มู่เซวียนชิงนั่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนหันไปมองมู่ฝูหลัน
“น้องพี่ เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่ามีเรื่องจะหารือ เป็นเรื่องใดหรือ”
สายตาหลายคู่เบื้องหน้าหันไปที่นาง
มู่ฝูหลันอ้าปากพูด “ข้ารู้ว่าพี่อยากขยายกองทัพ แล้วที่ข้าอยากพูดก็เกี่ยวกับเรื่องนี้พอดีเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าที่ใดมีเหมืองที่ขุดได้ ทั้งสะดวกอย่างมากเพราะว่ามันอยู่ในเขตหรู่ของแคว้นฉางซาเรานี่เอง”
คนอื่นๆ ตะลึงงันไป
“พวกท่านน่าจะยังจำได้ว่าข้าส่งสารกลับมาช่วยพี่เซวียนชิงได้อย่างไรกระมัง นี่คงเป็นท่านเทพดลใจดุจเดียวกัน ถึงทำให้ข้าล่วงรู้เรื่องนี้พร้อมกันในตอนนั้น พรุ่งนี้พี่ก็ส่งคนไปสำรวจที่เขตหรู่ดู ถ้าเป็นจริงก็อ้างเหตุผลว่าเป็นที่ที่มีภูมิลักษณ์เหมาะจะสร้างสุสานบรรพชนสกุลอีกแห่ง จากนั้นย้ายชาวบ้านทั้งหมดไปที่อื่นแล้วลักลอบขุดเหมืองเหล็กในภูเขาหลอมเป็นอาวุธที่นั่นเลยเจ้าค่ะ”
มู่เซวียนชิงยินดียกใหญ่
“หรือสวรรค์เข้าข้างสกุลมู่เราจริงๆ ช่างดีเหลือเกินโดยแท้ ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบวันพรุ่งนี้เลย”
ลู่หลินก็ตื่นเต้นสุดประมาณ เขาลุกขึ้นยืนเอาสองมือไพล่หลังย่ำเท้าวนไปวนมา แต่พอฉุกคิดเรื่องหนึ่งได้ก็ทำหน้าหนักอกอีกคราหนึ่ง
“หากนิมิตฝันของท่านหญิงเป็นจริง การขยายกองทัพของแคว้นฉางซาก็มีความหวังแล้ว เพียงแต่จะขุดเหมืองหลอมอาวุธ เกณฑ์ไพร่พลฝึกฝนทหาร ใช่จะสำเร็จลุล่วงได้ในชั่วประเดี๋ยวเดียว อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งปีครึ่งปีถึงจะประสบผล ข้าหวั่นใจว่ากว่าจะถึงตอนนั้นราชสำนักก็โจมตีแคว้นฉางซาของเราแล้ว”
มู่ฝูหลันกล่าว “ข้ามีหนทางหนึ่ง แม้ไม่อาจขจัดต้นตอเภทภัยได้ แต่ก็พอประวิงเวลาให้เราได้บ้าง น่าจะกระทำได้เจ้าค่ะ ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนักยามนี้ ผู้ที่ไทเฮาชั่วโปรดปรานและไว้วางใจคือมุขมนตรีจางปัน ภายนอกจางปันเป็นคนสุจริตซื่อสัตย์ แต่แท้ที่จริงเป็นคนละโมบ ไยไม่ลองทุ่มเงินติดสินบนให้เขาพูดในสิ่งที่เอื้อประโยชน์แก่พวกเราต่อหน้าไทเฮา ถึงแม้จะปราบกบฏเจียงตูอ๋องได้แล้ว แต่หลู่อ๋องกับผิงหยางอ๋องยังคงเป็นเสี้ยนหนามของราชสำนักอยู่ ถ้าจางปันสามารถพูดโน้มน้าวให้ไทเฮาชั่วเล่นงานสองคนนั้นก่อน จะช่วยสร้างโอกาสให้แคว้นฉางซาของพวกเราได้ขยายกองทัพ”
“วิธีนี้ดีจริง แต่ท่านหญิง ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเขาเห็นแก่ทรัพย์สินเงินทอง” ลู่หลินฉงนสงสัย
มู่ฝูหลันรู้เรื่องเหมืองหรู่เพราะว่าชาติก่อนเมื่อแคว้นฉางซาสิ้นแคว้น ชาวบ้านในเขตหรู่ทนการรีดนาทาเร้นไม่ไหว ต่างพากันหลบหนีขึ้นเขาไปหักร้างถางพงประทังชีพแล้วเจอแร่เหล็กจำนวนมากโดยบังเอิญ เมื่อข่าวแพร่ออกไปราชสำนักก็มาตามคำเล่าลือและยึดครองเอาไว้ ก่อนจะสร้างเหมืองขนาดใหญ่ขึ้น แค่ว่าภายหลังยังไม่ทันขุดแร่ได้เต็มกำลัง แผ่นดินก็ล่มจมเสียแล้ว
ส่วนจางปันผู้นี้ หลังจากเขาถูกสังหารแล้วก็ค้นพบทรัพย์สมบัติมากมายอยู่ใต้เรือน มีค่ามหาศาลจนเป็นที่ครึกโครมฮือฮาไปทั่วแผ่นดิน เผยโฉมหน้าอันโลภโมโทสันให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนในใต้หล้า เพียงแต่ยามปกติเขาอำพรางได้แนบเนียน คนทั่วไปจึงไม่รู้เท่านั้นเอง
“ท่านเชื่อคำพูดข้าเท่านั้นเป็นพอ” มู่ฝูหลันกล่าว
เพราะครั้งก่อนนางส่งสารมาช่วยชีวิตมู่เซวียนชิงได้ทันเวลา แม้คนอื่นๆ รู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่กล้าไม่เชื่อ
ลู่ซื่อเอ่ยขึ้น “ท่านอา เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชะตาของแคว้นฉางซาเรา ในเมื่อน้องหลันเอ๋อร์พูดเช่นนี้แล้ว ไฉนไม่ลองดูสักตั้งเจ้าคะ”
ลู่หลินนิ่งใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนผงกศีรษะ