ปกรณ์ไม่ใช่แค่เป็นผู้กำกับโฆษณาแล้ว ผันตัวไปเป็นนักจับผิดน่าจะรุ่ง ขุดเธอเป็นชุดๆ ต้อนเธอแบบนี้ก็มีแต่แย่กับแย่น่ะสิ ยิ่งตอนนี้เขาเลือกใช้คำว่า ‘ผม’ แทนที่จะเรียกชื่อตัวอย่าง ‘แมน’ เสียด้วย แปลว่าไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เธอก็ดับอารมณ์เดือดพล่านของเขาไม่ได้หรอก
“โอเค แอ๊นท์บอกก็ได้ เมื่อคืนนี้แอ๊นท์ไปเที่ยวกับปอ จิ๊บ แล้วก็พิมน่ะ” หญิงสาวแก้ตัวเสียงอึกอัก
“ไปที่ไหน”
“ผับประจำของปอ”
“ผมเคยบอกว่าไง”
“ถ้าไม่มีแมนไปด้วย แอ๊นท์ห้ามไป”
“แอ๊นท์ผิดใช่ไหม”
“อื้อ ขอโทษนะจ๊ะแมน”
“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม” เสียงห้าวห้วนซักไซ้อย่างจับผิด
“ก็ในนั้นเสียงมันดัง แอ๊นท์ก็เลยไม่ได้ยิน โธ่…แมนจ๋า แมนอย่าดุแอ๊นท์นักสิ แมนอยากได้ยินเสียงแอ๊นท์ร้องไห้เหรอ” เมื่อเริ่มรู้ว่ากำลังจะจนมุม เธอจึงใช้มุกอ้อนซึ่งตามสถิติมันมักได้ผลเสมอ แต่เธอคงลืมไปว่ามันไม่ได้รับรองว่าจะได้ผลทุกครั้ง!
“ดุ?! ผมไม่กล้าดุแอ๊นท์หรอก เกิดวันดีคืนดีแอ๊นท์เลิกรักผม ผมจะทำยังไง!”
คราวนี้เธอถึงกับยกหูโทรศัพท์ออกห่างทันที
เอาแล้วไง…วิญญาณผู้นำเชียร์เข้าสิงอีกแล้ว เขาคิดว่าเขาเป็นใคร ชายหนุ่มผู้มีพลังเสียงเกินความถี่ของจรวดมิซไซล์รึไงถึงได้ตะโกนกรอกหูเธอแทบดับน่ะ
อาริสาอยากเลี่ยง เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา ทั้งที่ใจจริงนั้นอยากจะตัดสายเหลือเกินแล้ว แต่ถ้าทำอย่างนั้นงานของปกรณ์ที่อังกฤษก็อาจจะพัง แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นหน้าที่การงานของเขาก็อาจจะพินาศ
“แมนเชื่อแอ๊นท์หน่อยสิจ๊ะ แอ๊นท์เองก็รอแมนกลับมากรุงเทพฯ ทุกวันเลย”
“หึ!”
ถึงเขาจะทำเสียงแบบนี้กลับมาแต่ก็นับว่าดีกว่าเอะอะโวยวายมาเป็นชุดๆ อาริสาเงียบเสียง คอยให้อีกฝ่ายสงบพายุอารมณ์ เธอน่ะเป็นน้ำเย็นให้เขา ไม่คิดจะเป็นเชื้อไฟ
“ไปแค่ผับอย่างเดียวเหรอ”
“ก็มีคาราโอเกะนิดหน่อย”
“แค่นั้นใช่ไหม” ปกรณ์ถามย้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้ด้วยน้ำเสียงที่ต่างออกไป แม้จะยังไม่เหมือนเดิมแต่ก็นับว่าดีขึ้นมาก
“จ้ะ แล้วก็กลับบ้าน”
“ที่แมนถามก็เพราะแมนเป็นห่วง กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ มันอันตราย แอ๊นท์เข้าใจแมนใช่ไหมครับที่รัก”
“เข้าใจ แต่แมนก็ต้องเข้าใจแอ๊นท์บ้างสิจ๊ะ แอ๊นท์จะโกหกแมนไปทำไม แล้วแมนล่ะเป็นไงบ้าง งานจะเสร็จหรือยัง” อาริสาเปลี่ยนเรื่อง
“ยังเลย แมนอยากให้งานมันออกมาดีที่สุดน่ะ อุปสรรครอบนี้เยอะมาก แมนเองก็เซ็งนะแอ๊นท์ แต่ก็จะพยายามให้ทันสิ้นเดือนนี้ เพราะตอนนี้…” ชายหนุ่มเอามือป้องปากเนื่องจากกลัวคนในกองถ่ายโฆษณาได้ยิน “แมนคิดถึงแอ๊นท์จะตายอยู่แล้ว”
“แอ๊นท์ก็เหมือนกัน แมนก็ตั้งใจทำงานล่ะ แล้ว…แอ๊นท์ก็จะคิดถึงแมนมากๆ”
“จะคิดถึง! งั้นตอนนี้แอ๊นท์ก็ไม่คิดถึงแมนน่ะสิ” ชายหนุ่มพูดเสียงเครียดอีกครั้งก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงอึกอักของเธอ “ล้อเล่นจ้ะ แมนรู้ว่าแอ๊นท์ก็คิดถึงแมนเหมือนที่แมนคิดถึงแอ๊นท์จนจะขาดใจใช่ไหมล่ะ เอาล่ะ แค่นี้นะ จุ๊บแมนผ่านสายโทรศัพท์ทีสิ”
“จุ๊บๆ”
“จุ๊บๆ ครับ”
อาริสาค่อยๆ วางโทรศัพท์ลงอย่างช้าๆ
ความรู้สึกของคนกำลังนอกใจมันเป็นอย่างนี้เหรอ ร่างบางเผลอทุบอกตนเอง
อึดอัดข้างในเหลือเกิน
อาริสาไม่มีกะจิตกะใจ เธอได้แต่พึมพำว่า
“กลับมาเร็วๆ นะแมน แอ๊นท์ไม่อยากโกหกไปมากกว่านี้ แอ๊นท์กลัวจะทำให้แมนผิดหวังจนชาตินี้แมนอาจจะไม่มองหน้าแอ๊นท์อีกแล้วก็ได้”