ฉงหรงหยีตาเม้มปากก่อนจะตอบว่า “น้ำผลไม้นี่แช่เย็นไว้นานขนาดนี้คงเสียรสชาติเดิมไปหมดแล้ว ไม่กินดีกว่า”
เวินเซ่าชิงชายตา “ปากร้ายน่าดูนะ เนื้อผลไม้ของเสาวรสผสมกับผลจ๊อแดง ชงด้วยน้ำร้อน แก้ไอละลายเสมหะ แก้อักเสบ บรรเทาอาการปวด”
ช่วงนี้ฉงหรงทดลองสูตรยาแก้ปวดฟันมาหลายขนาน พบว่าไม่ได้ผลทุกขนาน ได้ยินสรรพคุณนี้ก็รู้สึกไม่เชื่อถือ “ความจริงก็คงไม่มีสรรพคุณอะไรหรอกมั้ง”
เวินเซ่าชิงถูกตั้งข้อสงสัยแต่กลับไม่โกรธ ตรงกันข้ามเขากลับพยักหน้าเห็นด้วย “อืม ก็กินของหวานหลังอาหารช่วยทางด้านจิตใจหน่อยเท่านั้นเอง”
กลยุทธ์อ่อนโยนของเขาทำให้ฉงหรงอ่อนตาม เธอกินไปครึ่งค่อนแก้วก็พบว่ารั่งอี๋รั่งเอาแต่จ้องหน้าเธอตลอด ประกายตาไม่เป็นมิตร จึงถามว่า “ฉันกินด้วยแก้วของมันหรือ”
เวินเซ่าชิงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ กระแอมเบาๆ “เปล่า”
ฉงหรงทำสีหน้าเป็นผู้ถูกกระทำ “แล้วทำไมมันเอาแต่จ้องหน้าฉัน”
ชายหนุ่มมองนาฬิกาบนผนัง “คงเพราะคุณขัดจังหวะมันออกไปเล่นข้างนอก”
ฉงหรงรีบลุกขึ้นยืน “ถ้าอย่างนั้นก็รีบพามันออกไปเล่นข้างนอกเถอะ ฉันไปก่อนนะ” พูดจบก็คว้ากระเป๋าเดินกลับบ้าน
หญิงสาวลุกลี้ลุกลนกลับออกไปแล้ว รั่งอี๋รั่งก็รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กไปที่ประตู รอเวินเซ่าชิงจูงมันออกไปเล่นข้างนอก
เวินเซ่าชิงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา สีหน้าเย็นชา “วันนี้ไม่ออกไปเล่นข้างนอกแล้ว”
เจ้าหมาขาวเห่าสองครั้งเหมือนจะถามว่าทำไม
เวินเซ่าชิงมองมันแล้วเอ่ยสั่ง “ต่อจากนี้ไปเวลาที่เธออยู่ ห้ามไล่เธอ”
รั่งอี๋รั่งเห่าอีกสองครั้ง ทำหูตั้งหมอบอยู่ที่หน้าประตู ส่ายหางด้วยท่าทางเบื่อหน่ายสุดขีด
เวินเซ่าชิงมองบนโต๊ะ ประกายตาผิดหวังเล็กน้อย นามบัตรที่เมื่อครู่วางอยู่บนโต๊ะหายไปแล้ว คงจะถูกใครบางคนที่หนีไปด้วยใจหวาดหวั่นเก็บเอาไป ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ กลัวขนาดนี้เชียวหรือ
คืนนั้นฉงหรงสะลึมสะลือฝันโน่นนี่นั่นสับสนไปหมด ฝันถึงตอนวัยรุ่น เธอพาจงเจินบุกตะลุยในเกม หันมาเห็นเวินเซ่าชิงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ หลินเฉินพาเวินเซ่าชิงมาแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเพื่อนซี้ของผม เวินเซ่าชิงยิ้มทักทายเธอ บอกว่า ‘ฉงหรง ผมเคยเจอคุณมาก่อน’ ต่อจากนั้นก็เป็นวันหนึ่งของตอนบ่ายที่ร้อนมาก เธอนั่งอยู่ในหอสมุดเก่าแก่ ด้านหน้ามีกระดาษวางอยู่หนึ่งแผ่น บนกระดาษเขียนเงื่อนไขต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ จากเงื่อนไขหลายๆ ข้อนี้ สุดท้ายอนุมานได้ข้อสรุปที่มีหลักการและเหตุผล
