“ที่นี่ของบริษัทพี่หรือพี่เมฆ”
วรัทถามเมื่อลงจากเรือขึ้นมายังกระชังใหญ่ที่ดูหรูหราผิดกับกระชังของศูนย์ฯ เรียบร้อยแล้ว เมฆพยักหน้ารับอย่างอวดๆ
“นี่แค่ส่วนหนึ่ง ยังอยู่ระหว่างการทดลองนะ แต่ที่ทำงานจริงๆ อยู่ที่เกาะโน่น”
เขาชี้มือตรงไปยังเกาะเล็กๆ ที่เห็นอยู่ไกลลิบเบื้องหน้า
“แล้วทำไมพี่มาทำอยู่นี่ล่ะ อ๊ะๆๆ ถูกเขาเนรเทศมาใช่มั้ยล่า”
นลินทำหน้ารู้ทัน เดินตามสะพานแคบๆ เหมือนที่กระชังโน้น ตรงไปยังห้องบัญชาการที่เหมือนจะเป็นห้องบัญชาการจริงๆ เพราะมีประตูหน้าต่างมิดชิด
“อย่ามาทำรู้ดีเลยเอ็ง ข้าน่ะลูกน้องคนโปรดของนายหัวเลยนะเว้ย”
เมฆพูดอย่างยืดๆ นลินย่นจมูกล้อเลียน ก็รู้อยู่ว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นคนจริงเอางานเอาการแค่ไหน แต่ก็อดแกล้งพูดแซวไม่ได้
“โอ้โห มีนายหัวซะด้วย ยังกะในหนังสือนิยายแน่ะพี่ แล้วเป็นไงนายหัวนี่แก่มากมั้ย สงสัยจะแก่แหงแซะเลย แก่ๆ ตัวดำๆ หนวดเคราครึ้มๆ แล้วก็ต้องดุชะมัดเลยใช่ม้าพี่เมฆ”
“บรรยายมาเกือบถูกเลยน้อง”
เสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตอบมาแทนเมฆที่ยืนทำหน้าปั้นยากอยู่ นลินหันมอง พี่คนขับรถที่เจอเมื่อวานยืนหัวเราะรับสายลมแสงแดดอยู่ ข้างกันนั้นยังคงเป็นชายหนุ่มตัวสูงที่เมื่อวานใส่แว่นดำอย่างไรวันนี้ก็ยังใส่แว่นดำอย่างนั้นอยู่ นลิน ปาลิตา วรัทหันมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“พี่ใจดีมาอยู่นี่ได้ไงน่ะ”
แล้วก็นลินอีกนั่นล่ะที่หลุดปากออกมา พี่ใจดีหัวเราะเก่ง หัวเราะอีกแล้ว ในขณะที่คนที่ยืนข้างๆ ยังทำหน้าเฉย
“นั่งเรือมากับนายเมฆเมื่อกี้ไง ไงเมฆ แนะนำน้องๆ ให้รู้จักหน่อยสิ”
เขาหันหารุ่นน้อง เมฆยิ้มแหยมองคนตัวโตที่ยืนเฉยอย่างเกรงๆ ก่อนจะเอ่ยแนะนำเป็นรายตัว
“ผู้ชายอ้วนกลมนั่นชื่อวรัทครับ”
“รู้จักๆ กั๊ตจัง เคยเจอกันแล้วเนอะ” เขาพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม
“ผมไม่ได้ชื่อนั้นพี่ อย่าเรียกเลย ไอ้ลินเรียกคนเดียวก็แย่แล้วครับ”
วรัทแก้ตัวอุบอิบ ก่อนจะยกมือไหว้ทำความเคารพ
“ส่วนนี่น้องตาครับ ปาลิตา”
ปาลิตายิ้มยกมือไหว้ตามคำแนะนำ ส่วนนลินยืนยิ้มเผล่รอรับการแนะนำตัวอยู่แล้ว แต่เมฆแกล้งเฉยไม่แนะนำ
“พี่ ลินล่ะ แนะนำลินบ้างสิพี่” นลินสะกิดรุ่นพี่เบาๆ
“แนะนำเองโว้ย เอ็งกับข้าไม่เกี่ยวกัน”
เมฆตอบสะบัดๆ นลินมองหน้ารุ่นพี่งงๆ
“อ้าว…ไหงงั้นล่ะพี่ ไม่เป็นไรแนะนำเองก็ได้ ชื่อนลินค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าลินก็ได้ค่ะ”
เธอแนะนำตัวหน้าเป็น ชายหนุ่มอารมณ์ดียิ้มตอบก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวบ้าง
“พี่ชื่อเภ…เภตรา เป็นรุ่นพี่พวกน้องๆ ซัก 6-7-8 ปีได้มั้ง เป็นผู้จัดการของฟาร์มหอยมุกนี่ล่ะ เรียกพี่เภก็ได้”
เภตราเอาศอกกระทุ้งเพื่อนที่ยืนนิ่งข้างๆ ชายหนุ่มในแว่นดำยังไม่ยอมแนะนำตัว เภตราเลยเอ่ยแนะนำให้เอง ด้วยรอยยิ้มที่มากเป็นพิเศษเมื่อมองหน้านลิน