ภิกษุชราเพ่งมองมู่ฝูหลันด้วยสายตาสงบนิ่งทว่าลึกล้ำชั่วครู่ก่อนกล่าว “เดิมทีเด็กผู้นี้หาใช่ผู้เข้าสู่ทางธรรม แต่เพราะบุญนำกรรมแต่งถึงได้ขออาศัยอยู่ที่นี่ในตอนนั้น บัดนี้สีกามาตามหาแล้ว สายเลือดเดียวกันกลับมาพบกัน วิถีแห่งฟ้า สายสัมพันธ์ของมนุษย์ อาตมาจะกล้าไม่ปล่อยเขาหรือ”
มู่ฝูหลันคำนับขอบคุณจากส่วนลึกของใจ นางค่อยๆ สงบจิตใจลง ไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วตกลงปลงใจอย่างรวดเร็ว พูดกับซีเอ๋อร์ “เรือนของแม่อยู่ที่ที่มีชื่อว่าแคว้นฉางซา ที่นั่นไกลจากที่นี่มาก ตอนนี้แม่ยังมีธุระ ไม่อาจพาเจ้ากลับไปด้วยกันตอนนี้ แม่จะให้คนส่งเจ้ากลับเรือนก่อน เจ้าอยู่ที่นั่นรอจนกว่าแม่กลับไป…ได้หรือไม่”
ซีเอ๋อร์อึ้งไป ดวงตาฉายแวววิตกกังวล สองแขนเล็กโอบรอบคอนางแน่น เขาลังเลเล็กน้อยก่อนกล่าวเสียงเบา “ท่านแม่ ท่านจะไม่กลับมาหรือ จะทอดทิ้งข้าอีกหรือไม่”
ในใจมู่ฝูหลันทั้งขื่นขมทั้งร้อนผะผ่าว นางโอบบุตรชายเข้าสู่อ้อมอกอีกครา กดจูบบนหน้าผากของเขาทีหนึ่งแรงๆ
“ซีเอ๋อร์วางใจได้ ซีเอ๋อร์เป็นคนที่แม่รักมากที่สุดในโลกนี้ แต่ก่อนแม่เสาะหาเจ้าไม่เจอ ตอนนี้ตามหาเจ้าพบแล้ว แม่จะทอดทิ้งเจ้าได้เช่นไร ซีเอ๋อร์เชื่อฟังแม่นะ รอเมื่องานทางนี้เสร็จสิ้น แม่จะกลับเรือนทันที หลังจากนั้นพวกเราจะไม่พรากจากกันอีก ได้หรือไม่”
ซีเอ๋อร์ระบายลมหายใจเฮือกหนึ่ง ใบหน้ากลับมามีรอยยิ้มชื่นบานดังเก่า
“ได้ ซีเอ๋อร์เชื่อฟังท่านแม่ จะอยู่ที่เรือนรอท่านแม่กลับมา”
มู่ฝูหลันกอดบุตรชายแนบแน่นอยู่นานครู่หนึ่งถึงปล่อยตัวเขา นางกลับไปอยู่ตรงหน้าพระอาจารย์ฮุ่ยจี้อีกครั้ง กล่าวขึ้น “พระอาจารย์ใหญ่ วันนี้ข้าจะส่งคนขึ้นเขามาพาซีเอ๋อร์ไปโดยไวที่สุด”
พระอาจารย์ใหญ่ไม่เอื้อนเอ่ยวาจา เพียงกวักมือเรียกซีเอ๋อร์
เด็กน้อยวิ่งไปหาเขา
พระอาจารย์ใหญ่อมยิ้มลูบศีรษะเขาอย่างเมตตารักใคร่ ชี้ไปที่หมู่เจดีย์ข้างหน้าพลางพูด “บุญกรรมเริ่มขึ้นที่นี่ มีเริ่มก็ต้องมีจบ ซีเอ๋อร์เต็มใจจะกวาดพื้นตรงนี้กับอาจารย์จนเสร็จแล้วค่อยไปหรือไม่”
“ซีเอ๋อร์เต็มใจ”
เขาพยักหน้าทันทีแล้ววิ่งไปหยิบไม้กวาดอันเล็กที่วางลงอันนั้นขึ้นมาอีก จากนั้นผินหน้าไปพูดกับมู่ฝูหลันด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ ซีเอ๋อร์ช่วยอาจารย์กวาดพื้นเสร็จแล้วถึงไปได้”
มู่ฝูหลันน้ำตารื้น นางคลี่ยิ้มพยักหน้าตกลง
นางยืนมองแผ่นหลังเล็กๆ ที่กวาดพื้นอย่างขยันขันแข็งของซีเอ๋อร์อยู่ด้านข้าง ซับคราบน้ำตาที่ติดอยู่บนหน้าออกแล้วหมุนกายกลับไปด้านหน้าวัดเริ่มมอบหมายงานต่างๆ
นางเข้าเมืองหลวงมาหนนี้ มู่เซวียนชิงจัดเตรียมนักรบเดนตายฝีมือดีของสกุลมู่ให้นางสองคน พวกเขาเดินทางมากับขบวนทูตในฐานะผู้ติดตาม
เมื่อทูตของแคว้นฉางซาถวายเครื่องบรรณาการแล้วไม่อาจรั้งอยู่ต่อไปได้และต้องกลับไปภายในสามวัน แต่นักรบเดนตายสองคนนั้นยังคงแอบซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงเพื่อรอรับคำสั่งจากนาง
มู่ฝูหลันรู้ว่าวันข้างหน้าของตนนั้นยากคาดเดา อาจถึงขั้นเคราะห์ร้ายมากกว่าโชคดี
แต่ด้วยเหตุนี้นี่เองนางถึงต้องส่งซีเอ๋อร์กลับแคว้นฉางซาโดยไว
ขอแค่ซีเอ๋อร์กลับถึงที่นั่นอย่างปลอดภัย นางจึงจะรับมือกับคนที่เผชิญหน้าอยู่เหล่านั้นได้อย่างสบายใจ
นางต้องหลุดพ้นไปให้เร็วที่สุดโดยไม่คำนึงถึงวิธีการและไม่นำพาว่าต้องแลกด้วยอะไร