“อาการเก่ากำเริบ” มัชฌิมาส่ายหน้า
“เห็นคนแต่งเครื่องแบบเป็นไม่ได้” อาริสาอ่อนใจ
พวกเธอทั้งคู่แลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างพร้อมเพรียง
ถ้าจำไม่ผิดแฟนเก่าก่อนหน้าพี่ติที่จีรดาเพิ่งเลิกกันไปก็เป็นคนในเครื่องแบบ
“ต๊าย…ชื่อชายชาญซะด้วย เก๋มาก…” จีรดาลากเสียงอย่างตื่นเต้น
“เก๋ตรงไหน” อาริสาไม่เข้าใจ เธอหันไปถามกึ่งปรารภกับมัชฌิมาที่ทำหน้าเบื่อ “เชยมากกกกก”
“…สามดาวด้วย งั้นก็เป็นนายร้อยล่ะสิ” จีรดายังคงสูดปากไม่หยุด นี่เจ้าตัวจะตื่นเต้นไปถึงเมื่อไหร่ ระวังเถอะจะหัวใจวายตายเข้าสักวัน “คนนี้ฉันจองนะ ห้ามแย่ง”
โอ๊ะ! มีหวงด้วย
“นี่ใจคอแกจะเหมาให้หมดทุกเหล่าทัพรึไง ตั้งแต่ปีหนึ่งก็นายต้นนักเรียนนายร้อยทหารอากาศ ตอนปีสี่ก็นายโจ้นักเรียนนายเรือ ก่อนหน้าพี่ติก็เป็นตำรวจชื่อก้อง” มัชฌิมานับนิ้วไปด้วยจาระไนไปด้วย มีอาริสาพยักหน้าหงึกๆ เป็นลูกคู่
“แหม…พวกนั้นน่ะของเล่น แค่ทางผ่าน”
“ดอกไม้ริมทางว่างั้นเถอะ” เธอประชด แต่เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้ใครกันบอกว่าเกลียดคนเจ้าชู้น่ะหือ?
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะยายแอ๊นท์”
หน้าผากมนของเธอถูกเพื่อนรักนักสะสมคนในเครื่องแบบใช้นิ้วจิ้มดังจึ้กๆ
“คนอื่นๆ ฉันให้สถานะพี่ชายที่เกือบเป็นแฟน แต่พวกเขาเอาแต่คิดว่าฉันเป็นแฟนก็เท่านั้น”
“แถจนสีข้างถลอกแล้ว”
“จริงๆ นะ แต่คนนี้น่ะของจริงจ้ะ ฉันขอบอกพวกหล่อนไว้เลย ประกาศจุดยืน ณ จุดนี้”
“ไหนขอฉันดูหน่อย” มัชฌิมาทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว ดึงกล้องส่องทางไกลจากมือเพื่อน “หนึ่งนาฬิกาใช่ไหม”
“ใช่”
“นี่อย่าบอกนะว่าเป็นผู้ชายใส่ชุดทหารที่ยืนอยู่หน้าตึก”
“แม่นแล้ว”
“แกรู้มั้ยว่าเขาเป็นใคร” มัชฌิมาลดกล้องส่องทางไกลในมือแล้วหันไปถามเพื่อน “ว่ายังไงยายจิ๊บ แกรู้หรือเปล่า”
“ก็ชายชาญไง” จีรดาทำหน้างง “ฉันเพิ่งบอกชื่อเขาให้แกฟังไปเมื่อกี้นะยายปอ แกฟังแล้วยังผ่านไปไม่ถึงสี่สิบวินาทีเลย”
“นังจิ๊บ” มัชฌิมาหน้าเครียด “เมื่อกี้ตอนแกมองเขาน่ะ มองตั้งแต่ตรงไหน ตั้งแต่บ่าลงไปใช่มั้ย แล้วก็เน้นเฉพาะชุดนายทหารที่มีดาวแปะกับแถบชื่อโดยที่ไม่ได้มองแม้แต่หน้า”
“ไม่ต้องห่วง ผู้ชายเวลาสวมเครื่องแบบทุกคนล้วนมีรัศมีความหล่อบังเกิดขึ้นทั้งนั้น”
“ให้ตายเถอะย่ะ ฉันไม่รู้ว่าควรเวทนาหรือสมน้ำหน้าแกดี” มัชฌิมาซึ่งรอบรู้เป็นที่สุดบอกต่ออีกว่า “หนุ่มที่แกตกหลุมน่ะเขาชื่อตั๊ก เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเป้าหมายของเรา ซึ่งฉันเสียใจที่ต้องบอกว่างานนี้แกคงจีบเขาไม่ได้แล้ว”
“ไม่จริง” จีรดาช็อก แต่ก็เพียงแค่สองวินาทีเท่านั้น “แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ไม่สนหรอก”
“เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับคนที่อยู่รอบตัวเป้าหมาย” มัชฌิมาเตือน