บทที่ 1
ม่านหน้าต่างปิดไว้อย่างมิดชิด แสงไฟในห้องมืดสลัว เสียงตืด…ตืด…ดังมาจากโต๊ะข้างหัวเตียง
จ้าวหนานเซียวตื่นขึ้นจากความฝันอันวุ่นวาย รู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย
เธอหลับตาแล้วนอนต่ออีกสักพัก ก่อนจะยื่นมือไปคลำหาโทรศัพท์แล้วปิดเสียง ลุกขึ้นลงจากเตียง เท้าเปล่าย่ำไปบนพื้นที่ให้สัมผัสเย็นเฉียบเดินไปถึงหน้าต่างแล้วเปิดม่านบังแสงขึ้น
แสงอาทิตย์ยามเช้าพลันสาดเข้ามาในห้อง
หญิงสาวเปิดเครื่องเสียงที่พ่อทิ้งไว้ให้ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน เธอเลือกบทเพลงเดอะโฟร์ซีซั่นส์ของวิวัลดี แล้วก็เข้าไปอาบน้ำ แต่งหน้าอย่างง่าย ตามด้วยเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อที่แขวนอยู่ในตู้ที่แทบจะมีแต่สีดำและเทาโทนเดียวกันทั้งแถวขึ้นมาหนึ่งตัวแล้วสวมใส่
คงเป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้เธอทำงานข้างนอกมาเหนื่อยๆ และเมื่อคืนยังเข้านอนดึก หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว แม้ความรู้สึกปวดหัวจะบรรเทาลง แต่ยังคงรู้สึกไม่อยากอาหาร
ท้องที่ว่างเปล่าคงไม่มีทางไปต่อกรกับปริมาณงานของหนึ่งวันที่จะตามมาในวันนี้ได้ จ้าวหนานเซียวจึงดื่มนมกับขนมปังสองแผ่น จากนั้นก็เติมลิปสติกลงบนริมฝีปากที่ออกจะซีดเล็กน้อยให้หน้าของตนดูมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย ค่อยตรวจดูรายงานที่เมื่อคืนทำเสร็จตอนตีสอง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหาก็ใส่เอกสารและรายงานข้อมูลทั้งหมดลงในกระเป๋าเอกสารหนังวัวทรงสี่เหลี่ยมสีดำใบใหญ่ ก่อนจะถือเดินออกไปจากห้องหนังสือ
กระเป๋าเอกสารใบนี้เธอเริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยทำงานหลังเรียนจบ เป็นของที่คุณตามอบให้ ไม่มียี่ห้อ แต่ว่าแบ่งช่องได้เหมาะสม ทำให้ใช้งานสะดวก มันติดตามเธอไปมาระหว่างที่ทำงานกับไซต์ก่อสร้างเป็นเวลาสี่ปีแล้ว โดนทั้งลมฝนและการลากถูขีดข่วน แต่นอกจากส่วนก้นกระเป๋าที่ไม่มีใครเห็นจะมีรอยถลอกประปราย ส่วนอื่นก็ยังคงอยู่ในสภาพดี
“คุณจ้าว ไปทำงานเหรอครับ หลายวันก่อนไม่เห็นคุณเลย ไปทำงานต่างเมืองอีกแล้วเหรอ”
เหล่าเฉายามประจำที่พักอาศัยยังคงพูดเหน่อติดสำเนียงบ้านเกิด คุณจ้าวคนนี้เป็นหนึ่งในผู้พักอาศัยจำนวนไม่กี่คนที่ยอมตอบกลับความเป็นมิตรของเขาตั้งแต่เขามาเป็นยามให้ที่นี่ ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นเธอ เขามักจะดีใจ
จ้าวหนานเซียวยิ้มและพยักหน้าให้พลางควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋า
“ผมเปิดให้!” เหล่าเฉารีบเข้ามาช่วยเธอเปิดประตู
จ้าวหนานเซียวกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกไป
ในเขตที่พักอาศัยแห่งนี้ ขอเพียงเธอไม่ไปทำงานต่างเมือง ในทุกวันทำงานก็แทบจะเป็นเธอที่เป็นคนเริ่มต้นกิจวัตรประจำวันในเวลาเช้าตรู่อย่างนี้
ต้องขอบคุณความโชคดีของแม่ที่ทำให้เธอได้มาพักอาศัยในห้องบนถนนเส้นเอ้อร์หวนซี* ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เพิ่งเรียนจบและได้เงินเดือนเพียงห้าหกหมื่นต่อปี ที่นี่อยู่ห่างจากที่ทำงานไม่ไกล ตอนเช้าไม่จำเป็นต้องช่วงชิงเวลาเพื่อรีบไปทำงาน
หากฝนไม่ตก เธอมักจะเดินไป ระหว่างทางก็จะคิดถึงเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต ผ่านไปยี่สิบสามสิบนาทีไม่นานก็ถึงแล้ว