชื่อเล่นที่บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเป็นความรักของพ่อแม่ ทว่า…
“ไม่เลี่ยนไปหน่อยเหรอ” จิรปริยาทำหน้าคล้ายพะอืดพะอม ฟังแค่นี้ก็เดาได้เลยว่าตัวเธอในตอนมีความรักคงเป็นผู้หญิงคลั่งรักคนหนึ่ง ซึ่งคำตอบก็เป็นเสียงหัวเราะของสามี
“น่ารักดีออก” เขาว่าทั้งเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะทอดเสียงอ่อนลง “มันคงจะดี…ถ้าแดกลับไปพูดเหมือนเดิม”
น้ำเสียงเศร้าๆ ของชายหนุ่มทำให้หัวใจคนฟังอ่อนยวบอย่างประหลาด ถ้าหากไม่นับเรื่องความไม่ชินและที่มาแสนหวานเลี่ยน จิรปริยาก็คิดว่าเธอน่าจะทำให้เขาได้
“อ่า ดะ…แดจะพยายามแล้วกัน” เธอให้คำมั่น
“ขอบคุณครับ”
คำตอบที่คาดเดาไว้อยู่แล้วทำให้นับนิรันดร์คลี่ยิ้มกว้าง มือหนาเลื่อนไปลูบเรือนผมยาว ทว่าพอเธอสะดุ้งตกใจเขาก็ชักมือออก แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “จริงสิ แดรู้มั้ย…ชื่อกันและกันมาจากไหน”
หัวข้อเกี่ยวกับลูกชายทำให้หญิงสาวปัดความรู้สึกแปลกๆ ซึ่งเกิดขึ้นเพราะสัมผัสของเขาทิ้งไปแล้วเริ่มคาดเดา
“อืม…แดตั้งมั้ง” เธอเป็นคนชอบอ่านนิยายและยังชอบตั้งชื่อแปลกๆ ไว้มากมาย ถึง ‘กันและกัน’ จะไม่ใช่ชื่อที่แปลกอะไร แต่ก็ไม่ได้โหลขนาดมองไปทางไหนก็เจอ
“ใช่ แดเป็นคนตั้ง” ดวงตาสีอำพันฉายแววรำลึกความหลังอันเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขา “แดบอกว่า ‘เราจะได้มีกันและกันตลอดไป’…”
“เราจะได้มีกันและกันตลอดไป” เธอทวนคำ โพรงอกอุ่นวาบกับประโยคนั้น ในสมองที่ปราศจากความทรงจำสิบสองปีมานี้คล้ายปรากฏภาพเลือนรางขึ้นมาจนวูบหนึ่งเธอเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองมาจากอดีตจริงอย่างที่คิด
หรือว่าเธอแค่ความจำเสื่อมไปจริงๆ อย่างที่ทุกคนบอก