เหมียวเหมี่ยวมุ่ยปาก ศีรษะพิงกับหน้าต่างรถ เห็นทัศนียภาพนอกหน้าต่างแตกต่างกับเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิง มันผ่านสายตาของเธอไปด้วยความเร็วสูง ทว่ารถก็ยังคงมั่นคง ฟางไหลหยางขับรถได้นิ่มมากๆ เลย เหมียวเหมี่ยวรู้สึกได้ถึงความห่างชั้นก็ยิ่งสลดเข้าไปใหญ่
หลังจากที่ฟางไหลหยางขับรถด้วยตัวเอง เขาก็ไม่เมารถแล้ว สีเลือดบนใบหน้าก็กลับสู่สภาพเดิม
เหมียวเหมี่ยวยิ่งเศร้าสร้อยขึ้นไปอีก เธอซึมจนผล็อยหลับไปในที่สุด
ฟางไหลหยางฟังเพลงร็อกสไตล์ญี่ปุ่นอย่างที่เคยฟังบนรถเมื่อครั้งก่อน เหลือบตามองศีรษะของเหมียวเหมี่ยวที่เอนไปอีกฟากหนึ่ง จะตกแหล่มิตกแหล่ ก็ถอนหายใจด้วยความจนใจ หลังจากลดเสียงเพลงลงแล้วก็ยื่นแขนยาวออกไป เกี่ยวเอาผมที่เหมียวเหมี่ยวกินเข้าไปออกมา แล้วจึงย้ายไปไว้ที่หลังหู
ผู้หญิงคนนี้ออกไปไหนมาไหนกับคนที่เคยเจอกันแค่สามครั้งก็หลับไปเลยงั้นเหรอ กล้าไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
เป็น ‘ผู้กล้า’ จริงๆ เสียด้วย
ฟางไหลหยางหัวเราะเบาๆ เขาอารมณ์ดีเหมือนกับอากาศวันนี้ที่พระอาทิตย์สดใสตระการตา
ตลอดทางเขาตั้งใจลดเสียงเพลงให้เบาลง ได้ยินเพียงเสียงจังหวะกลองเบาๆ และเสียงลมหายใจแผ่วเบาของหญิงสาว ก็ไม่รู้ว่าเธอเหนื่อยเกินไปหรือเปล่าถึงได้ไม่ลืมตาขึ้นมาอีกเลย เธอหลับลึกมาก ฟางไหลหยางกลัวว่าเธอจะหลับจนเป็นหวัด ก็เลยเพิ่มอุณหภูมิแอร์ในรถให้สูงขึ้นแล้วจอดรถเข้าข้างทางอีกครั้ง คว้ากระเป๋าหยิบเสื้อกันลมออกมา เขาเอามาด้วยเพราะกลัวจะทำเสื้อผ้าเลอะเทอะ ไม่คิดว่าจะได้ใช้จริงในตอนนี้
เขาแผ่เสื้อกันลมออกมาคลุมตัวเหมียวเหมี่ยวเอาไว้ ฟางไหลหยางถึงได้เริ่มขับรถต่ออีกครั้ง
เมื่อรถเข้าใกล้กับเขาฟางซาน ในที่สุดเหมียวเหมี่ยวก็ตื่นขึ้นมา
แค่ขยับก็รู้สึกได้ถึงเสื้อที่คลุมตัวเธอเอาไว้ สติสัมปชัญญะก็ค่อยๆ กลับคืนมา เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ตรงหน้าขึ้นมาได้เหมียวเหมี่ยวก็โวยวายหน้าแดงซ่าน
“ว้าย…ตายจริง ขอโทษด้วยนะคะ! ฉันหลับไปซะอย่างนั้น!” เหมียวเหมี่ยวอับอายจนแทบจะร้องไห้ออกมา “ให้คุณขับรถมาตลอดทางเลย แถมยังเอาเสื้อมาห่มให้ฉันอีก ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ฉันต้องขอโทษคุณจริงๆ ค่ะ”
พอเห็นว่าสีหน้าของเหมียวเหมี่ยวเหมือนจะร้องไห้ออกมา ฟางไหลหยางก็อดจะขำไม่ได้ “เอาล่ะ ใกล้จะถึงแล้ว เตรียมตัวได้แล้วนะ”
“ค่ะ…” เหมียวเหมี่ยวก้มหน้าลง ไม่ได้ตอบโต้อะไร
เธอยังคงถือเสื้อกันลมของผู้ชายคนนี้เอาไว้ในมือ รู้สึกได้ถึงเนื้อผ้ามันขลับ เหมียวเหมี่ยวใจเต้นจนรู้สึกชา บอกไม่ถูกว่าเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติหรือว่าอะไรกันแน่ เธอรู้แค่ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจปั่นป่วนไปหมดแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าชายคนนี้เป็นพวกน่ารำคาญที่ช่างแปลกประหลาด แต่ดูตอนนี้แล้ว เขาช่างเป็นคนดีเสียจริง แถมยังอ่อนโยนเอาใจใส่ เหมียวเหมี่ยวก้มหน้าลง แอบชำเลืองตาขึ้นมองฟางไหลหยาง
ฟางไหลหยางจดจ่อกับการขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจ กรอบหน้าด้านข้างคมชัดอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก ทั้งยังแลดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ เหมือนกับสายฟ้าผ่าลงมาที่ตัวเหมียวเหมี่ยว เหมียวเหมี่ยวรู้สึกว่าความอ่อนล้าพุ่งขึ้นมาจากขา แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายไปจนถึงหน้าผาก
เหมียวเหมี่ยวจับหน้าอกไว้ รู้สึกว่าข้างในมีอะไรบางอย่างขยายขึ้นเป็นรสชาติหวานอมเปรี้ยว ก้มหน้าลงด้วยความตื่นตระหนก
ให้ตายสิ ฉันคงจะไม่ได้…
ชอบเขาคนนี้เข้าแล้วหรอกนะ?!
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 12 ม.ค. 65 เวลา 12.00 น.