บทที่ยี่สิบสาม ถูกหวดก้น
พลังกระบี่ของเทพปี้ชิงเปลี่ยนเป็นแสงโชติช่วงสีเขียวอมดำ กดคุกคามไปรอบทิศ เอ๋าอวิ๋นยื่นมือขึ้นไปในอากาศ แหวนฝังโมราสีแดงวงหนึ่งพลันเปลี่ยนเป็นหอกยาว ต้านรับตาข่ายกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามา
เงาร่างสองสายคล้ายลำแสงที่แวบไปแวบมาอยู่กลางอากาศ ประเดี๋ยวปะทะกันประเดี๋ยวก็แยกจากกันไม่หยุด ข้ามองจนละลานตาไปหมด ในใจแอบโห่ร้องสนับสนุน
เอ๋าอวิ๋นต้านรับได้ไม่กี่กระบวนท่า พลันกระโดดถอยออกจากวงต่อสู้แล้วยิ้มเอ่ยว่า “วรยุทธ์ของเทพปี้ชิงก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว ผู้น้อยขอยอมแพ้”
คำพูดที่ว่าไม่ยื่นมือตีผู้แย้มยิ้มให้* ดูเหมือนจะใช้กับเทพปี้ชิงไม่ได้ กระบี่ในมือของเขาเปลี่ยนเป็นแส้ยาว ตวัดฟาดไปยังร่างเอ๋าอวิ๋นพร้อมกรวดหินดินทรายประดุจสายฟ้าฟาด
เอ๋าอวิ๋นรีบกระโดดหนีขึ้นไปด้านบน เหาะขึ้นก้อนเมฆ จากไปอย่างว่องไว ก่อนไปปากยังร้องตะโกน “นางหนูเหมียวเหมียว คราวหน้าข้าค่อยมาเล่นกับเจ้าใหม่!”
ข้ากำลังคิดจะโบกมือลาเขา กลับพบว่าเทพปี้ชิงที่อยู่ข้างๆ กำลังจ้องข้าด้วยสีหน้าไม่ชวนมอง ฉับพลันลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจ หน้าผากข้ามีเหงื่อเย็นซึมออกมา ใบหูลู่ลง
เหมียวเหมียวทำอะไรผิดอีกแล้วหรือ
เขาเดินเข้ามาใกล้ข้าก้าวหนึ่ง ข้าก็ขยับถอยหลังไปอย่างรวดเร็วก้าวหนึ่ง ทั้งจ้องดวงตาของเขาอย่างระแวดระวัง พบว่าเพลิงโทสะในดวงตาเขายิ่งลุกโชน เหมือนอยากจะจับข้าถลกหนังกลืนลงไปทั้งเป็น
“มานี่!” เทพปี้ชิงพูดเสียงเย็นชา
ถูกทำให้ตกใจจนขนหางพองขึ้น ข้าสั่นศีรษะอย่างเอาเป็นเอาตาย แสดงท่าทีแม้ต้องสู้ตายก็ไม่ปฏิบัติตาม ไม่มีทางเดินเข้าไปหาความตายแน่นอน
“ข้าไม่อยากพูดเป็นครั้งที่สอง” เทพปี้ชิงออกคำสั่งอีกครั้ง
น้ำเสียงที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ของเขาทำให้ข้ายิ่งหวาดกลัว ในที่สุดก็ทนไม่ไหวคิดจะหมุนตัววิ่งหนี น่าเสียดาย ดูเหมือนเขาจะอ่านความคิดของข้าออก อีกทั้งมีความเร็วเหนือกว่าข้า ในขณะที่แผนการหลบหนียังทำไม่สำเร็จ ข้าก็ถูกรวบเอวอุ้มขึ้นมา คว่ำร่างพาดไปบนตักของเขาอย่างไม่ปรานีปราศรัย และเอาแส้หนังมัดมือทั้งสองข้างไว้ ร่างถูกกดจนไม่อาจขยับตัวได้ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือก้นที่ปวดแสบปวดร้อน
“เมี้ยว!” ทันทีที่ฝ่ามือฟาดลงบนก้นเป็นครั้งแรก ข้าก็เริ่มกรีดร้องเสียงแหลมและเศร้ากำสรด พยายามบิดร่างจะหลบหนีการลงโทษที่นับว่าโหดร้ายทารุณและไร้คุณธรรมในหมู่แมว ยังหันหน้าไปมองเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ วิงวอนให้หยุดมือ
การดิ้นรนที่ทำไปทั้งหมดนี้ล้วนไร้ประโยชน์ ฝ่ามือยิ่งฟาดเร็วขึ้น เสียงก้องกังวาน ฟาดลงบนก้นน้อยๆ ของข้า เจ็บจนแทบทนไม่ไหว ข้าโกรธขึ้นมาจึงหมายกัดลงไปที่ขาของเขาอย่างแรง แต่กลับถูกเขาสังเกตเห็นเสียก่อน จึงคว้าผ้ามาอุดปากข้าไว้ ข้าได้แต่คราง “อูอู” ทำอย่างไรก็ร้องไม่ออก