“ก็ชอบนี่คะ ลินชอบสิ่งมีชีวิต อยากเรียนอะไรเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคน”
“เบื่อมนุษย์ว่างั้นเถอะ”
เขาดักคอ นลินยิ้มพยักหน้ารับ
“มนุษย์น่าเบื่อออกค่ะ”
“อืม เราก็เบื่อเหมือนกัน มนุษย์ปากเสียมือบอนน่ะ”
นลินแกล้งทำหน้าไม่เข้าใจว่าเขากำลังว่ากระทบเธอ
“ใครหรือคะ มนุษย์ปากเสียมือบอน”
“อยู่ใกล้ๆ แถวนี้ล่ะ”
เธอเหลียวมองหารอบกาย เพื่อนไปยืนอยู่สุดขอบกระชังฝั่งโน้นแล้ว
“เตหรือคะ หรือกั๊ตจัง…วรัทน่ะค่ะ แต่ตาไม่น่าน้า…”
นภนต์แกล้งถอนหายใจดังๆ
“คนเรามักจะไม่เห็นความผิดของตัวเองเสมอ”
“ใช่ค่ะ นลินเห็นด้วย อย่างนายหัว…”
“พอ ไม่ต้องมาหลอกด่าเรา”
เขารีบตัดบทเหมือนรู้ว่าเธอจะเอ่ยอะไร
“โอ๊ย นายหัว มองโลกในแง่ร้าย”
“แน่ะ ยังว่าเราได้อีกแฮะ”
เขาพูดอย่างปลงๆ สายตามองเลยไปยังปลายขอบฟ้า เมฆสีดำก้อนใหญ่ลอยต่ำกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เกาะมากขึ้น ลมเริ่มพัดแรง บ่งบอกว่าพายุคงจะมาเยือนในไม่ช้า นลินมองตามสายตาเขา แล้วหันกลับมาถามอย่างไม่แน่ใจ
“จะมีพายุหรือคะ นายหัว”
“คาดว่าคงอย่างนั้น”
“แล้วหอยพวกนี้ไม่เป็นไรหรือคะ”
เธอถามอย่างสงสัย นภนต์เดินนำกลับ โดยมีนลินเดินตามติด
“ไม่เป็นไร เพราะบริเวณนี้เป็นที่กำบังคลื่นลมน่ะ เลี้ยงหอยต้องหาบริเวณที่จะโดนอิทธิพลของลมพายุน้อยที่สุด”
เขาอธิบาย อดหันมองร่างบางๆ ของสาวน้อยที่เดินตามหลังมาไม่ได้ สายลมที่เริ่มพัดกรรโชกแรงทำให้ผู้ชายร่างสูงใหญ่อย่างเขายังเกือบพลัดตกไป ทำให้อดเป็นห่วงคนร่างบางที่เดินตามหลังมาไม่ได้ แล้วก็จริงอย่างที่คิด เมื่อคนที่เดินตามมาแทบจะปลิวไปกับสายลม นภนต์หัวเราะเมื่อเห็นท่าทางตลกๆ ของนลินที่พยายามจะเลี้ยงตัวอยู่บนสะพานเล็กแคบให้ดีที่สุด มือใหญ่เอื้อมดึงคนตัวบางให้มาเดินนำหน้า ส่วนเขาก็ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังจนตัวแทบจะติดกัน
“ไปเดินข้างหน้าไป จะคอยบังลมไว้ให้”
นภนต์บอกแล้วปล่อยมือเธอออก นลินเงยมองหน้าเขาอย่างขอบคุณแล้วเดินนำไป นภนต์เดินตามติดไม่ยอมห่าง เพราะกลัวร่างบางจะได้ลงไปเล่นน้ำทะเลเสียก่อนที่เจ้าตัวจะอยากเล่น แม้จะมีร่างสูงใหญ่ของนภนต์คอยกันลมไว้ให้ หากสายลมแรงก็ทำเอานลินเดินเซไปเซมา นภนต์จึงตัดสินใจจับต้นแขนบอบบางไว้เป็นการช่วยยึด
“เดินไปดีๆ จะคอยจับไว้ให้”
คราวนี้คนเคยปากกล้าไม่กล้ามองสบตาเขา ก้มหน้าก้มตาเดินไปจนถึงฝั่ง นภนต์จึงปล่อยมือออกพร้อมถามอย่างห่วงใย
“โอเคมั้ย นลิน”
“ขอบคุณค่ะ”
นลินพึมพำตอบเสียงเบา ก้มมองเพียงแค่ปลายเท้าตัวเอง นภนต์มองอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า นลิน”
เธอเงยหน้ามองสบตาเขาเพียงชั่วเสี้ยววินาที ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธแล้ววิ่งไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่ข้างรถ ทิ้งให้อีกคนเดินตามมาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน นภนต์นึกไปถึงหน้าใสของเด็กสาวเมื่อครู่ แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
…เขินก็เป็นเหมือนกันแฮะ หน้าใสๆ แดงแป๊ดอย่างกับลูกตำลึง เถอะนะ ให้แก่นแก้วแค่ไหน ยังไงก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน กุมภาพันธ์ 64)