ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

หน้าที่แล้ว1 of 7

บทที่ 62

เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แสงตะเกียงบนโต๊ะ

ดวงตาคมตรึงอยู่บนฎีกาที่ได้รับ ช่วงแรกยังกวาดตาอ่านเร็วๆ ด้วยสีหน้าเยือกเย็น

ชื่อซูยังไม่ตาย กำลังชักใยสร้างความปั่นป่วนให้แปดดินแดน แม้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างปุบปับ แต่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายมากมายนัก

ส่วนเจียงจู่วั่งเมื่อได้รับสารขอความช่วยเหลือจากต้าเฮ่ออ๋องก็เร่งจัดทัพส่งไปช่วยอย่างเร่งด่วน ข้อนี้ก็สอดคล้องตามการคาดการณ์ของซู่เซิ่นฮุยเช่นกัน

ที่ก่อนหน้านี้เขาวางอำนาจเด็ดขาดทางการทหารลงบนมือแม่ทัพใหญ่แดนเหนือ นอกจากต้องการแสดงให้เจ้าตัวเห็นถึงความตั้งใจที่จะตอบแทนผลประโยชน์จากการแต่งงานนี้ ยังเป็นเพราะเล็งเห็นว่าเป่ยตี๋อาจชิงก่อเหตุวุ่นวายก่อนที่ต้าเว่ยจะเคลื่อนพลข้ามชายแดนไปเปิดศึก

ศึกสงครามเร่งด่วนไม่ต่างจากไฟไหม้ เขามอบอำนาจทางการทหารแก่เจียงจู่วั่งมากขึ้นเพื่อให้เจ้าตัวดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที จะได้ไม่ผลาญเวลากับการส่งข่าวไปกลับจนเสียโอกาสทางพิชัยยุทธ์

แต่เมื่ออ่านต่อไปเรื่อยๆ ดวงตาของเขาก็พลันหรี่เกร็ง หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอก

ซู่เซิ่นฮุยแทบไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง เขาจ้องเนื้อความช่วงสุดท้ายของฎีกาเขม็ง พยับเมฆหม่นทะมึนก่อตัวขึ้นในดวงตาอย่างรวดเร็ว

หลังได้สนทนากับเจียงหานหยวนบนเตียงนอนจนเป็นที่แน่ใจว่าต่างฝ่ายต่างมีปณิธานเดียวกันในคืนนั้น เขาก็ให้คนนำตราพยัคฆ์และคำสั่งมอบอำนาจไปเยี่ยนเหมินในนามกองทัพ

แม้ตอนนั้นจะไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่เขาเชื่อว่าเจียงจู่วั่งย่อมมีวิจารณญาณอยู่ในใจ

ในเมื่อบุตรสาวแต่งงานกับเขาแล้ว ต่อให้เขายอมปล่อยนางกลับเข้าค่ายทหาร แต่พ่อตาของเขาน่าจะไม่มอบหมายภารกิจเสี่ยงภัยให้นางทำอีก

ข้อนี้ชายหนุ่มคิดว่าไม่จำเป็นที่ตนต้องออกปากพูดให้ชัดเจนแต่อย่างใด

เจียงจู่วั่งเป็นแม่ทัพสุขุมมากประสบการณ์ ไม่มีทางไม่เข้าใจอยู่แล้ว

ซู่เซิ่นฮุยไม่คิดเลยจริงๆ ว่าแม่ทัพใหญ่จะกล้าทำเช่นนี้!

ดูจากวันที่ในฎีกา น่าจะเป็นช่วงที่นางกลับถึงเยี่ยนเหมินได้ไม่ทันไร

นางเพิ่งกลับไปถึง ก่อนกลับยังทะเลาะกับเขาอย่างรุนแรง น่ากลัวว่ายังไม่ทันฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าระหว่างเดินทางด้วยซ้ำ กลับถูกผู้เป็นบิดาสั่งให้คุมกองทัพไปตามเส้นทางเสี่ยงอันตรายกลางถิ่นศัตรูชาวตี๋ทันที!

