จั่นหลิงจวินสวมถุงมือยางก่อนจะจับแขนของเซียวเซียวเพื่อตรวจดู
ถุงมือยางประเภทนี้เนื้อบางมากและมีผิวสัมผัสเหมือนกับผิวหนังของคน จึงส่งผ่านความอุ่นจากมือใหญ่มาได้อย่างชัดเจน เซียวเซียวไม่อาจบังคับให้หัวใจเต้นช้าลงได้ จึงได้แต่แอบด่าตัวเองในใจว่าไม่ได้เรื่อง
“ถือว่าคุณยังโชคดีที่ไม่ได้เป็นที่หน้า” จั่นหลิงจวินยื่นมือมาจับคางเธอแล้วเอียงดูลำคอและใบหน้าของเธออย่างละเอียด
ลำคอของเซียวเซียวขาวและเรียวยาวดูไม่รับกับใบหน้าบวมใหญ่นั้น ดูจากดวงตาที่งดงามก็รู้ว่าเมื่อก่อนใบหน้านี้เคยงดงามขนาดไหน แต่ตอนนี้กลับถูกโรคร้ายทำลายความงามนั้นไปแล้ว ช่างน่าเสียดายจริงๆ
เป็นครั้งแรกที่มีคนมาจับคางด้วยท่าทางเหมือนกับท่านประธานผู้โหดร้ายกำลังจะรังแกสาวน้อยในนิยายเช่นนี้ เซียวเซียวรู้สึกหายใจติดขัดและไม่กล้าที่จะเอ่ยปากตอบคำถามของจั่นหลิงจวิน เกรงว่าเมื่อเอ่ยปากจะมีกลิ่นไก่ทอดลอยออกมา
เมื่อครู่จั่นหลิงจวินเคี้ยวหมากฝรั่งมาระหว่างทาง เมื่อพูดจึงมีกลิ่นหอมสดชื่นของมิ้นต์ออกมา แต่เธอไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่งน่ะสิ!
เวลาที่โรคแสดงอาการออกมาจะรุนแรงมาก ไข้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เธอต้องรีบเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อระงับอาการไม่ให้ลุกลามจนไปทำลายอวัยวะและข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงยับยั้งการทำลายความสามารถในการทำงานของตับและไต นี่ถือเป็นความโชคดีที่สุดในความโชคร้ายแล้ว อาการหลังจากการรักษามีเพียงอย่างเดียวก็คือรอยปื้นแดงสองรอยที่อยู่บนแขนนั่น
เมื่อเห็นจั่นหลิงจวินเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษ ‘E’ ลงในบันทึกผู้ป่วยและเอาข้อมูลทุกอย่างใส่รวมกันไปในแฟ้มเอกสาร เซียวเซียวก็หยิบลูกอมมิ้นต์จากกล่องเหล็กบนโต๊ะมากินแล้วร้องถามขึ้นด้วยเสียงอันเบาว่า “ตัวอีหมายความว่าอะไรคะ”
“เป็นการประเมินทางการฟื้นฟู เป็นระดับที่ต่ำที่สุด” จั่นหลิงจวินอธิบายง่ายๆ แล้วดันตารางแบ่งระดับไปตรงหน้าเซียวเซียว
“ทำไมถึงเป็นระดับต่ำสุดล่ะ เห็นๆ อยู่ว่าอาการของฉันหนักมากนะ คุณก็รู้ว่าโรคนี้รักษาไม่ได้ คุณควรจะประเมินให้ฉันอยู่ระดับเอสิ” เซียวเซียวรู้สึกว่าระดับยิ่งสูงจะยิ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจึงพยายามเรียกร้องสิทธิของตัวเอง
“เดิมทีควรให้เอฟด้วยซ้ำ แต่การแบ่งระดับของการฟื้นฟูไม่มีเอฟ” จั่นหลิงจวินโต้เซียวเซียวกลับอย่างไม่มีเยื่อใย
“…” เซียวเซียวพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“ปัญหาของคุณในตอนนี้ก็คือผลข้างเคียงจากการกินยากลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ การกินเมทิลเพรดนิโซโลนวันละสิบเม็ดจะทำให้เพิ่มความอยากอาหาร ผิวหนังบางลง ผมและขนดกขึ้น ใบหน้าก็จะบวมใหญ่…” จั่นหลิงจวินหยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนสิ่งเหล่านี้ลงบนกระดาษ