Lie to Love เกมรักซ่อนกลลวง
ทดลองอ่าน Lie to Love เกมรักซ่อนกลลวง บทที่ 3
(6)
เสิ่นเสี่ยอี้พยักหน้าให้เซวียฉีกุย
หลายต่อหลายคนต่างค่อนข้างประหลาดใจกับแผนการที่เบนไปในทิศทางตรงกันข้าม มีคนใช้สายตาเคลือบแคลงมองมายังเสิ่นเสี่ยอี้อยู่บ่อยๆ ทว่าเธอก็นั่งอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย สีหน้าเป็นดังปกติ
ในที่ประชุม ลี่เจ๋อเหลียงแสดงให้เห็นตามที่รับปากเอาไว้ ไม่แน่อาจไม่มีใครรับรู้เบื้องหลังว่าระหว่างเขาและเธอมีข้อตกลงอะไรกัน
ตกกลางคืนเสิ่นเสี่ยอี้ก็รออยู่ในอพาร์ตเมนต์เป็นเวลานานอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นเงาร่างของลี่เจ๋อเหลียงอยู่ดี ถ้าเกิดว่าเธอยังขลุกอยู่บนโซฟาอีกคืนก็เกรงว่าจะทรมาทรกรรมร่างกายตัวเองจนหมดสภาพเสียก่อน แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยินดีที่จะก้าวเข้าไปในห้องนอนของเขาแม้แต่ครึ่งก้าวเด็ดขาด เธอเปลี่ยนไปสวมชุดหลวมสบายๆ ขดตัวบนโซฟาก่อนหลับตาลง ขณะสะลึมสะลือก็คิดว่าขอให้คืนนี้เขาไม่ปรากฏตัว ไม่ต้องปรากฏตัวไปตลอดกาล…
ลี่เจ๋อเหลียงไปกินข้าวกับคนอื่นมาแล้วก็กลับมายังบ้านตระกูลลี่ที่ถนนอวี๋หยาง เขาไม่ได้มาอยู่บ่อยๆ ทว่าเมื่อวานจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ทำเอากลุ่มคนที่อยู่ในบ้านเดิมรับมือไม่ทัน ทำงานกันด้วยความเร่งรีบอยู่เป็นนานสองนาน
วันนี้ยังไม่ทันเข้าประตูพ่อบ้านเหล่าถานก็ต้อนรับด้วยการเอ่ยถาม “คุณลี่รับประทานข้าวเย็นมาหรือยังครับ” ฟังดูเหมือนมีการจัดเตรียมเอาไว้แล้ว
“กินมาแล้ว” ลี่เจ๋อเหลียงกล่าว “ลุงถาน รบกวนลุงอีกแล้วนะครับ”
“พูดอย่างนี้ได้ยังไงล่ะครับ พวกเรารอให้คุณมากันอยู่ตลอด บ้านเก่าหลังนี้ไม่มีคนหนุ่มคนสาวก็เลยแลดูเงียบเหงาไป” เหล่าถานกล่าว
ลี่เจ๋อเหลียงยิ้ม เขากลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เหล่าถานเตรียมเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนเข้าไปวางไว้ในห้องน้ำ เขาเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง “คุณลี่ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอก” ลี่เจ๋อเหลียงปลดเนกไทไปด้วยก็กล่าวไปด้วย
เหล่าถานมองเขาแวบหนึ่ง เห็นเขาดื่มเหล้ามาบ้างจึงไม่ค่อยวางใจนัก เมื่อคืนหลังจากลี่เจ๋อเหลียงกลับมาตัวคนเดียว อีกฝ่ายไม่พูดอะไรสักคำก็กลับห้องไป สีหน้าดูผิดปกติ ต่อมาก็ยังขังตัวเองไว้ในห้องน้ำอยู่หนึ่งชั่วโมง ทำเอาคนรับใช้ที่อยู่ข้างนอกไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ถึงอย่างไรก็ไม่กล้าส่งเสียงมั่วซั่ว เพราะทุกคนรู้ดีว่าแม้ขาของเขาจะไม่แข็งแรง แต่เขาก็ไม่ชอบเผยให้เห็นถึงความผิดปกติของขาต่อหน้าคนอื่นๆ ในที่สุดเหล่าถานก็กล้าเรียกเขาจากด้านนอก
ลี่เจ๋อเหลียงรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงของเหล่าถาน เขาหัวเราะแล้วกล่าวขึ้นว่า “ผมแค่อาบน้ำ จะไปมีปัญหาอะไรได้ล่ะ เมื่อก่อนพวกคุณเป็นกังวลกันเกินไปต่างหาก ทำเอาผมอยากย้ายออกไปเลย”
“คุณชายรอง” เหล่าถานเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นคำเรียกเก่าโดยไม่รู้ตัว “ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้คุณดื่มเยอะเกินไปแล้ว บุหรี่กับเหล้าทำร้ายตับทำร้ายปอด ถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็นด้านการทำงาน บางครั้งก็ให้พวกอิงซงรับมือไปเถอะนะครับ” เขามองดูลี่เจ๋อเหลียงเติบโตมาตั้งแต่ยังเล็ก เข้าใจนิสัยของผู้เป็นนายเป็นอย่างดี ดังนั้นน้ำเสียงที่เกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายจึงเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาที่สุด ด้วยกลัวว่าจะไปยั่วโทสะของลี่เจ๋อเหลียงเข้า
“อืม” ลี่เจ๋อเหลียงยิ้มให้เหล่าถาน
เหล่าถานเห็นลี่เจ๋อเหลียงเพียงแค่ขยับมุมปาก ทว่าสีหน้ากลับแลดูหนักใจ เขารู้ว่าแม้ลี่เจ๋อเหลียงจะไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ใส่อารมณ์ตามแต่ใจ แต่ภายในใจก็แข็งกร้าวเหลือคณา พูดกับอีกฝ่ายให้มากความไปก็เปล่าประโยชน์ เขาจึงไม่จู้จี้จุกจิกอีก ปล่อยไปตามแต่ใจลี่เจ๋อเหลียง
กระทั่งลี่เจ๋อเหลียงอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวพักผ่อนก็ดึกมากแล้ว เขาชอบมองดูแสงไฟ ดังนั้นขอเพียงเขากลับมายังบ้านเดิมเหล่าถานก็จะให้คนเปิดไฟบนพื้นในสวนดอกไม้ให้ส่องสว่าง แบบนี้ลี่เจ๋อเหลียงยืนอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองก็จะมองเห็นได้พอดี
เขานอนหงายลงบนเตียงในห้องนอน พระจันทร์เสี้ยวโค้งมนลอยอยู่บนฟ้า ทอแสงสีขาวจางๆ ส่องเข้ามาในห้องนอน ลำแสงเล็กๆ ตกกระทบบนใบหน้าของเขาพอดี
เขานอนไม่ค่อยหลับจึงลุกขึ้นไปลูบโทรศัพท์ โดยไม่ได้เปิดรายชื่อเบอร์โทรศัพท์ก็กดตัวเลขชุดหนึ่งอย่างคล่องมือ ครั้นโทรออกได้ก็วางลงที่ข้างหู เมื่อโทรติดอีกฝั่งก็ดังเป็นข้อความดิจิตอลจากผู้ให้บริการแจ้งว่าหมายเลขนี้ยังไม่เปิดใช้บริการ หลังจากกดซ้ำอยู่หลายครั้งเสียงตอบรับอัตโนมัติของผู้หญิงก็พลันหายไป กลายเป็นเสียงสายไม่ว่างที่ดังยืดยาว
เขาย้ายหน้าจอมาตรงหน้าอีกครั้ง จ้องมองตัวเลขสิบกว่าตัว* นั้นด้วยดวงตาเหม่อลอย จากนั้นก็โทรออกอีกครั้งอย่างช้าๆ…นี่เป็นวิธีที่เขารักษาอาการนอนไม่หลับกลางดึกเพียงวิธีเดียวนอกเหนือจากการดื่มให้เมาหัวราน้ำ ทว่าเวทมนตร์เล็กๆ ในค่ำคืนนี้ รอจนกระทั่งเสียงสายไม่ว่างดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผล
เขามองไปยังนอกหน้าต่างพลางครุ่นคิด จากนั้นคล้ายว่าตัดสินใจอะไรได้สักอย่างจึงลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ ไม่ได้รบกวนคนอื่นๆ ในบ้าน เขาสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ลงจากชั้นบนแล้วออกจากบ้าน ขึ้นรถขับแล่นตรงสู่เขตเมือง
ตลอดทางตั้งแต่ลงรถ ข้ามถนน ไปจนขึ้นลิฟต์ เขาไม่ได้หยุดชะงักเลยสักนิด ทว่าเมื่อเขาออกจากลิฟต์และเดินไปยังหน้าประตูอพาร์ตเมนต์กลับรู้สึกลังเล เดิมทีเขาล้วงกุญแจออกมาแล้ว แต่ตอนนี้กลับเก็บเข้าไปเหมือนเดิม จากนั้นพิงอยู่กับผนังข้างประตูเพียงลำพัง คลำบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง จุดบุหรี่แล้วสูบเข้าไปอย่างรุนแรงอยู่สองสามครั้ง
ควันจากก้นบุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วมือของเขาลอยวนเวียนแล้วกระจายตัวออกไป ลี่เจ๋อเหลียงสูบบุหรี่มวนต่อมวน จนสุดท้ายไม่เหลือแม้แต่มวนเดียวเขาก็กลับคืนสู่ห้วงอารมณ์ในความมืดมิดเพียงครู่สั้นๆ จากนั้นก็เปิดประตูในทันที
หลังจากที่ดวงตาทำความคุ้นชินกับแสงในห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว ลี่เจ๋อเหลียงก็เห็นเสิ่นเสี่ยอี้ขดตัวอยู่บนโซฟา ใบหน้ารูปไข่ของเธอหันไปด้านนอก ศีรษะหนุนอยู่บนที่วางแขนของโซฟา ลี่เจ๋อเหลียงก้าวเท้าเข้าไปหาเธอให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดูเหมือนว่าเธอจะนอนหลับกระสับกระส่าย ลมหายใจประเดี๋ยวเร็วประเดี๋ยวช้า แต่ก็ยังคงเผยอริมฝีปากเล็กน้อยเหมือนอย่างเด็กน้อย มองเห็นฟันซี่เล็กที่ราวกับเปลือกหอยได้
เขายื่นมือออกไปเงียบๆ ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ผิวที่พวงแก้มของเสิ่นเสี่ยอี้เบาๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะขมวดคิ้ว หลบเลี่ยงมือของเขาอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ ร่างกายขยับเขยื้อนเล็กน้อย