ต่อให้นางเป็นคนเสนอตนเอง เจียงจู่วั่งจะปฏิเสธไม่เป็นเชียวหรือ

ตนเองเป็นแม่ทัพใหญ่ ขอเพียงไม่อนุญาตเสียอย่าง แม้บุตรสาวจะดื้อรั้นสักเพียงใดก็ไม่มีทางนำตราคำสั่งยกทัพออกไปเองได้

โทสะเดือดพล่านอยู่ในใจซู่เซิ่นฮุย จนใจที่มีขุนเขาสายน้ำขวางกั้น ไม่อาจติดปีกบินไปชายแดนเหนือได้ทันที เขาโยนฎีกาลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินไปที่หน้าประตูแล้วตะโกนเรียกเสียงเข้ม “หลิวเซี่ยง!”

สารฉบับนี้ถูกส่งด่วนมาจากเยี่ยนเหมิน ด้วยความที่เคยเป็นทหารมาก่อน หลิวเซี่ยงจึงค่อนข้างสนใจใคร่รู้ เมื่อครู่จึงได้นำมาให้เจ้านายด้วยตนเอง หลังอ๋องผู้สำเร็จราชการรับไปแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับไปในทันที ยังคงยืนรออยู่แถวนั้น พอได้ยินเสียงเรียกที่แฝงไว้ด้วยโทสะก็ใจเต้นแรง รีบสาวเท้าเดินไปผลักประตูเข้ามาข้างในทันที

“ท่านอ๋องทรงมีสิ่งใดจะบัญชา”

“ให้คนส่งคำสั่งด่วนของข้าไปเยี่ยนเหมินด้วยม้าเร็วแปดร้อยหลี่! ให้เจียงจู่วั่ง…”

อยู่ๆ คำพูดของเขาก็สะดุด เงียบไปเพียงเท่านั้น

หลิวเซี่ยงรออยู่พักหนึ่ง อ๋องผู้สำเร็จราชการยืนนิ่งอยู่กับที่ สองตาจ้องมองฎีกาบนโต๊ะที่ไม่รู้เขียนมาว่าอย่างไรด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถมึงทึง เขาเห็นแล้วอดเป็นกังวลแทนนายเก่าไม่ได้

ต้องไม่ลืมว่าการส่งข่าวด่วนด้วยม้าเร็วแปดร้อยหลี่ต่อวันนั้นจำกัดแค่เฉพาะในกรณีที่มีเหตุกะทันหันทางการทหารหรือเรื่องสำคัญในระดับเดียวกันเท่านั้น ถึงจะสามารถส่งข่าวด้วยวิธีนี้ได้

แต่เท่าที่ดูจากสีหน้าอ๋องผู้สำเร็จราชการ เหมือนจะไม่ใช่เรื่องทางการทหาร…ข้อนี้หลิวเซี่ยงแน่ใจทีเดียว ไม่ว่าเป็นเรื่องทางการทหารที่สำคัญสักเพียงไร ต่อให้เวลานี้เป่ยตี๋ยกกองทัพขนาดใหญ่บุกประชิดชายแดนเยี่ยนเหมิน เขาก็คิดว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการไม่น่าจะมีสีหน้าถมึงทึงเช่นนี้ หลิวเซี่ยงอดกังขาไม่ได้ว่าสารที่เจียงจู่วั่งส่งมามีข้อความล่วงเกินชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรุนแรงหรือไม่

กลั้นหายใจรอได้สักพักเขาก็เลียบเคียงถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านแม่ทัพใหญ่เจียงมีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฝ่ายตรงข้ามยังคงไม่มีการตอบสนองต่อคำถามนั้น หลิวเซี่ยงไม่กล้าถามต่อ รออยู่อีกครู่หนึ่ง ในที่สุดอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยกแขนโบกมือให้ตนเอง

หลิวเซี่ยงเข้าใจความหมาย จึงได้แต่สะกดความสงสัยและความกังวลที่อัดแน่นอยู่ในใจ ก้มศีรษะถอยกลับออกไปเงียบๆ

ซู่เซิ่นฮุยทรุดตัวลงนั่งอย่างแช่มช้า สายตาตรึงนิ่งอยู่บนข้อความช่วงสุดท้ายในสารจากแม่ทัพแดนเหนือ ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว

หน้าที่แล้ว1 of 7

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com