นั่นเป็นวันที่สามที่ข้าต้องเข้ามาอยู่ในห้องขัง…ขณะที่ทุกค่ำคืนหวาวาจะเอาซาลาเปาไส้ปลาหรือโจ๊กเนื้อปลามาให้ข้า เทพปี้ชิงกลับส่งโม่หลินคนน่ากลัวผู้นั้นมาให้ข้า…
พูดถึงประสบการณ์เลือดและน้ำตาที่เกิดขึ้นขณะอยู่กับโม่หลิน เรียกได้ว่ามีนับไม่ถ้วน ข้าไม่เคยไปขโมยของกินที่บ้านของเขา และไม่เคยไปทุบข้าวของบ้านเขาแตกเสียหาย ตามเหตุผลแล้วไม่ควรมีความอาฆาตแค้นใดๆ ต่อกัน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดเขากลับมีความอาฆาตแค้นต่อข้ามากมายเพียงนั้น ทุกครั้งที่เจอเขา ข้าไม่ถูกปักด้วยเข็มก็ต้องถูกพันห่อร่างเอาไว้ ไม่ก็ถูกกรอกยาขม ในใจของข้าเขาถูกจัดอยู่ในอันดับเหนือกว่าสุนัข เป็นศัตรูที่น่าชิงชังหมายเลขหนึ่งไปนานแล้ว
ข้าลุกขึ้นมาอย่างระแวดระวัง เข้าไปซุกตัวอยู่ตรงซอกมุม เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวจับตามองการเคลื่อนไหวของเขา ไม่รู้ว่าก้าวต่อไปจะต้องเจอกับเคราะห์กรรมเช่นใด
เทพปี้ชิงกลับเดินเข้ามาคว้าตัวข้าอุ้มขึ้นมา บอกเสียงนุ่มนวล “บาดแผลของเจ้ายังไม่หาย มาให้ท่านหมอดูหน่อย”
“เมี้ยว…ไม่เอา ไม่เอา! เขาเป็นคนเลว!” ข้าที่ถูกควบคุมพลังอาคมไว้พยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่กลับไม่อาจดิ้นหลุดจากอ้อมแขนทรงพลังของเทพปี้ชิงได้ ถูกกดให้ล้มนอนลงตรงหน้าโม่หลิน
“ไม่ต้องกลัวๆ ข้าไม่ใช่คนเลว” บนใบหน้าโม่หลินมีรอยยิ้มชั่วร้ายประดับอยู่ ดูไม่สอดคล้องกับคำพูดของเขาโดยสิ้นเชิง เขาหยิบกรรไกรเงินออกมาตัดผ้าพันแผลบนตัวข้าออก จากนั้นก็พลิกดูบาดแผลอย่างละเอียด เขาย่นหัวคิ้ว ถอนหายใจยาวออกมาทีหนึ่ง “ยุ่งยากเล็กน้อย”
“มีอะไรยุ่งยากหรือ” เทพปี้ชิงเอ่ยถาม
โม่หลินลังเลอยู่ชั่วขณะแล้วบอก “ขนของนางถูกเผาเกรียมไปหลายจุดมาก ไม่ส่งผลดีต่อบาดแผล ทางที่ดีต้องโกนทิ้งให้หมด”
โกนขน?
คำพูดนี้ต้องเป็นมารร้ายผู้โหดเหี้ยมที่สุดในนรกจึงจะพูดออกมาได้ เปรียบประดุจอสนีบาตของเทพบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะข้า ทำให้ข้ามองเขาอย่างตะลึงลานอยู่เป็นนานสองนานก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมา
แต่ไรมาข้าก็มีความภาคภูมิใจในขนอันสวยงามของตนมาโดยตลอด โม่หลินคนสารเลวผู้นี้ถึงกับบอกจะโกนขนของข้าทิ้งอย่างไร้ยางอาย เขาจะต้องริษยาข้าที่ตัวเขาไม่มีขนแน่นอน ด้วยเหตุนี้จึงคิดจะข่มเหงข้า!
ความสับสนว้าวุ่นและความโกรธแค้นที่ไม่เคยมีมาก่อนไหลบ่าไปทั่วร่าง ทำให้ข้าไม่คำนึงถึงสิ่งใดสะบัดตัวหลุดจากเทพปี้ชิง จากนั้นก็กัดไปที่มือของโม่หลินเต็มแรง กัดจนเขาร้องโอดโอยออกมา คว้าตัวข้าสะบัดไปมากลางอากาศไม่หยุด
ข้ากัดแน่นไม่ยอมปล่อย ปล่อยให้ตนเองถูกสะบัดไปสะบัดมาราวกับชิงช้า
มือของโม่หลินถูกข้ากัดจนเป็นแผลแล้ว โลหิตสดค่อยๆ ซึมออกมา เทพปี้ชิงรีบเข้ามาจับตัวข้า ออกแรงง้างปากข้าจึงจะช่วยเขาออกมาได้พลางกล่าวกับเขาด้วยความไม่สบายใจ “ขออภัย”