ฉงหรงเท้าคางทำท่าครุ่นคิดจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเป็นงานเป็นการ “อืม เหมาะสมกันมาก เขาสามารถชำแหละศพฉันเงียบๆ หรือไม่ฉันก็ฟ้องหย่าชนิดให้เขาออกจากบ้านตัวเปล่า นายอยากเห็นจุดจบแบบนั้นเหรอ”
จงเจินพูดไม่ออก “พี่อย่ามองโลกในแง่ร้ายสุดขั้วขนาดนี้สิ บอสน่ะดีจริงๆ นะ! เขายังเลี้ยง…”
วินาทีต่อมาจงเจินก็ถูกฉงหรงเตะออกนอกประตู ทำเอาลุงที่มาส่งอาหารตกใจแทบตาย ก่อนจะทำหน้าเห็นใจพลางส่งอาหารในมือให้จงเจิน “อายุยังน้อย อนาคตวัยรุ่นยังอีกยาวไกล…”
จงเจินรีบอธิบาย “เธอเป็นพี่สาวของผม!”
คุณลุงโบกมือ “เจ้าหนุ่มไม่ต้องอาย ถูกเมียเตะออกจากบ้านไม่น่าอายหรอก ลุงเคยผ่านมาแล้ว ข้ออ้างแบบนี้ลุงก็เคยใช้มาก่อน”
จงเจินอึ้งไปทันที “…”
เขาใช้สายตาส่งคนส่งอาหารเข้าไปในลิฟต์แล้วจึงมาเคาะประตูต่อ “พี่ พี่เปิดประตูหน่อย! ผมเอาข้าวมาส่ง! พี่ไม่หิวเหรอ”
ด้านในไม่มีความเคลื่อนไหว จงเจินจึงนั่งกินข้าวหน้าประตูเสียเลย กินเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เช็ดปากแล้วเริ่มสารภาพบาป “ผมผิดไปแล้วคร้าบ”
ฉงหรงได้ยินคำนี้กำลังคิดจะลุกไปเปิดประตูให้เขา ก็ได้ยินด้านนอกเพ้อเจ้อด้วยตรรกะวิบัติชุดใหม่
“ผู้หญิงเราต้องรักนวลสงวนตัวล่ะเนาะ ผมไม่น่าถาม ‘ดีมั้ย’ อะไรแบบนี้เลย ผมควรจะลากบอสมาหาพี่โดยตรง ยัดเขาเข้าไปในอ้อมกอดพี่ต่างหาก! อื้ม! เอาแบบนี้ก็แล้วกันนะ! กินอิ่มละ ผมไปก่อนนะ เหลือให้พี่ครึ่งหนึ่ง แขวนไว้หน้าประตู หายโมโหแล้วก็ออกมาเอาเอง”
วินาทีนั้นฉงหรงแน่ใจแล้วว่าไอ้หนูที่โตขึ้นมาพร้อมกับเธอตั้งแต่เล็ก ไอ้หนูที่ท่าทางเหมือนใสซื่อบริสุทธิ์รักความก้าวหน้าคนนี้ ช่วงที่ตัวเธอไปอยู่เมืองนอกหลายปี เขาโตมาด้วยระบบความคิดที่ผิดทางเสียแล้ว…
อากาศเย็นลงเรื่อยๆ ท้องฟ้าหลายวันนี้ขมุกขมัวคล้ายกับสภาพจิตใจของฉงหรง เพราะว่าทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นทุกวัน เป็นใครก็ต้องรู้สึกแย่เหมือนกัน
วันที่ได้เจอหน้ากับผู้ชายคนนั้นอีกครั้งคือสุดสัปดาห์ หิมะเพิ่งตกหนักไป ฉงหรงกลับมาจากกินมื้อกลางวันกับเพื่อน เดินย่ำหิมะอยู่ในเขตชุมชน เพิ่งเข้าตัวอาคารก็เห็นผู้ชายคนนั้นสวมชุดสากลและรองเท้าหนังกำลังยืนรอลิฟต์ เขาพาดโค้ตแคชเมียร์ตัวใหญ่ไว้ที่แขน มีกระเป๋าเดินทางสีดำใบหนึ่งอยู่ข้างตัว ดูท่าทางเหมือนเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไกล
ฉงหรงเป็นทนายความมานาน เห็นคนแต่งกายแบบทางการมามาก ถ้าไม่ใช่พวกทื่อๆ ก็คือพวกขายประกัน น้อยคนนักที่จะแต่งตัวถึงระดับสะท้อนสไตล์ของตัวเอง
เธอแอบเหลือบมองเขาหลายครั้ง ตัดเย็บด้วยมือ หรูหราแต่ไม่รุงรัง รสนิยมดีมาก ว่ากันว่าสีเทาเป็นตัวเลือกอันดับแรกในตู้เสื้อผ้าผู้ชาย เป็นตัวของตัวเอง มีเสน่ห์ตามแบบฉบับ
เธอเห็นมามากแล้วย่อมรู้ว่าจุดที่สะท้อนเอกลักษณ์ของคนไม่ใช่เสื้อสูทตัวนอก แต่เป็นเสื้อเชิ้ต คอเสื้อเชิ้ตของผู้ชายที่ด้านหน้าเธอคนนี้ได้ขนาดพอดีระดับ ปลายแขนเสื้อโผล่มาครึ่งนิ้วอย่างพอเหมาะ สมบูรณ์แบบ
สายตาของฉงหรงลดต่ำลง กางเกงสแล็กส์ห่อหุ้มขาที่ยาว ปลายขากางเกงยาวถึงขอบรองเท้าพอดี
ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้น เขากำลังขยับคอเสื้อ นิ้วมือเรียวยาวและสะอาดงอเล็กน้อยเห็นข้อนิ้วชัดเจน มือข้างนั้นแกว่งไปมา แกว่งจนหัวใจฉงหรงพองโต รู้สึกเซ็กซี่จนต้องร้องขอชีวิต
มองต่อไปไม่ได้แล้ว ดูต่อไปไม่ได้แล้ว! สติสัมปชัญญะของฉงหรงกำลังเตือนตัวเองไม่หยุด แต่ดวงตากลับอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมเลื่อนพ้นออกไป
หลายวินาทีให้หลังเธอรวบรวมพลังหันตัวกลับ ตัดสินใจออกไปย่ำหิมะสักครู่ให้สติแจ่มใสเสียก่อน