วันต่อมาเซี่ยฉางเกิงไปที่เรือนใหญ่แต่เช้าตรู่ ปรนนิบัตินายหญิงเซี่ยกินอาหารด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว บอกกับนางว่าราชสำนักรอคอยเขาเข้าเมืองหลวงไปรายงานตัวอยู่ เกรงว่าไม่อาจอยู่ที่เรือนดูแลมารดาอย่างใกล้ชิดต่อได้อีก เขากลับมาคราวนี้ก็เพื่อกล่าวอำลานาง
นายหญิงเซี่ยอาลัยอาวรณ์เขาอย่างสุดแสน ทว่าอนาคตของบุตรชายสำคัญกว่า จะถ่วงรั้งไว้ได้เช่นไร นางพยักหน้าตกลง ยังช่วยจัดเก็บสัมภาระแล้วให้ชีหลิงเฟิ่งประคองนางเดินไปส่งเขา
เซี่ยฉางเกิงสั่งกำชับบ่าวไพร่ให้ตั้งใจปรนนิบัติรับใช้มารดา ถึงออกจากเรือนเริ่มเร่งเดินทางสมบุกสมบันทั้งวันทั้งคืนอีกคำรบหนึ่ง สุดท้ายก็ไปถึงเมืองหลวงตอนปลายเดือน
เขาได้รับพระราชทานจวนหลังหนึ่งในเมืองหลวงมานานแล้ว ที่นั่นพรั่งพร้อมไปด้วยข้าทาสบริวาร เขาเข้าจวนแล้วชำระกายเสร็จก็พักผ่อนเอาแรง เตรียมไปรายงานตัวที่ราชสำนักวันพรุ่งนี้
ยามดึกมีสารลับจากวังหลวงส่งมาถึงมือเขาอย่างเงียบๆ
สารลับเป็นของขันทีนามเฉาจินในตำหนักของหลิวไทเฮา
ขันทีผู้นี้เป็นลูกศิษย์ของขันทีใหญ่แซ่หยางคนสนิทของหลิวไทเฮา เขากลายเป็นคนของเซี่ยฉางเกิงตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว
ทุกคราที่เขากลับเมืองหลวง เฉาจินจะส่งข่าวมาในราตรีเดียวกันจนเป็นปกติวิสัย
หนนี้ก็ไม่ผิดจากเดิม
ข่าวที่เฉาจินส่งออกมาล้วนเป็นเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในราชสำนักหรือวังหลวงช่วงที่ชายหนุ่มไม่อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เขารู้อยู่แล้ว
ทว่ามีข่าวหนึ่งกระตุ้นความสนใจของเขา
เฉาจินบอกว่าหลายวันก่อนมุขมนตรีจางปันมาเข้าเฝ้าหลิวไทเฮาทูลเสนอความเห็นอย่างลับๆ ทำให้เขาไม่ได้ยินอย่างละเอียด แต่ดูเหมือนเรื่องที่จางปันพูดจะเกี่ยวข้องกับแคว้นฉางซา ด้วยผู้บัญชาการเซี่ยมีสายสัมพันธ์เกี่ยวดองอยู่กับชาวแคว้นนั้น เมื่อมีข่าวเขาจึงรายงานมาพร้อมกันเพื่อให้พินิจพิจารณา
เซี่ยฉางเกิงอ่านจบแล้วเอาแผ่นสารจ่อกับเปลวเทียน
เขามองกระดาษที่ถูกเปลวไฟค่อยๆ กลืนกินมอดไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีพลางจมอยู่ในภวังค์ความคิดเนิ่นนาน
เช้าวันรุ่งขึ้น อีกหนึ่งเค่อถึงเป็นยามเฉินการประชุมขุนนางก็จะเริ่มต้นขึ้น
ตามธรรมเนียมปกติ พวกขุนนางใหญ่ซึ่งมาถึงก่อนเวลามักชุมนุมกันอยู่ที่ท้องพระโรงฝั่งตะวันออกก่อน รอคอยหลิวไทเฮาพาฮ่องเต้น้อยออกว่าราชการ
พวกเขาบ้างยืนบ้างนั่งเป็นกลุ่มเล็กๆ วิพากษ์วิจารณ์กันเสียงเบา หัวข้อสนทนาย่อมหนีไม่พ้นเซี่ยฉางเกิงผู้บัญชาการกองทัพเหอซี คนโปรดของหลิวไทเฮาในเพลานี้
เขามาถึงเมืองหลวงเมื่อวานตอนเย็นก็ถวายฎีกาไปที่วังหลวง ไทเฮาเห็นใจที่เขาเดินทางลำบากตรากตรำ ให้เขาพักผ่อนหนึ่งคืน ไม่จำเป็นต้องเข้าวังทันที พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้าเฝ้าก็ไม่สาย
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปทั่วแต่แรกแล้ว
ทุกคนต่างคุยถกกันถึงผลงานการปราบกบฏเจียงตูอ๋องเมื่อไม่นานมานี้ของเขา อิจฉาที่เขาสร้างความชอบครั้งใหญ่ได้อีกแล้ว ครั้งนี้เข้าเมืองหลวงรายงานตัวคงไม่แคล้วต้องได้เลื่อนยศพระราชทานบรรดาศักดิ์แน่