“สวย…สวยจริงๆ” เซียวเซียวพลันคิดถึงการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าระดับอุดมศึกษารายการหนึ่ง ในปีนั้นฉินย่าหนานก็เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ในรอบนั้นเธอไม่อาจแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่จึงทำให้ไม่ติดหนึ่งในสาม ทั้งที่จริงๆ แล้วอีกฝ่ายเป็นคนที่มีความสามารถมากทีเดียว
“ฮิๆ” ฉินย่าหนานก็พอใจในผลงานของตัวเองมาก นี่เป็นผลงานที่เธอตรากตรำคิดมาเป็นอาทิตย์ถึงจะคิดออกมาได้ แต่ก็ยังต้องแก้ไขกลับไปกลับมาอยู่ยี่สิบกว่าครั้ง “มันได้มาจากความคิดที่แกพูดเมื่อคราวที่แล้ว ก็เลยมาบอกแกก่อน”
คนที่มีความสามารถเป็นคนที่มีคุณค่า ควรค่าแก่การนับถือ เซียวเซียวโบกมือ “ไม่มีอะไรหรอก หัวข้อนี้ไดเร็กเตอร์ก็เห็นด้วย ทุกคนก็ต้องเอาไปเป็นแนวทางในการออกแบบ แต่ว่าแกก็อย่าเที่ยวเอาแบบไปให้คนอื่นดูง่ายๆ แบบนี้ล่ะ”
ฉินย่าหนานหัวเราะพร้อมกับปิดสมุด “จะกลัวอะไร เราสองคนน่ะไม่แบ่งเขาแบ่งเรา แบบชุดนี้ให้แกก็ยังได้”
ท่าทางที่เปิดเผยจริงใจของฉินย่าหนานทำให้เซียวเซียวลดความระแวงลง บางทีครั้งก่อนฉินย่าหนานอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แค่ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์เท่านั้น
ทว่าเรื่องที่ควรจะป้องกันก็ยังต้องป้องกันอยู่ แม้เซียวเซียวจะชื่นชมการออกแบบของฉินย่าหนาน แต่ก็ไม่คิดจะเอาผลงานการออกแบบของตัวเองมาให้อีกฝ่ายดู แล้วฉินย่าหนานก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจ เดินเอาผลงานของตัวเองไปอวดกับจ้าวเหอผิงต่อ
“เธอเจ๋งมาก สวยจนโลกตะลึงไปเลย” จ้าวเหอผิงหยิบสมุดขึ้นมาชื่นชมอยู่พักใหญ่
ฉินย่าหนานหัวเราะกับคำพูดของเขาพลางยกสมุดขึ้นตีไปที่ไหล่เขาทีหนึ่ง
ระหว่างที่กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่ จู่ๆ ผู้อำนวยการหลัวอวี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู ก่อนจะเคาะประตูกระจกที่ต้องสแกนนิ้วมือ
จ้าวเหอผิงรีบเดินไปเปิดประตู ต้อนรับผู้อำนวยการด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ทำอะไรกันอยู่” หลัวอวี้เดินเข้ามาพลางมองไปรอบๆ ห้อง มองพวกดีไซเนอร์ที่เข้ากันได้ดี แล้วก็มองโต๊ะของฟางเซี่ยงเฉียนที่ดูแปลกแยกและโดดเดี่ยว จึงต้องยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจผิดจริงๆ ที่ใช้คนนอกสายงานมาจัดการคนในสายงาน ถึงแม้จะสามารถลดอคติในวิชาชีพไปได้ แต่ข้อเสียมีมากกว่าข้อดีเยอะมาก
หลัวอวี้ดูแลแผนกการเงินและแผนกบุคคล เป็นผู้อำนวยการฝ่ายที่ใกล้ชิดกับแผนกออกแบบที่สุด แต่ก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไรนัก เฉพาะเวลาที่มีเรื่องสำคัญเท่านั้นจึงจะมาที่นี่ด้วยตนเอง
ยามนี้ทุกคนจึงพากันลุกขึ้นยืน รอฟังข่าวอะไรก็ตามที่ผู้อำนวยการจะมาแจ้ง
“พวกคุณคงจะสังเกตเห็นแล้วว่าคุณฟางเซี่ยงเฉียนหัวหน้าแผนกของพวกคุณไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้ว เพราะเธอพบทางที่ดีกว่า หัวหน้าฟางได้ยื่นใบลาออกไปเมื่อหลายวันก่อน…” หลัวอวี้พูดอย่างช้าๆ จากประสบการณ์ในการทำงานมาหลายปีทำให้เขายังเปิดทางเหลือไว้ด้วย ดังนั้นการที่ฟางเซี่ยงเฉียนลาออกไปเขาจึงไม่คิดจะว่าร้ายให้เสียหาย ตอนประกาศข่าวนี้ก็ยังคงรักษาหน้าให้เธออยู่ ถึงแม้วันนี้ฟางเซี่ยงเฉียนจะถูกเขาไล่ออก แต่วันข้างหน้าเธอก็จะรู้สึกขอบคุณเขา
“นี่เรื่องจริงใช่ไหม” เสี่ยวหวังถามอย่างงงๆ
“ทำไม ไม่อยากให้เธอไปเหรอ” หลัวอวี้หันมามองเขาด้วยแววตาหยอกล้อ
“ไม่ๆ รู้สึกเหมือนอยู่ๆ ความสุขก็วิ่งมาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว” เสี่ยวหวังวางมือไว้ที่อก รู้สึกว่าความดีใจแทบจะล้นทะลักออกมา
“ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนในแผนกออกแบบหัวเราะกันเสียงดัง
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ถึงแม้พี่ฟางจะไปแล้ว พวกคุณจะมาเลือดเย็นไร้ความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง” จ้าวเหอผิงโบกมือพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวด แล้วตัวเองก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “ฮ่าๆๆๆ ขอโทษที ผมขอหัวเราะสักครู่”
“ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนพากันหัวเราะแล้วเดินไปตบหลังจ้าวเหอผิง บรรยากาศภายในห้องออกแบบครึกครื้นขึ้นมา ไม่มีใครสนใจผู้อำนวยการที่ยืนอยู่อย่างอึดอัดใจ