ในที่ไกลออกไปมีตาแก่ผมขาวดุจขนนกกระสาหน้าแดงดุจทารก พาเด็กชายที่โบกพัดอยู่ข้างเตาหลอมยาผู้นั้นขี่เมฆมา เหาะมาจนถึงข้างกายขุนพล จากนั้นก็รีบลงจากก้อนเมฆมาประสานมือคารวะบอก “รบกวนหลี่เทียนหวัง แล้ว”
“นี่เป็นหน้าที่ของผู้แซ่หลี่” คนสารเลวที่ชื่อหลี่เทียนหวังผู้นั้นรีบประสานมือคารวะตอบ เขาลูบเคราด้วยความกระหยิ่มใจ ยิ้มเบิกบานใจยิ่ง
แต่ข้าต้องมาอยู่กลางเปลวไฟร้อนแรง เจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ คล้ายว่าแม้แต่ดวงวิญญาณก็จะถูกเผามอดไหม้ ขณะดิ้นรน ไม่รู้เพราะเหตุใดใบหน้าของเทพปี้ชิงจึงปรากฏขึ้นมาตรงหน้า…
ไม่รู้ว่า…ถ้าเหมียวเหมียวตายอยู่ที่นี่ เขาจะเสียใจหรือไม่
“หลี่เทียนหวัง ขอท่านได้โปรดเมตตา!” เสียงแหลมสูงของสตรีดังขึ้นเรียกสติของข้ากลับมา เงาร่างสีแดงของจิ่นเหวินวิ่งห้อมาถึง นางคุกเข่าลงตรงหน้าตาแก่และขุนพล โขกศีรษะไม่หยุดแล้วบอก “เรื่องนี้บ่าวเป็นคนวางแผนเพียงคนเดียว สมควรตายหมื่นครั้ง ส่วนเหมียวเหมียวเพียงถูกหลอกให้ลงมือ ขอเทียนหวังและไท่ซั่งเหล่าจวินได้โปรดเมตตาเปิดทางออกให้สักทาง”
“ความผิดของผู้ขโมยลูกกลอนเซียนไม่อาจให้อภัย” เสียงของหลี่เทียนหวังไม่มีความอบอุ่นใด เขาหันไปทางกองกำลังทหารที่อยู่ด้านข้าง โบกมือแล้วบอก “คุมตัวหญิงผู้นี้ไว้ มัดแล้วนำตัวไปลงโทษที่แท่นประหารปีศาจ”
“หลี่เทียนหวังได้โปรดละเว้นเหมียวเหมียวด้วยเถิด!” จิ่นเหวินถูกทหารสวรรค์คุมตัวลากไปทางด้านข้าง นางร้องไห้จนน้ำตานองหน้า ดูอัปลักษณ์ไม่ชวนมองยิ่ง “เป็นเพราะข้าใจร้อนจึงหลอกนางให้ลงมือ ละเว้นนางด้วยเถิด”
ข้ามองใบหน้าที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นของจิ่นเหวิน ในใจรู้สึกเศร้าใจมาก…จึงตะโกนปลอบนาง “จิ่นเหวิน อย่าร้องไห้!”
จิ่นเหวินถูกมัดโดยเอาเชือกคล้องคอแขนสองข้างถูกมัดไพล่หลัง เส้นผมรุ่ยร่ายยุ่งเหยิง นางเงยหน้าขึ้นพูดกับข้าด้วยความเสียใจ “เหมียวเหมียว…ขออภัย…”
ที่แท้นางก็รู้จักคาถานี้ ที่แท้นางก็ชอบข้า ท่ามกลางเปลวไฟร้อนแรง ข้าพลันหัวเราะออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ทรุดลงไปนั่งกับพื้น รอห้วงเวลาที่ร่างจะถูกเผาไหม้ซึ่งกำลังจะมาถึงอย่างด้านชา
ท่ามกลางความเลอะเลือน ข้าคล้ายได้ยินเสียงเทพปี้ชิงดังขึ้น เขาร้องเรียกด้วยเสียงดังยิ่ง…และร้อนรนใจยิ่ง…
ข้าทุ่มเทเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย เกาะลูกกรงหน้าต่างด้านข้างของเจดีย์มองออกไปข้างนอก เป็นเขามาแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นเขาในสภาพย่ำแย่เช่นนี้มาก่อน ไม่ได้สวมหมวกเหล็กเสื้อเกราะ ไม่ได้สวมรองเท้าหุ้มแข้ง ไม่ได้สวมเสื้อคลุม กระทั่งเส้นผมก็ไม่ได้มัดรวบ…ข้างหลังยังมีโม่หลินตามมาอีกคน
“หลี่เทียนหวัง โปรดเก็บเจดีย์กลับคืนโดยเร็ว!” เทพปี้ชิงลงจากกิเลน แผดคำรามเสียงดังทันที “ปีศาจแมวที่อยู่ในนั้นเป็นลูกศิษย์ของข้า! ได้โปรดปล่อยตัวออกมาก่อนค่อยพูดจากัน!”
“ไม่ว่าเทพหรือปีศาจตนใด หากลักลอบขโมยลูกกลอนเซียนล้วนต้องตายสถานเดียว” หลี่เทียนหวังไม่หวั่นไหว ยังคงยืนกรานความคิดของตน
จิ่นเหวินก็ดิ้นรนร้องตะโกนขึ้นมาอีก “ผู้ที่ลักลอบขโมยลูกกลอนเซียนคือข้า ไม่เกี่ยวกับเหมียวเหมียว! ขอร้องท่าน จะประหารก็ประหารข้าเถิด!”