เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมานอนโรงพยาบาลจึงไม่อาจปิดบังทางบ้านไว้ได้ พ่อของเซียวเซียวรีบเดินทางไกลเพื่อมาดูแลเธอ ค่าใช้จ่ายค่ายาหลายวันนี้พ่อเป็นคนจัดการ แล้วเรื่องเอกสารแจ้งที่สำคัญแบบนี้ทำไมไม่ให้พ่อเซ็นรับล่ะ
‘พ่อคุณไม่ยอมเซ็นชื่อ’ คุณหมอทำอะไรไม่ได้ เขาเจอญาติคนไข้มามากทำให้เข้าใจอีกฝ่ายดี
เซียวเซียวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงเข้าใจ สีหน้ารู้สึกผิดของคุณหมอทำให้เธอไม่ลังเลที่จะเซ็นชื่อลงไปทันที ตอนนี้เธอไม่อาจสนใจผลข้างเคียงแล้ว การมีชีวิตอยู่สำคัญกว่าสิ่งใด!
รอจนกระทั่งคุณหมอเดินจากไป เธอจึงสวมรองเท้าแล้วเดินออกจากห้อง เห็นพ่อนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ชั่วคราวที่ริมทางเดิน ชายอายุห้าสิบที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเช่นพ่อของเธอกำลังแอบใช้มือปาดน้ำตาทิ้ง ได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร
เดิมทีเซียวเซียวคิดอยากจะร้องไห้ แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็รู้ทันทีว่าตัวเองจะร้องไห้ไม่ได้
เธอเดินมานั่งลงข้างๆ พ่อ ไม่ได้มองเขาแต่ก้มหน้ามองที่แขนตัวเอง รอยแดงที่เหมือนกับใยแมงมุมขึ้นเต็มแขนของเธอดูแล้วน่ากลัวไม่น้อย ‘คุณหมอบอกว่าหนูโชคดีมากในความโชคร้าย คนอื่นที่เป็นโรคนี้ต้องกินยาไปตลอดชีวิต แต่หนูกินแค่สามปีห้าปีก็หยุดยาได้ ทางการแพทย์ก็ถือว่าหายสนิท แล้วพ่อดูสิคะ หนูไม่ได้บาดเจ็บอะไร นอกจากต้องกินยาแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากคนปกติ’
เมื่อต้องปลอบพ่อแบบนี้จึงทำให้เซียวเซียวคิดได้กับหลายๆ สิ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ไม่ราบรื่น แรงกดดันเรื่องงาน เพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง เมื่อเทียบกับความเป็นความตายตรงหน้า เรื่องพวกนั้นก็เล็กน้อยไปเลย เธอต้องเป็นคนที่โชคดีมากๆ ถึงปลอดภัยจากโรคร้ายแรงแบบนี้ได้
“โชคดีที่ยังมีชีวิต ฉันขอบคุณสวรรค์ที่ให้ฉันยังมีชีวิตอยู่ในทุกๆ วัน ไม่ได้พาฉันไป ฉันจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ต่อให้ต้องกลายเป็นคนอัปลักษณ์ ฉันก็จะเป็นคนอัปลักษณ์ที่มีความสุข” เซียวเซียวดันแก้มทั้งสองขึ้น ทำปากจู๋น้อยๆ ทำให้ใบหน้าใหญ่ๆ อัปลักษณ์นั้นดูน่าขันไม่น้อย
จั่นหลิงจวินจ้องมองเธอนิ่งราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าจั่นหลิงจวินไม่พูดอยู่นาน เซียวเซียวจึงรู้สึกว่าตัวเองทำตัวน่าอาย ก่อนจะกระแอมอย่างเขินๆ คงเป็นเพราะรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาอีกฝ่ายเสียไปหมดแล้ว เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายลง แต่…ที่จริงแล้วไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นสิ “ขอโทษนะที่ฉันพูดอะไรเพ้อเจ้อ”
ไฟข้างทางบนถนนตงอวี๋สว่างขึ้นและสาดส่องมาที่ใบหน้าของจั่นหลิงจวิน แสงสีเหลืองอันอบอุ่นทำให้ใบหน้าที่เย็นชาดูอบอุ่นขึ้น ดวงตาดำขลับมีประกายวิบวับ ทำให้เซียวเซียวรู้สึกว่าเขากำลังยิ้มให้เธอ
“ค่อยๆ เดินนะ” จั่นหลิงจวินพูดเสียงเรียบๆ จากนั้นก็หันไปขึ้นรถ
เซียวเซียวเดาะลิ้น ที่แท้เธอก็รู้สึกไปเอง