“เฮ้ย เจ้าหลานคนนี้ ร้ายนักนะ” เหลียงเต๋อหวาได้แต่หัวเราะหึๆ แล้วจึงเปลี่ยนคำพูด “เก็บแค่ค่าผ้าพอใจหรือยัง แต่ว่าฉันมีเงื่อนไขนะ ต้องติดแบรนด์ต้าเหลียงช่วงซื่อลงไปที่เสื้อผ้าด้วย ถึงตอนนั้นลูกค้าไฮโซของเธอถามขึ้นมาก็เป็นการโฆษณาให้ฉันด้วย”
คิดเงินเพียงแค่ค่าผ้า นั่นแปลว่าค่าแรงกับค่าอื่นๆ ก็ไม่เอา เป็นราคาคนกันเองจริงๆ พิเศษสุดๆ แต่จั่นหลิงจวินก็ไม่ได้ตอบรับในทันที เขาหันกลับมามองเซียวเซียว “นี่จะมีผลกระทบต่อการแข่งขันของคุณหรือเปล่า”
ปากของเซียวเซียวสั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกโยนลงไปในบ่อน้ำพุร้อน อบอุ่นจนเธอแทบจะน้ำตาไหล เธอส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ค่ะ แบรนด์ผู้ผลิตนี่ต้องติดเข้าไปอยู่แล้ว”
จั่นหลิงจวินพยักหน้า “ขอบคุณคุณน้า ชุดของพนักงานบริการกับพยาบาลยังไม่รีบ แต่ต้องใช้จำนวนมาก ให้ส่วนลดผมก็พอแล้ว ส่วนชุดอื่นๆ ก็ผลิตอย่างละสามชุด ผมจ่ายแค่ค่าผ้านะ”
เมื่อคำพูดนี้ถูกเอ่ยออกมาก็ทำให้เหลียงเต๋อหวาหัวเราะขึ้นมาทันที “หลิงจวินรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ถ้าเหยาเหยาได้สักครึ่งของเธอ ฉันก็คงจะเบาใจ”
“หนูทำให้หนักใจตรงไหน” เหลียงจิ้งเหยาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ “เรื่องทำธุรกิจใหม่หนูคุยกับพี่เขาแล้ว พี่เขาก็สนับสนุนหนูด้วย ใช่ไหมคะพี่” พูดจบเธอก็หันไปมองจั่นหลิงจวินด้วยสายตาข่มขู่
จั่นหลิงจวินเม้มปากกลั้นยิ้มไว้ “เหยาเหยาบอกว่าอยากจะเปิดแพลตฟอร์มพีทูพี รับออกแบบตกแต่งตู้โชว์เสื้อผ้า ผมคิดว่าความคิดสร้างสรรค์ก็ธรรมดา แต่ว่าดีที่ลงทุนน้อย”
อะไรเรียกว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์ก็ธรรมดา’ เหลียงจิ้งเหยากัดฟันถลึงตามองหน้าพี่ชาย ขณะที่กำลังจะเถียงออกไปก็ถูกเซียวเซียวดึงเอาไว้ห้ามไม่ให้เธอพูดอะไรออกมา
เหลียงจิ้งเหยามีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเห็นคนอื่นแขวนเสื้อผ้าในตู้ไม่เรียบร้อยก็จะรับไม่ได้ ทุกครั้งที่ไปที่อพาร์ตเมนต์ของเซียวเซียวก็อดที่จะจัดการตู้เสื้อผ้าของเธอไม่ได้ เหลียงจิ้งเหยาไปเรียนวิชาการจัดดิสเพลย์สินค้าจากเมืองนอกได้ใบประกาศนียบัตรนักจัดดิสเพลย์สินค้ามาด้วย จึงมีความคิดอยากจะเปิดแพลตฟอร์มพีทูพีมานานแล้ว เคยพูดกับเซียวเซียวหลายครั้ง แต่ทางบ้านไม่สนับสนุน
“ดึงฉันไว้ทำไม” เหลียงจิ้งเหยาถลึงตาใส่เพื่อนรัก อีกฝ่ายไม่ได้ยินที่พี่ชายอสรพิษของเธอกำลังพูดอยู่หรือไง เดิมแผนการจัดตั้งธุรกิจของเธอพ่อก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วยอยู่แล้ว นี่เขายังมาบอกว่าความคิดสร้างสรรค์ของเธอธรรมดา ตกลงว่าจะมาช่วยเธอหรือมาถล่มเธอกันแน่
“ลงทุนน้อยเหรอ” เหลียงเต๋อหวาจับที่ประเด็นสำคัญ ดวงตาเป็นประกายขึ้น มองดูลูกสาวของตัวเองที่ทำท่าฮึดฮัดหงุดหงิดอยู่ ถ้าหากเงินไม่เยอะเท่าไรแล้วทำให้เธอหยุดวุ่นวายไปได้สักพักก็ไม่เลว “งั้นลูกก็ทำประมาณการแผนงานมาให้พ่อดูแล้วกัน”
เอ๋? นี่สำเร็จแล้วเหรอ
เหลียงจิ้งเหยากระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ “ได้ค่ะๆ พรุ่งนี้หนูจะเอามาให้พ่อดูนะคะ”
เมื่อความหวังเป็นจริงแล้ว เหลียงจิ้งเหยาก็บอกว่าจะเลี้ยงข้าวลูกพี่ลูกน้องและเพื่อนรักอย่างร่าเริง
“ไม่ต้องขอบใจ รับของเขามาแล้วก็ต้องทำงานสิ” จั่นหลิงจวินพูดเสียงเย็น