“แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ อย่างคุณแอ๊นท์นิสัยดีอย่างนี้คงไม่เคยคิดจะทำร้ายใครและคงไม่มีใครมาทำร้ายหรอกค่ะ คุณแอ๊นท์ก็เลยไม่เข้าใจ คุณแมนออกจะรักคุณแอ๊นท์มาก คงไม่มีวันนอกใจคุณแอ๊นท์ของฝนแน่ ส่วนเรื่องที่คุณแอ๊นท์จะนอกใจคุณแมน โหยยยยย ยิ่งไม่มีวันเกิดขึ้น คุณแอ๊นท์ไม่มีทางทำเรื่องชั่วๆ สุวรรณมาลีแบบนั้นหรอก” คนข้างๆ มองตาเธออย่างเชื่อมั่น
สุวรรณ แปลว่าทอง
มาลี แปลว่าดอกไม้
รวมกันเป็น…ดอกไม้สีทอง
ม่ายน้า!!!!!!
พอเถอะฝน แอ๊นท์ขอร้องงงงงง เลิกด่าแอ๊นท์ได้ไหม นี่นายจ้างนะ เป็นคนที่จ่ายเงินเดือนให้ฝนทุกเดือนด้วยนะ
“อุ๊ย…คุณแอ๊นท์เป็นอะไรไปคะ หน้าดูซีดๆ”
หญิงสาวรีบส่ายหน้า “ไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ้ะ เพียงแต่ง่วงน่ะ ถ้าฝนดูละครจบก็ปิดโทรทัศน์ปิดไฟด้วยแล้วกัน”
สั่งเสร็จหญิงสาวก็เดินไปที่ห้องนอนทันทีพร้อมกับใจที่เริ่มสับสน หวังว่าเธอคงจะคิดถูกนะที่ใช้วิธีนี้แก้แค้นผู้ชายคนนั้น เธอคงไม่ได้ถูกชาวบ้านจัดอันดับอยู่ในหมวดผู้หญิงลวงโลก หลอกปั่นหัวผู้ชาย ชั่วช้ามากๆ หรอกเนอะ
กริ๊ง กริ๊ง…
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องปลุกประสาทการรับรู้ของเธอให้ตื่นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่พยายามข่มตาหลับเป็นเวลานาน อาริสาสูดหายใจ พยายามตั้งสติขณะลุกจากที่นอนเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง
“แอ๊นท์ ตื่นได้แล้วย่ะ แล้วก็รีบแต่งตัวด้วย เดี๋ยวอีกชั่วโมงฉันจะไปรับ” จีรดาส่งเสียงคึกคักมาตามสาย
“แต่งตัว? แกจะพาฉันไปไหน วันนี้ไม่มีคิวที่จะต้องไปหาเป้าหมายนี่นา” เธอขยี้ตา เมื่อคืนฝันวุ่นวายยุ่งเหยิงมาก มีทั้งปกรณ์มีทั้งภิมุข แล้วก็มีเธอวิ่งวุ่นควงคนนั้นสลับกับควงคนนี้ เหนื่อยจนหมดแรง
“เหอะน่า รีบแต่งตัวก็แล้วกัน” พูดจบเจ้าหล่อนก็วางสายทันที
“อะไรของมันเนี่ย สงสัยของขึ้นแต่เช้า ดูสิพูดไม่ทันจะรู้เรื่องเลย วางหูซะแล้ว” เธอถอนหายใจยาว เดินไปอาบน้ำแต่งตัวตามคำบัญชาของเพื่อนจอมบงการสุดรักของเธอ
“นี่แกพาฉันมาที่นี่ทำไม” อาริสางุนงงสุดขีด ตากลมดำขลับล้อมด้วยแพขนตายาวหนามองบ้านพักนายทหารที่ปลูกเรียงกันเป็นแถว
ที่นี่มันหน้าปากทางเข้าบ้านพักของกรมทหารนี่ ดูสิมีแต่พวกทหารเต็มไปหมดเลย สวมเสื้อเขียวๆ เต็มไปหมดด้วย อาริสาตัวสั่น ไม่ใช่ทุกคนนะที่จะชอบคนในเครื่องแบบ!