เยี่ยจือโจวอายุมากกว่าเธอสองปี เรียนข้ามชั้นถึง ม.หก แล้ว สองบ้านมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ตั้งแต่เล็กจนโตเยี่ยจือโจวคือเป้าหมายที่จ้าวหนานเซียวมองเป็นตัวอย่าง เขายอดเยี่ยมมาก ปีนี้ได้รับคุณสมบัติขั้นพื้นฐานในการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกสาขาคณิตศาสตร์ระดับประเทศ ช่วงนี้เพื่อที่จะเข้าค่ายฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงจึงกำลังเก็บตัวฝึกซ้อม นึกไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะโทรมาหาเธอ
‘เสี่ยวหนาน มะรืนนี้เป็นวันเกิดเธอ ฉันต้องไปร่วมสอบพอดี ออกไปไม่ได้ ก็เลยโทรมาหาเธอก่อน สุขสันต์วันเกิดนะ รอฉันกลับมา ฉันจะชดใช้ให้ดีไหม’
เยี่ยจือโจวยุ่งขนาดนี้ยังจำวันเกิดของเธอได้ จ้าวหนานเซียวดีใจมาก ‘ไม่เป็นไรค่ะ! การแข่งสำคัญกว่า! พี่จือโจวเตรียมตัวดีๆ นะคะ ขอให้พี่ได้คะแนนดี!’
เยี่ยจือโจวหัวเราะอยู่ในสาย ‘ได้ ฉันทำได้แน่ เสี่ยวหนาน จากคะแนนของเธอในตอนนี้เอาไปยื่นและเลือกโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดล่วงหน้าได้เลยนะ เธอแค่ผ่านข้อสอบเกณฑ์ก็ไม่มีปัญหาแล้ว เธออย่ากดดันตัวเองมากเกินไป แล้วก็อย่าหักโหมเรียนมากเกินไป เข้านอนเร็วทุกวันก็จะราบรื่นเอง เข้าใจไหม’
‘รู้แล้วค่ะ ขอบคุณพี่จือโจว งั้นแค่นี้นะคะ’
จ้าวหนานเซียววางสาย พอกลับไปที่ห้องก็เห็นสวีซู่มีสีหน้าถมึงทึง ฟันคนที่อยู่ในเกมดังปึงปังๆ หน้าจอเต็มไปด้วยเลือดเนื้อที่พุ่งกระฉูดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอพูดขึ้น ‘สวีซู่ พ่อของนายเมื่อก่อนเป็นนักเรียนของคุณตาฉัน คุณตาฉันก็อยากรู้จักนาย ฉันหวังอย่างยิ่งว่านายจะมาได้จริงๆ นะ’
เขาเหมือนจะไม่ได้ยิน
จ้าวหนานเซียวได้แต่พูดว่า ‘งั้นฉันไม่กวนนายแล้ว นายพักผ่อนรักษาแผลให้ดี หกโมงเย็นวันมะรืน ฉันกับคุณตาจะรอนายนะ’
ไม่นานวันเกิดอายุสิบหกปีของเธอก็มาถึง
พลบค่ำวันนั้นเธอกลับถึงบ้านคุณตา คุณป้าที่มาดูแลความเป็นอยู่ของคุณตากำลังทำกับข้าวมื้อใหญ่อยู่ในครัว คุณตาเองก็ซื้อเค้กวันเกิดกลับมา จ้าวหนานเซียวล้างผลไม้ รอให้สวีซู่มา
ถึงเวลาหกโมงแล้ว จ้าวหนานเซียวไม่รอให้เสียงกริ่งประตูดัง ในใจก็ตึงเครียดอยู่หน่อยๆ อดทนรอไปอีกสักพักยังไม่เห็นเขามา จึงส่งข้อความหาเขา
‘นายถึงรึยัง เพราะว่าวันนั้นนายไม่ได้บอกฉันว่าจะไม่มา ฉันก็เลยบอกคุณตาไปว่านายจะมา ฉันจะลงไปรับนายเดี๋ยวนี้แหละ’
ในฤดูกาลนี้เมื่อถึงโมงยามนี้ท้องฟ้าก็จะมืดสนิท คุณตายังอาศัยอยู่ในอาคารที่พักของศาสตราจารย์ซึ่งจัดสรรไว้ตั้งนานแล้ว รอบข้างมีแต่บ้านแบบตะวันตกก่ออิฐเทาสูงสองชั้นที่ขนาดไม่ใหญ่ มีต้นไม้เก่าแก่มากมาย แสงไฟมืดสลัว เธอเหลียวซ้ายแลขวาอยู่บนทางเดินอิฐนอกประตู รออยู่สักพักก็ยังไม่เห็นเงาของสวีซู่
อุณหภูมิลดต่ำลงแล้ว ตอนที่เธอออกมาไม่ได้สวมหมวกและถุงมือ พอลมพัดมาก็รู้สึกหนาว จึงย่ำเท้าไปมา สองมือป้องปากอังลมหายใจ พลันได้กลิ่นเหมือนกลิ่นของบุหรี่อยู่ใกล้ๆ จึงไปตามหา เดินไม่กี่ก้าวก็เลี้ยวโค้ง เห็นที่มุมกำแพงมีคนพิงอยู่ กำลังสูบบุหรี่
‘สวีซู่! ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้! ฉันรอนายมาสักพักแล้วนะ!’
สวีซู่ทิ้งบุหรี่ อุ้มหมีหมาตัวหนึ่งที่ใหญ่ถึงครึ่งตัวของจ้าวหนานเซียวขึ้นมาจากพื้น ยัดเยียดให้ส่งๆ ใส่อ้อมอกเธอ ‘พ่อให้ฉันซื้อ! ถ้าไม่ซื้อให้ ฉันก็อย่าหมายจะมีชีวิต บอกเขาทีว่าฉันมาแล้ว!’ พูดจบก็สะบัดหน้าจากไป