เธอชอบเวินเซ่าชิง
หลายปีนี้ระหว่างที่เรียนกฎหมายฉงหรงได้สร้างนิสัยขึ้นชุดหนึ่ง จากหลักฐานนำไปสู่ข้อสรุป ระบบความคิดชัดเจน ตรรกะครบถ้วนสมบูรณ์
เมื่อผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวเฉียบขาดและสง่าผ่าเผยเขียนข้อสรุปจบสิ้นแล้วก็หยิบเอกสารข้อเสนอรับเข้าทำงานที่วางอยู่ทางด้านขวามาฉีกเป็นชิ้นๆ ลุกขึ้นแล้วโยนลงถังขยะ กลับประเทศอย่างเด็ดเดี่ยว
นั่นคือเอกสารข้อเสนอเรื่องงานที่ได้รับเมื่อหลายวันก่อน สำนักงานทนายความที่เฝ้าหวังมาแสนนาน ทว่าความคิดแรกของเธอหลังจากเห็นเอกสารถึงกับเป็นแบบนี้ ถ้าตอบตกลง จากนี้ไปก็จะไม่ได้เจอเวินเซ่าชิงอีกแล้ว ตอนนั้นเธอก็รู้สถานการณ์ของตัวเองว่าแย่แน่
ฝันต่อมากลายเป็นเธอยืนอยู่หน้าประตูบ้านตัวเองกำลังจะเปิดประตู พอได้ยินคนเรียก หันไปดูก็เห็นรั่งอี๋รั่งโผล่มาจากข้างหลังเวินเซ่าชิงแล้วพุ่งเข้ามาหา เธอจึงตกใจตื่น
ฉงหรงลุกขึ้นนั่งปาดเหงื่อบนหน้าผากแล้วลองแตะหน้าผากตัวเองดู ยังดี ไข้ลดแล้ว เธอกอดผ้าห่มพยายามหายใจตามปกติ จากนั้นก็ลงจากเตียงไปยังห้องหนังสือเพื่อหาหนังสือเล่มหนึ่ง เมื่อหาเจอแล้วก็พลิกเปิดดูหลายหน้า ก่อนจะหยิบกระดาษสีเหลืองหม่นออกมา ด้านล่างของกระดาษเหลืองเก่าเขียนไว้ชัดเจนมาก
‘ฉงหรงชอบเวินเซ่าชิง’
ตอนที่เธอกลับประเทศ ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เจอเวินเซ่าชิงอีก เธอไม่รู้ว่าเวินเซ่าชิงจะกลับประเทศหรือไม่ และไม่รู้ว่าหลังจากเขากลับมาจะเลือกอยู่เมืองนี้หรือไม่ รู้เพียงว่าถ้าไม่กลับมาก็อาจจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว
ต้นฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ตอนที่เธอเพิ่งกลับจีน บางครั้งก็คิดขึ้นมาว่าถ้าได้พบหน้ากันอีกครั้งจะเป็นสถานการณ์แบบไหน ผ่านฤดูร้อนอันยาวนานกับฤดูใบไม้ร่วงช่วงสั้นๆ ก็ค่อยๆ ลืมมันไป คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้าสู่ฤดูหนาวจะได้เจอเขาแล้วจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงฝันถึงเรื่องพวกนี้อีก เพราะมันผ่านมานานขนาดนี้ หลังจากกลับมาก็ไม่ได้ฝันแบบนี้อีกนานเหลือเกิน ทำไมถึงฝันอีกครั้งหลังจากเจอเวินเซ่าชิงใหม่ล่ะ หรือเพราะว่าข้อสรุปนี้ยังคงอยู่?
พอฟ้าสาง ฉงหรงสมาชิกทีมเกลียดการตื่นเช้าก็รีบตื่นแล้วออกจากบ้านอย่างรวดเร็วชนิดนานทีปีหนจะมีสักครั้ง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 ต.ต. 64 เวลา 12.00 น.