ทดลองอ่าน เหมียว เหมียว เหมียว แมวน้อยอลเวง บทที่ 16-17 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เหมียว เหมียว เหมียว แมวน้อยอลเวง บทที่ 16-17

ท่ามกลางความเลอะเลือน มีเสียงฝีเท้าร้อนรนดังขึ้นมาจากด้านนอก เทพปี้ชิงวิ่งมา พอเห็นสภาพของข้า เขาเหมือนจะตื่นตระหนกตกใจสุดขีด รีบเปิดปราการแสงสีฟ้าออก อุ้มข้าขึ้นมาอย่างเบามือพลางกล่าวตำหนิ “เจ้า…เหตุใดเจ้าจึงโง่เพียงนี้ การดึงดันจะฝ่าค่ายกลกักปีศาจจะทำให้เจ้าเอาชีวิตไปทิ้ง!”

“เหมียวเหมียว…ไม่อยากท้องหิว” เสียงของข้าเบายิ่ง

“แต่เจ้าก็ไม่อาจทำอะไรตามอำเภอใจเช่นนี้!” เสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยและสับสนว้าวุ่น “ข้าเพียงคิดจะขังเจ้าสักวันสองวัน ให้บทเรียนเจ้า จะได้เติบโตขึ้น”

“ข้าไม่อยากถูกขัง…”

“เจ้าแมวโง่ตัวนี้!” เสียงคำรามลั่นของเทพปี้ชิงดังวนอยู่ข้างกาย

“ข้าจะกลับภูเขาลั่วอิง…” ข้าเอ่ยด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวใจ

เทพปี้ชิงพลันนิ่งเงียบ ผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงพูดขึ้นเบาๆ “เจ้ากลับไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”

เพราะเหตุใด ข้าตกตะลึงยิ่ง

ข้ามองหน้าเทพปี้ชิงอย่างงงงัน ไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาพูด

เขากลับไม่ได้อธิบายต่อ เพียงอุ้มข้าขึ้นหลังกิเลนแล้วห้อตะบึงไปอย่างรวดเร็ว ระกิ่งหลิวผ่านพุ่มไม้ไปตลอดทาง ไม่นานก็มาถึงที่พักอาศัยของโม่หลินหมอที่น่ากลัวผู้นั้นอีกครั้ง

มองสถานที่น่ากลัวอันคุ้นเคยแห่งนี้ ข้าตกใจจนขนทั่วร่างชี้ชันขึ้นมา ทว่าร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้าน จำต้องปล่อยให้โม่หลินเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม จับข้ากดลงบนโต๊ะแล้วใช้เชือกมัดไว้ จากนั้นก็ลูบคลำตรงโน้นจับๆ ตรงนี้

“อ่า ขนที่ขาแมวน้อยทั้งขาวทั้งนุ่มยิ่ง ข้าจะเกาพุงให้เจ้า แผ่นเนื้อตรงอุ้งเท้าก็น่ารักยิ่ง…” เขายิ้มโง่งมพลางลูบคลำไปทั่วร่างข้าอย่างหยาบคาย “เหตุใดจึงได้รับบาดเจ็บอีกแล้วเล่า ใช่ถูกข่มเหงรังแกหรือไม่ จะลองพิจารณาทิ้งเทพปี้ชิงมาติดตามข้าดีหรือไม่”

“โม่หลิน! ทำการรักษาของเจ้าไป อย่าเอาแต่พูดร่ำไร!” เทพปี้ชิงตำหนิด้วยท่าทางไม่พอใจ “อย่ายั่วยุข้าให้ทำลายเรือนหลังนี้ของเจ้าไปด้วย”

“ดุร้ายยิ่ง ดุร้ายยิ่ง แมวน้อย เจ้าพิจารณาดูสักหน่อยเถิด อ้อมอกของอาเปิดกว้างสำหรับเจ้าตลอดเวลา!” โม่หลินไม่กลัวการข่มขู่ของเทพปี้ชิงแม้แต่น้อย ยังคงทำหน้าทะเล้นคล้ายพวกวิปริตที่ใช้อาหารกระป๋องมาหลอกล่อแมวไปขาย

ข้าที่ถูกมัดอยู่บนโต๊ะเริ่มใคร่ครวญอย่างจริงจังถึงความแตกต่างของระดับความน่ากลัวระหว่างเขากับเทพปี้ชิง เมื่อเห็นเขาดึงเข็มเงินออกมาจากห่ออีกครั้ง ก็สั่นศีรษะอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ปฏิเสธ ‘ความหวังดี’ ของเขาทันที

