นิ้วซึ่งกำลังปลดตะขอกางเกงต้องชะงักเพราะสายตาของพริ้มเพราที่จ้องเขม็งมาที่กลางลำตัวของเขา
“เธอนี่มันโรคจิตจริงๆ เลย ไม่คิดจะอายหน่อยหรือไง ผู้ชายกำลังจะแก้ผ้านะ”
พริ้มเพรารู้สึกตัวตอนนั้นเอง เธอเลื่อนสายตาออกจากร่างกายกำยำของเขาแล้วเสมองพื้นแทน แต่มาคิดอายตอนนี้ก็สายไปแล้ว เธอจึงทู่ซี้ตอบไป
“พี่หนึ่งเป็นสามี ยังไงพริ้มก็ต้องเห็นอยู่แล้วนี่คะ”
“อ้อ! งั้นเหรอ แสดงว่า…” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ร่างบางจนมากพอให้รับรู้ถึงไอร้อนจากกายของกันและกัน “…ฉันก็เห็นของเธอได้หมดทุกอย่างเหมือนกันใช่มั้ย”
ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำใจให้เป็นปกติกับเรื่องบนเตียงของสามีภรรยาได้ แต่พอพฤกษ์พูดแบบนั้นอาการหวั่นก็มากล้นจนส่งผลให้มือไม้สั่น
ดวงตากลมไหวระริกผสานกับดวงตาคมเข้มที่มองมา เธอไม่แน่ใจว่าเขากำลังพูดเล่นหรือว่า…เอาจริง
“ได้ใช่มั้ย” พฤกษ์ถามซ้ำด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หัวใจพริ้มเพราถึงกับกระตุกวาบก่อนตามมาด้วยอาการร้อนๆ หนาวๆ
“เอ่อ! คือว่า…”
พฤกษ์หัวเราะในลำคอ หรี่ตามองใบหน้าสวยที่ยามนี้แดงเถือกไปทั้งหน้า
“อย่าฝันไปหน่อยเลยว่าฉันจะอยากมองให้เสียลูกตา” พูดจบพฤกษ์ก็คว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
พริ้มเพรายืนอึ้งอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเสียงน้ำไหลจากฝักบัวดังขึ้นนั่นเองเธอถึงได้รู้สึกตัว หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอโล่งใจหรือ ไม่ใช่หรอก หนักใจจนพูดไม่ออกต่างหาก
พริ้มเพราหย่อนกายลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเดียวในห้อง ห้องนอนของพฤกษ์เป็นห้องนอนที่เรียบง่ายมากๆ เหมือนกับบ้านของเขาก่อนที่เธอจะเข้าไปอยู่
ผ้าปูที่นอนสีเทาเข้ม ผ้าห่มขยุกขยุยอยู่บนเตียง ข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยวางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะบ้าง อยู่บนชั้นวางทีวีบ้าง ที่ตัดเล็บอยู่บนหลังตู้เย็นรวมกับใบเสร็จร้านกาแฟ
พริ้มเพราต้องจิกเท้าตัวเอง กำมือแน่น ระงับความรู้สึกอันพลุ่งพล่านอยู่ภายใน
ทว่า…สุดท้ายเธอก็สู้แรงผลักดันในใจของตัวเองไม่ได้
เธอทนไม่ได้แล้วจริงๆ
“นี่เธอกำลังทำอะไร!”
พฤกษ์ออกมาจากห้องน้ำในชุดที่สวมเรียบร้อยเหลือเพียงแค่ผมยังไม่แห้งดี แต่มือที่กำลังถูผ้าเช็ดผมกับศีรษะต้องชะงักเพราะตกใจเมื่อเห็นว่าพริ้มเพราถือถุงขยะอยู่ในมือแล้วกำลังรื้อตู้เย็นของเขา หยิบของยัดใส่ถุงอย่างเมามัน
“เก็บของทิ้งค่ะ”
“ทิ้งอะไร” พฤกษ์บอกตามตรงว่างงเป็นไก่ตาแตก พริ้มเพราเป็นบ้าอะไรถึงได้ลุกมาทำความสะอาดห้องให้เขาในเวลาแบบนี้
“ของในตู้เย็นบางอย่างก็หมดอายุแล้ว พี่หนึ่งต้องทิ้งมันไปบ้างนะคะ อีกอย่างอะไรที่ทานไม่หมดถ้าเก็บไว้เกินหนึ่งวันแล้วไม่ได้กินก็ควรจะทิ้งเหมือนกัน แช่ไว้คาตู้เย็นแบบนี้สกปรกออกค่ะ” พริ้มเพรากล่าวปกติเหมือนว่าเธอไม่ได้ทำอะไรประหลาด
ทั้งที่ความเป็นจริงมันโคตรจะประหลาด
“หยุดเลยนะ” เขาบอกพลางก้าวเข้าไปคว้าถุงขยะออกจากมือเธอแล้วเอาไปวางไว้ริมผนังห้อง
พริ้มเพราชะงัก นี่เธอเพิ่งเก็บเตียงให้เขา เก็บเศษขยะ ทิ้งขยะในตู้เย็นจนเสร็จ ก็เหลือแค่ดูดฝุ่น กวาดห้องแล้วก็ถูพื้น…
…นี่เธอทำอะไรลงไป
“ไปพบแพทย์หน่อยมั้ย อยู่ดีๆ ก็ลุกมาทำความสะอาดห้องคนอื่น โรคจิตหรือเปล่า”
“แค่เก็บกวาดห้องต้องเป็นโรคจิตเลยเหรอคะ” เธอบ่นกระปอดกระแปด เขาต่างหากโรคจิต ชอบอยู่รกๆ
“มันใช่เวลามั้ย” พฤกษ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “นี่คงไม่เผลอทิ้งของสำคัญไปใช่มั้ย”
พริ้มเพรานิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้าช้าๆ พฤกษ์เห็นแล้วเผลอกลอกตาโดยอัตโนมัติ
เชื่อเลยจริงๆ