บทที่ 6
เวลานี้จ้าวหนานเซียวยังจำได้ว่านั่นเป็นปิดเทอมฤดูร้อนตอนที่เธอกำลังจะขึ้น ม.สาม เย็นวันนั้นเธอนั่งอยู่ในที่ของเธอ รับประทานอาหารกับพ่อแม่ ฟังพวกเขาพูดคุยกัน
จ้าวเจี้ยนผิงพ่อของเธอสมัยยังหนุ่มเป็นหนึ่งในนักเรียนที่โดดเด่นของคุณตาเธอ และก็ด้วยเหตุนี้จึงได้พบเจอและแต่งงานกับเสิ่นเสี่ยวมั่นแม่ของเธอ ตอนนี้คุณพ่อเป็นวิศวกรสะพานระดับสูงที่เก่งมาก เนื่องจากโครงการที่เขารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าวิศวกรเคยได้รับรางวัลระดับประเทศมามากมาย แน่นอนว่างานยุ่งมาก ในหนึ่งปีมีวันที่อยู่บ้านน้อยจนแทบนับได้ ปีที่แล้วเพื่อที่จะเร่งระยะเวลาก่อสร้างของสะพานใหญ่ข้ามทะเลแห่งหนึ่ง แม้แต่ตรุษจีนก็ไม่ได้กลับบ้าน ตอนนี้ไม่ง่ายนักที่จะได้พักสักเดือนก็ต้องออกไปอีกแล้ว ครั้งนี้ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าวิศวกรควบรองผู้กำกับของโครงการก่อสร้างสะพานใหญ่แห่งหนึ่ง อีกสองวันก็ต้องไปแล้ว
เสิ่นเสี่ยวมั่นขมวดคิ้วบ่น จ้าวเจี้ยนผิงส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาทางลูกสาวสุดที่รัก
จ้าวหนานเซียวจึงพูดว่า ‘แม่ขา แม่เป็นลูกของคุณตานะ ทำไมตอนนั้นแม่ถึงไม่รู้ว่าอีกหน่อยลักษณะงานของพ่อจะเป็นยังไง ถ้าไม่พอใจ ตอนแรกก็อย่าเลือกแต่งกับพ่อสิ หนูได้ยินมาว่าเมื่อก่อนแม่เป็นดาวมหาวิทยาลัย คนมาจีบแม่เยอะมาก วนรอบจัตุรัสเทียนอันเหมิน* ได้ตั้งหนึ่งรอบ! นักศึกษาหญิงในยุคแปดศูนย์แถมยังเรียนศิลปะ แม่เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ!’
เสิ่นเสี่ยวมั่นตอนนี้สอนอยู่ในมหาวิทยาลัย และแตะงานนิทรรศการภาพอยู่บ้าง เธอกลอกตาให้ลูกสาว บอกให้อีกฝ่ายตั้งใจกินข้าว แต่มุมปากกลับอดหยักยิ้มขึ้นไม่ได้
จ้าวหนานเซียวเลิกคิ้วให้กับพ่อที่ส่งสายตาขอบคุณมาให้ ‘พ่อคะ ทั้งที่แม่พอใจมากแท้ๆ ยังจะกลั้นยิ้มอีก!’
เสิ่นเสี่ยวมั่นถอนใจ พูดกับสามีว่า ‘ฉันก็ไม่ได้โทษว่าคุณ แค่พูดเฉยๆ คุณเพิ่งกลับมาจากทะเล ตอนนี้ก็ต้องไปภูเขา งานออกแบบโครงสร้าง ไม่ครบสองปีก็กลับมาไม่ได้สินะ ฉันแค่รู้สึกว่าคุณจะลำบากเกินไปแล้ว’
จ้าวเจี้ยนผิงยิ้มแล้วพูด ‘อายุของคุณพ่อมากกว่าผม ยังไม่บอกว่าลำบากเลย อีกอย่างเดิมทีพวกเราทำงานสายนี้เป็นที่ต้องการของประเทศ ช่วยไม่ได้นี่ คุณวางใจเถอะ ผมสบายดี ออกแบบโครงสร้างครั้งนี้ไม่ยากเหมือนกับครั้งนั้น ผมจะพยายามหาเวลาว่างกลับมาหาคุณกับเสี่ยวหนานนะ’
เขาเห็นภรรยาเงียบไป เพื่อคลี่คลายบรรยากาศของการลาจากจึงเปลี่ยนเรื่องพูด
‘เสี่ยวหนาน ปิดเทอมฤดูร้อนลูกมีเวลาว่างไหม พ่อมีลูกของเพื่อนเก่าต้องการเรียนพิเศษ ลูกพอช่วยได้ไหม’
‘ได้ค่ะ!’
จ้าวหนานเซียวกับพ่อผูกพันกันดี พ่อแค่เอ่ยปาก เธอไม่พูดอะไรมากก็พยักหน้าทันที
จ้าวเจี้ยนผิงยิ้มและขอบคุณลูกสาว ค่อยหันไปพูดกับภรรยา ‘เสี่ยวมั่น หลายวันก่อนผมไปเข้าร่วมการประชุม เจอเหล่าสวีที่ไม่ได้พบกันมานาน สวีเจิ้นจง คุณยังจำได้ไหม’
สวีเจิ้นจงและจ้าวเจี้ยนผิงสมัยก่อนเป็นลูกศิษย์ของพ่อเสิ่นเสี่ยวมั่น ทั้งคู่มีความสัมพันธ์อันดี มักจะถูกเรียกให้ไปกินข้าวที่บ้านของอาจารย์อยู่บ่อยๆ ภายหลังลาออกกลางคันเพื่อไปเข้าร่วมกองทหารทางรถไฟ หลังจากนั้นก็ทำงานที่เกี่ยวข้องกับทางด้านนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน