เขาไม่รู้ว่านางกำลังดีใจเรื่องอะไรอยู่ นางมองทิวทัศน์ภายนอกอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเขาก็จับจ้องนางอยู่ด้านข้างไม่วางตา
นักฆ่าทุกคนล้วนเป็นเด็กกำพร้า เพราะพวกเขาไม่อาจมีภาระที่ทำให้พะว้าพะวังได้ พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด ถูกตั้งเงื่อนไขว่าห้ามมีความรู้สึกห้ามมีน้ำตา ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อการลอบสังหารเท่านั้น
ทว่าเกิดเป็นมนุษย์จะไร้ซึ่งความรู้สึกไร้น้ำตาได้อย่างไร เพียงแต่ต้องปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของทางสำนักเท่านั้น จึงต้องแสร้งทำเป็นไร้ความรู้สึกไร้น้ำตา
เขาดักซุ่มอยู่ในจวนสกุลหร่านมาระยะหนึ่งแล้วก่อนที่นางจะเข้าจวนมา เพื่อไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นเขาจึงต้องบดบังใบหน้าอันหล่อเหลา สวมรอยเป็นองครักษ์คนหนึ่งในจวนสกุลหร่าน แล้วที่แท้องครักษ์ตัวจริงคนนั้นก็ถูกเขากำจัดไปตั้งนานแล้วโดยไม่มีใครรู้
ต่อมาเขาได้รับรายงานลับจากทางสำนักว่าจะส่งสตรีรูปงามนางหนึ่งเข้ามาเป็นสาวใช้ในจวนสกุลหร่าน ภารกิจของนางคือยั่วยวนหร่านเจียงแล้วฆ่า
ยามที่นางเข้ามาในจวนสกุลหร่าน เขาเพียงแต่คอยมองนางอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้ทำให้นางรู้ว่ามีเขาอยู่ในจวนด้วย จนกระทั่งทางสำนักได้ออกคำสั่งให้เขาติดต่อกับนาง ลอบสังหารหร่านเจียงตามคำสั่ง
เขาไม่เคยทำงานพลาดมาก่อน ทว่าเป็นเพราะนางทำให้เขาทำภารกิจพลาดถึงสองครั้ง แต่ที่น่าแปลกก็คือเขาไม่ได้โทษนาง และเขายังเคยไปตรวจสอบตามที่นางสารภาพมาด้วย วันนั้นขณะที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเยวี่ยไหล หร่านเจียงวางกับดักกำลังคนไว้จริงๆ
หากลอบสังหารไม่สำเร็จเขาก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว เขาปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด เขาจะจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทว่าสิ่งเดียวที่เขานึกไม่ถึงคือนาง
เพื่อรักษากำลังไว้ เขาจึงต้องออกไปนอกเมืองก่อน หลังจากที่รายงานกับทางสำนักแล้วค่อยคิดไตร่ตรองอีกที
หลังจากเดินทางอย่างเร่งรีบมาสองวัน วันนี้ในยามกลางวันพวกเขาก็เดินทางช้าลง จอดรถม้าไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมลำธารเพื่อหยุดพักผ่อนสักครู่
พวกเขาแสดงท่าทีดังเช่นในยามปกติ มีบางคนนั่งสมาธิเดินพลัง บางคนนั่งพักผ่อนพิงต้นไม้ บางคนตรวจสอบอาวุธของตนเอง
ไม่ว่าแต่ละคนจะทำอะไรล้วนทำอย่างเงียบกริบ ยกเว้นใครบางคน
เหมียวลั่วชิงนั่งบนรถม้ามาเป็นเวลานาน ครั้นนางเห็นลำธารที่มีน้ำไหลเอื่อย แววตาของนางก็พลันเป็นประกายราวดวงตะวันจันทรา
นางก้าวเดินไปยังริมลำธาร ถอดรองเท้าและถุงเท้าออก เท้าเปลือยเปล่าของนางเหยียบย่ำอยู่ในน้ำ ถอนใจอย่างสบายตัวยิ่ง
น้ำในลำธารใสสะอาด มัจฉาแหวกว่ายไปมาอย่างรื่นรมย์ นางแช่เท้าทั้งสองข้างไว้ในลำธาร บางครั้งก็โน้มตัวลงไปวักน้ำที่เย็นสะอาดขึ้นมาล้างหน้า
เมื่อเดินเหนื่อยแล้วนางก็นั่งลงบนก้อนหิน เท้าทั้งสองเตะน้ำเล่นเป็นพักๆ โดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น
เดิมทีเท้าทั้งสองข้างที่เปลือยเปล่าของนางก็ดูงดงามนัก หยดน้ำส่องแสงระยิบระยับล้อไปกับแสงตะวัน สะท้อนเท้าทั้งสองข้างนั้นจนดูใสแวววาว
ท่าทางของนางช่างต่างกับคนอื่นที่เงียบขรึมโดยสิ้นเชิง แม้คนอื่นจะพักผ่อนเช่นเดียวกัน ทว่าบรรยากาศกลับดูน่าเกรงขาม ไม่เหมือนกับนางที่นั่งเล่นน้ำอยู่ตรงนั้น บางครั้งยังจับผีเสื้อปีกขาวหลายตัวที่บินผ่าน เป็นการหาความสุขให้ตนเอง ราวกับว่านางออกมาข้างนอกเพื่อเหยียบย่ำลงไปบนพื้นหญ้าเขียวขจี
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่นางพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย อี้ก็เช่นกัน
“นางเป็นพวกเดียวกับเราจริงๆ หรือ” นักฆ่าคนหนึ่งถามขึ้น
คำถามของเขาก็เป็นสิ่งที่คนอื่นคิดอยู่เหมือนกัน พวกเขาไม่ค่อยได้เห็นนักฆ่าคนอื่นลงเล่นน้ำระหว่างที่กำลังรีบเดินทาง ในเมื่อสิ่งที่พวกเขาควรทำคือการเก็บแรงเอาไว้
อี้เป็นหัวหน้าภารกิจครั้งนี้ ด้วยคำถามนี้ทุกคนจึงมองไปทางอี้โดยปริยาย สตรีนางนี้ดูไม่เหมือนนักฆ่าเลยจริงๆ
อี้เงียบงันชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยเสียงเรียบ “นางอยู่ในกลุ่มยั่วยวน”