“พี่หนึ่งเขาชอบแบบนั้นน่ะค่ะ”
“ชอบอย่างไรก็ต้องเห็นแก่เมีย แกพูด เขาก็ต้องฟัง”
สงสัยว่ายายของเธอจะลืมไปแล้วกระมัง ว่าเธอกับพฤกษ์แต่งงานกันเพราะอะไร อย่าว่าแต่บอกให้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่เลย แค่บอกให้ทานข้าวสักจานเขายังหูทวนลม ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน
“คงต้องรอเรือนหอเสร็จก่อนค่ะ”
“จะรอทำไม เงินมีตั้งมากมาย จะย้ายไปอยู่บ้านดีๆ สักหลังหรือคอนโดมิเนียมดีๆ สักที่คงไม่ยากเย็นอะไร แกไม่อายเขาหรือยังไง”
“ไม่มีใครทราบหรอกค่ะว่าพริ้มกับพี่หนึ่งพักอยู่บ้านแบบไหน” พริ้มเพราบอกเสียงเบา แต่แอบต่อในใจว่าหากมีใครทราบ คนคนนั้นก็คงว่างมากพอดูถึงได้มาคอยตามติดชีวิตเธอ
“น้อยไปสิ พวกคนจ้องจับผิดชอบนินทามีทั่วไป”
“คุณยายอย่ากังวลเรื่องนี้ไปเลยนะคะ แล้วพริ้มจะลองคุยกับพี่หนึ่งดู”
พริ้มเพราตัดบทเพราะรู้ดีว่าคุณหญิงสมปรารถนาต้องการอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น แม้ว่าความจริงแล้วจะได้หรือไม่ ขอแค่เธอพูดว่า ‘ได้’ ก็จะช่วยให้นางพอใจ
“เอาเถอะ ฉันไม่ได้มาพูดกับแกแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกนะยายพริ้ม”
“อะไร (อีก) เหรอคะ” พริ้มเพราถามกลับด้วยสีหน้าที่พยายามปกปิดความวิตกกังวลไว้
“เอานี่ไป” คุณหญิงสมปรารถนายื่นบางอย่างซึ่งถูกห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลให้ ลักษณะเหมือนยาแผนโบราณหรือยาจีน พริ้มเพราไม่รับในทันที แต่เธอมองผู้เป็นยายด้วยสีหน้างุนงง
“อะไรคะคุณยาย”
“รากปลาไหลเผือก”
“คะ?”
“ไม่รู้จักหรือยังไง เด็กสมัยนี้แย่จริง สมุนไพรไทยมีสรรพคุณดีกว่ายาหมอโรงพยาบาลเสียอีก หัดรู้ไว้เสียบ้างก็ไม่เสียหลาย”
พริ้มเพราหน้าเจื่อนไป เธอรู้จักสมุนไพรอยู่บ้าง อย่างว่านหางจระเข้ ฟ้าทลายโจรอะไรเทือกนั้น แต่ว่าสมุนไพรชื่อพิลึกนี่เธอไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
“นี่อีกอัน เอาไปชงให้ตาหนึ่งดื่มทุกวันก่อนนอน”
พริ้มเพรายังไม่ทันหายมึนงงกับรากปลาไหลเผือก ห่อสมุนไพรอีกห่อก็ถูกส่งมาให้
“กำลังช้างสาร สมุนไพรทั้งสองชนิดนี้เพิ่มความกำหนัดให้ผู้ชาย ตาหนึ่งทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ต้องมีตัวช่วยให้มีลูกเร็วๆ”
พริ้มเพราเบิกตากว้าง ใบหน้าสวยแดงเถือกไปทั้งหน้า
“คุณยาย!”
“ไม่ต้องมาเหนียมอาย ฉันต้องการเห็นหน้าเหลนเร็วๆ”
“โธ่! คุณยายคะ พริ้มคิดว่าไม่ต้องใช้หรอกค่ะ พี่หนึ่งคงไม่ทาน” แล้วเธอก็คงไม่เอาไปให้เขาทานแน่ๆ “เอ่อ…เขาอาจจะหาว่าพริ้มไปดูถูกเขา เรื่อง…”
พริ้มเพราก้มหน้างุด ผิวกายร้อนวูบวาบไปหมด
“ถ้าเขาอาย แกก็ผสมกับน้ำผลไม้ เครื่องดื่มอะไรก็ได้ไม่ต้องให้เขารู้ตัว อย่าให้ฉันต้องสอนทุกเรื่องได้ไหม แล้วอย่าลืมอีกเรื่อง ผู้ชายเขาชอบผู้หญิงเอาอกเอาใจ ช่างพูดช่างฉอเลาะ พูดน้อยเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงน่ะ มันน่ารำคาญ”
ก่อนกลับคุณหญิงสมปรารถนายังอบรมสั่งสอนวิถีของภรรยาที่เพียบพร้อมอีกหนึ่งชุดใหญ่ พริ้มเพราซึ่งฟังเป็นรอบที่ร้อยแทบจะท่องตามได้เป็นนกแก้วนกขุนทอง
‘ตื่นก่อน นอนทีหลัง ผัวกลับมาบ้านกับข้าวกับปลาต้องพร้อมเตรียมรอไว้อย่าให้บกพร่อง พูดจาอ่อนหวาน เชื่อฟัง เป็นช้างเท้าหลังที่ดี’
เธอไม่ได้คิดไกลไปถึงขั้นนั้นหรอก อย่างที่บอก แค่คุยกันดีๆ สักครั้งยังยากเลย แล้วจะให้เธอทำตัวเป็นภรรยาในอุดมคติของผู้เป็นยายงั้นหรือ…
…ไหนจะเรื่อง ‘เหลน’ อีก
เป็นลมแล้วตายไปเลยได้ไหม
ห่อยาสมุนไพรถูกเก็บไว้ในลิ้นชักครัวเกือบห้าวันแล้วโดยไม่ได้เปิดใช้ ไม่ใช่ว่าพริ้มเพรากระดากเกินกว่าจะใช้มัน เพราะบางครั้งเธอยังแอบคิดไปว่าถ้าไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ นี่อาจช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เธอกับพฤกษ์จะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
ทว่าที่มันยังไม่ถูกเอาออกมาใช้ก็เพราะว่าพฤกษ์ไม่กลับบ้านอีกเลยนับจากวันที่เขานัดหมายวันหย่ากับเธอครั้งนั้น
ร้ายกว่าการไม่ได้ใช้สมุนไพรกระตุ้นกำหนัดของคุณยายก็คือเธอต้องอยู่บ้านคนเดียว บ้านไม้หลังเก่าที่คาดว่าอายุคงไม่น้อยไปกว่าอายุเธอนั้นเงียบและเปลี่ยวมากเพราะอยู่ลึกมาเกือบท้ายซอย แม้จะมีบ้านเพื่อนบ้านที่ติดกันอยู่สองหลัง แต่ดูเหมือนว่าพฤกษ์ไม่ได้สานสัมพันธ์กับคนในละแวกนี้ไว้เลย เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ก็ไม่เห็นจะมีใครเข้ามาทักทาย
“ใจร้าย”
พริ้มเพราตัดพ้อหลังจากจัดการล็อกรั้วบ้าน ล็อกประตูหน้าต่างทุกบานอย่างละเอียดถี่ถ้วนและตรวจสอบเป็นครั้งที่สามของคืนนี้
เธอส่งข้อความถึงพฤกษ์เหมือนที่ส่งไปทุกวัน สอบถามว่าเขาจะกลับบ้านหรือไม่ แต่พฤกษ์ก็ไม่เคยตอบเธอเลยสักครั้ง วันแรกๆ นั้นพฤกษ์ยังอ่านข้อความของเธออยู่ แต่สองวันหลังมานี้เขาไม่อ่านมันเลย โทรไปก็ไม่รับสาย ชัดเจนว่าพฤกษ์ตั้งใจหลบหน้าเธออย่างไม่ต้องสงสัย
เขาคงคิดว่าหากหายหน้าหนีไปเธอจะโกรธและถอดใจยอมหย่ากับเขาในที่สุด แต่พฤกษ์ควรรู้ว่าเขาคิดผิดตั้งแต่วันที่เดินเข้ามาขอเธอแต่งงานแล้ว พริ้มเพราไม่ใช่คนที่ท้อใจอะไรง่ายๆ
อยากจะรู้เหมือนกันว่าพฤกษ์จะหลบหน้าเธอได้อีกนานแค่ไหน