เทพปี้ชิงที่อยู่ด้านข้างดูเหมือนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อาจเพราะอยากตอบโต้ข้าที่ปฏิเสธ ชั่วประเดี๋ยวเดียวข้าก็ถูกปักจนกลายเป็นเม่น เวลาผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป โม่หลินจึงดึงเข็มเงินออก ตัดขนที่ไหม้เกรียมบนร่างข้าออกไป หยิบผ้าโปร่งบางสีขาวออกมาจำนวนหนึ่งเริ่มพันบาดแผลบนร่างกายให้ข้า เขาพันร่างข้าจนกลายเป็นศพแมวพันผ้าขาวตัวหนึ่งทั้งที่ยังมีชีวิต จากนั้นนำผ้ามาผูกเป็นปมรูปผีเสื้อใหญ่ๆ บนศีรษะข้าอันหนึ่งแล้วผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจ “ช่วงหลายวันนี้อย่าให้นางเคลื่อนไหวมากนักก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

จากนั้นเทพปี้ชิงก็แก้เชือกออก หลังจากข้าได้รับอิสระอีกครั้งก็เหยียดอุ้งเท้าเหยียดขา ขณะคิดจะก้มไปเลียบาดแผลที่ขาหลังของตน กลับถูกผ้าพันแผลดึงรั้งจนยากจะหมุนตัวได้ อดจะส่งเสียงร้อง “เมี้ยวๆ” ด้วยความไม่สบายตัวไม่ได้

“อย่าให้นางเลียแผลตนเอง” โม่หลินยับยั้งการฉีกผ้าพันแผลของข้า หลังจากเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ไปหาแผ่นเหล็กบางมาจากที่ใดแผ่นหนึ่ง ขัดเงาแล้วดัดโค้งเป็นรูปทรงกรวยสวมไว้ที่คอของข้า ห่อหุ้มศีรษะของข้าไว้ข้างใน มองดูแล้วน่าขำยิ่ง

“ข้าไม่เอาสิ่งนี้!” ข้าเอ่ยปากประท้วง “น่ารำคาญ!”

“แล้วเจ้าทำได้หรือไม่ที่จะไม่แตะต้องบาดแผล” เทพปี้ชิงมองข้าด้วยท่าทางอยากจะหัวเราะ แล้วใช้นิ้วมือแตะๆ ศีรษะที่มีผ้าพันแผลอยู่เต็มไปหมดของข้าพลางเคาะๆ แผ่นเหล็กที่น่าขำนั่น ในที่สุดก็ทนไม่ไหวหมุนตัวไปส่งเสียงหัวเราะออกมา

ข้าพลันรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของตนถูกเหยียบย่ำอย่างที่สุด…

น่าโมโหยิ่งนัก! พึงรู้ว่าแมวฆ่าได้หยามไม่ได้! ข้ายืนขึ้นมาเตรียมจะกลายร่างเป็นมนุษย์ จากนั้นก็ใช้กรงเล็บเพิ่มหนวดบนใบหน้าของโม่หลินตัวการผู้ก่อเหตุที่หัวเราะจนกลิ้งไปทั่วพื้นตรงหน้าผู้นี้สักหลายรอย

คิดไม่ถึงว่าเทพปี้ชิงจะจี้จุดตำแหน่งหนึ่งบนร่างของข้า พลังอาคมประหลาดขุมหนึ่งไหลทะลักเข้ามา ข้าอ่อนปวกเปียกไปทั้งร่าง ฟุบลงไปอีกครั้งทันที ไม่อาจกลายร่างเป็นมนุษย์ได้

ข้าจ้องบุรุษสารเลวสองคนตรงหน้าที่กลั่นแกล้งแมวน้อยจิตใจดีที่ตกอยู่ในกำมือพวกเขาด้วยความแค้นใจ ข้าโกรธจนแทบพูดอะไรไม่ออก เห็นชัดว่าเทพปี้ชิงมองข้ามเพลิงโทสะในดวงตาของข้า เขาอุ้มข้าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เอ่ยลาโม่หลินแล้วจากไปทันที

โม่หลินมองเงาร่างของพวกเราที่เดินจากไป ในดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยน้ำตาพลางโบกๆ มือ มองดูเหมือนเศร้าใจ แต่ข้ากล้ารับรองว่าน้ำตานั่นหลั่งออกมาจากการหัวเราะแน่นอน!

คนสองคนที่น่าชิงชังยิ่งกว่าสุนัข! ข้าจะต้องแก้แค้น! นี่เป็นเสียงจากหัวใจเพียงหนึ่งเดียวของข้าขณะอยู่ในกรวยเหล็กและชุดแมวพันผ้า

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com