พอให้ปากคำเสร็จ หลังจากให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เวินอี่ฝานก็กลับบ้านเลย เดิมทีเธออยากอาบน้ำ แต่ก็กลัวว่าบาดแผลที่ต้นขาจะโดนน้ำ จึงแค่สระผมแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัว
เวินอี่ฝานสังเกตเห็นแผลตรงต้นขาอันน่าสยดสยอง หลังจากทายาแล้วก็สวมกางเกงขายาว
หลังออกมาจากห้องน้ำ เธอก็นอนลงบนเตียงแล้วส่งข้อความหาซังเหยียน บอกเขาว่าตัวเองกลับถึงบ้านแล้ว
พอนึกได้ว่าพรุ่งนี้ซังเหยียนจะต้องเดินทางไปเมืองอี๋เหอ เวินอี่ฝานก็เลยเปิดแอพฯ ช่วยเขาหาโรงแรม ดูไปดูมาก็รู้สึกง่วงอยู่บ้าง ในขณะที่กำลังจะหลับเธอก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวตรงทางเข้า
เวินอี่ฝานลืมตาขึ้นทันที เธอลังเลอยู่สักครู่ระหว่างการนอนกับซังเหยียน แต่ก็ยังคงตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง
เพิ่งเดินไปถึงห้องรับแขกเธอก็ได้สบตากับชายหนุ่ม
ซังเหยียนเลิกคิ้วทันที “วันนี้ทำไมเลิกงานเร็วจัง”
“อืม” เวินอี่ฝานนั่งลงบนโซฟา “สัมภาษณ์เสร็จก็ไม่มีงานอะไร เลยกลับบ้านน่ะ”
ซังเหยียนเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะเดินเข้ามา สายตาเขาเคลื่อนลงด้านล่าง เห็นเธอใส่กางเกงขายาว เขานั่งลงข้างเธอแล้วจึงถามไปเรื่อยเปื่อย
“หน้าร้อนอย่างนี้ อยู่บ้านทำไมยังต้องใส่กางเกงขายาวด้วยล่ะ”
เวินอี่ฝานหลุบตาลง โกหกไปทันที “เมนส์มาน่ะ ตากแอร์แล้วรู้สึกหนาวนิดหน่อย”
พอได้ยินคำตอบนี้ซังเหยียนก็นึกย้อนไปครู่หนึ่ง “เดือนนี้มาเร็ว?”
“…” เวินอี่ฝานอึ้งไปก่อนจะพึมพำตอบ “อ้า ใช่ มาไม่ค่อยตรงน่ะ”
“งั้นคืนนี้อย่าเปิดแอร์นอนเลย” ซังเหยียนไม่ได้สงสัยอะไร ดึงหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดตามเคย แล้วยื่นมือไปลูบท้องน้อยของเธอ “ปวดท้องมั้ย”
เวินอี่ฝานจ้องหน้าเขา จู่ๆ ก็รู้สึกพูดไม่ค่อยออก เลยเปลี่ยนเรื่อง “พรุ่งนี้นายจะไปเมืองอี๋เหอไม่ใช่เหรอ ไปจัดกระเป๋าก่อนเถอะ”
ซังเหยียนยิ้มๆ “มีอะไรจะต้องจัดล่ะ”
“พรุ่งนี้เครื่องบินออกสองทุ่มครึ่ง” เวินอี่ฝานเริ่มวางแผนอย่างจริงจัง “งั้นหลังจากนายเลิกงานก็มารับฉันที่สถานีโทรทัศน์ แล้วฉันค่อยขับไปส่งนายที่สนามบิน แล้วค่อยขับกลับ?”
“โอเค” ซังเหยียนก้มหน้าลง ฝ่ามืออันอบอุ่นแนบอยู่กับท้องน้อยของเธอ เขาเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจอะไร “อีกเดี๋ยวฉันต้มซุปน้ำตาลทรายแดงให้เธอดีกว่า กินเสร็จแล้วค่อยนอน”
เวินอี่ฝานหลบสายตาเขา “ไม่ต้องหรอก”
“ไม่ต้องอะไรกัน” ซังเหยียนเอ่ยอย่างเนือยๆ “ฉันไม่อยากให้เธอปวดท้องกลางดึกแล้วมากวนเวลาฉันนอน”
“…”
ช่วงบ่ายวันต่อมา
ซังเหยียนเดินออกจากห้องทำงานเพื่อมาเข้าห้องน้ำ เขาเพิ่งรูดซิปกางเกงลงก็มีคนมายืนอยู่ที่โถปัสสาวะด้านข้าง เอ่ยทักทายเขาอย่างสนิทสนมเหลือเกิน
“ซังเหยียน นายก็มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอ”
“…” ซังเหยียนหันไปมองก็เห็นเซี่ยงหล่าง “นายมีธุระเหรอ”
“ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แค่ทักทายเฉยๆ น่ะ” เซี่ยงหล่างชวนคุยไปเรื่อยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พูดไปพูดมา ถึงพวกเราจะอยู่บริษัทเดียวกัน แต่ก็ได้เจอหน้ากันแค่ไม่กี่ครั้งเอง”
ซังเหยียนคร้านจะไปสนใจอีกฝ่าย
เซี่ยงหล่างก็ไม่ได้แคร์กับท่าทีของเขา เพียงแต่รู้สึกว่าน่าขัน “ทำไมนายถึงชอบทำท่าแบบนี้ใส่ฉันนะ ตั้งแต่ตอน ม.ปลาย ละ”
ซังเหยียนเหลือบมองอีกฝ่าย เอ่ยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ก็ฉันเห็นหน้านายแล้วรู้สึกไม่ถูกชะตาน่ะ”
“…”
อธิบายเสร็จซังเหยียนก็หมุนตัวเดินไปทางอ่างล้างมือ