อา…ในแผ่นเต้าหู้มีเห็ดหูหนู เห็ดหอม ผักหลงไช่ เมล็ดโก่วฉี่ และผักสดชนิดต่างๆ ทันทีที่เข้าปากจะได้รสสดใหม่อบอวลทั่วปาก แผ่นเต้าหู้ลื่นคอแทบขาดใจ เห็ดหอมนึ่งจนสุกเปื่อย ช่วงที่กลืนลงท้องนางรู้สึกว่าการที่ความทุกข์ทรมานในช่วงสามปีนี้สามารถแลกซาลาเปาอายุยืนครึ่งลูกมาได้ ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน!
อาหารรสเลิศทำให้คนรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ช่างคุ้มค่า…หึ คิดว่านางจะบอกว่าถึงตายก็ไม่เสียดายใช่หรือไม่ ผิดแล้ว! ของอร่อยเช่นนี้มีแต่จะทำให้นางยิ่งอยากมีชีวิตอยู่มากขึ้นและกระตุ้นความอยากอาหารที่สูญสิ้นไปในชีวิตให้กลับคืนมา นางจะขอมีชีวิตอยู่เพื่อของอร่อย!
ครั้งหน้านางจะกินร้อยลูก!
ไม่สิ…มันน้อยเกินไป ต่อให้เอามาสักสองร้อยลูกก็ไม่เป็นปัญหา!
หลินไต้อวี้คิดในใจโดยไม่รู้เลยว่าท่าทางดื่มด่ำในรสอร่อยของนางดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ในที่นั้น เมื่อดวงตาที่มีม่านน้ำตาคลอเริ่มมีประกายสว่างไสวฉายชัดอยู่บนดวงหน้าน้อยๆ ที่ดูอมโรคดุจต้นอ่อนที่เริ่มงอกราก ละม้ายบุปผาที่เริ่มแย้มบาน ทำให้คนมองถึงกับเหม่อ ยิ่งตอนนางดูดนิ้ว สีหน้าน่ารักน่าสงสารเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงหิมะซัดกระหน่ำช่วงฤดูเหมันต์ที่หนาวจัดทำให้ใครต่อกันรู้สึกเวทนาจับใจ
“ผินผิน…เจ้าหิวหรือ” จย่าเป่าอวี้เอ่ยถามเสียงเบา
เขาเป็นคนแรกที่ดึงสติคืนมาสำเร็จ เพราะอยากเห็นลักยิ้มที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมเปรมใจของนางอีกครั้ง แม้ใต้หล้าจะมีสตรีงามมากมายและบรรดาสาวใช้ในบ้านล้วนสวยสดโดดเด่น แต่สตรีที่สามารถขโมยหัวใจคนได้ด้วยรอยยิ้มเดียวเหมือนหลินไต้อวี้กลับไม่มีให้เห็นมากนัก เพราะชั่วขณะที่นางยิ้ม ห้องทั้งห้องเหมือนจะสว่างขึ้น และตัวนางคล้ายถูกอาบไล้ด้วยแสงตะวัน ดวงหน้าเปล่งประกาย เสียดายที่เป็นช่วงเวลาแค่แวบเดียว ทว่าช่วงเวลาสั้นๆ กลับทำให้หัวใจของจย่าเป่าอวี้เต้นกระหน่ำอย่างไม่ได้เตรียมใจมาก่อนและกระหายที่จะได้เห็นอีก
หลินไต้อวี้ช้อนสายตาขึ้นมองอย่างแช่มช้าและผงกศีรษะอย่างน่าสงสาร
ไม่พอสิ นี่มันเป็นแค่ไม้จิ้มฟันเท่านั้นเอง
“ท่านเอามาเพิ่มได้หรือไม่” นางรีบถาม
“ได้ ข้าจะไปเอามาให้อีกหลายๆ ลูก” ขอเพียงทำให้นางหันมาสนใจเขาได้ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ย่อมไม่เป็นปัญหา “อยากได้เยอะเท่าใด”
นางเริ่มกางนิ้วแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงปวดใจ “อย่างน้อยก็สักสิบสี่ลูก เผื่อพวกพี่สาวกับน้องสาวด้วย” นอกจากจย่าเป่าอวี้แล้วทุกคนต้องได้กันคนละสองลูก และถ้าหากพวกนางกินไม่หมด หึๆ ทั้งหมดย่อมต้องเป็นของนาง
“สิบสี่…ข้าจะให้พ่อครัวนึ่งให้หนึ่งหม้อเลย”
“ขอบคุณพี่เป่าอวี้เจ้าค่ะ” อีกนิดเดียวนางก็แทบจะโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขาแล้ว
รอยยิ้มน้อยๆ ของหลินไต้อวี้ทำให้จย่าเป่าอวี้รู้สึกหน้ามืดตาลาย เขาวิ่งออกไปพร้อมรอยยิ้มโง่งม
“น้องสาว สั่งทีเดียวเยอะถึงเพียงนั้น ไม่มีทางกินหมดหรอกนะ” หลี่หวันหัวเราะเบาๆ
“กินหมดอยู่แล้วเจ้าค่ะ” เชื่อนางเถอะ นางทำได้จริงๆ
“น้องสาว ขอบใจเจ้า” จย่าอิ๋งชุนบีบมือหลินไต้อวี้เบาๆ
“ขอบคุณพี่เป่าอวี้ดีกว่าเจ้าค่ะ จะขอบคุณข้าด้วยเหตุใด”
ความจริงสาเหตุที่พวกพี่น้องมาชุมนุมกันที่เรือนของนาง นอกจากจะพูดคุยกันเพื่อคลายเหงาแล้วก็เป็นเพราะเจ้าปีศาจในแดนมนุษย์นั่นชอบหาเรื่องยุ่งมาให้นางประจำ เนื่องจากเขาบอกว่าชอบนาง หากผู้อื่นมาได้จังหวะก็จะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรไปด้วย
ต้องบอกให้รู้กันก่อนว่าคนผู้นี้เป็นแก้วตาดวงใจของสกุลจย่า เป็นแก้วตาของท่านยายและเป็นดวงใจของท่านป้าสะใภ้รอง ขอเพียงเขาทำดีต่อใคร พวกผู้ใหญ่ก็จะเผื่อแผ่ความเมตตามาให้ เหมือนรักใครแล้วย่อมต้องรักไปถึงอีกาบ้านเขาเพื่อเป็นการเอาใจจย่าเป่าอวี้
แต่ถ้าใครคิดจะแย่งชิงความโดดเด่นไปจากเขา คนผู้นั้นอาจได้รับเคราะห์ ยกตัวอย่างเช่นจย่าหลันที่นางเดาว่าจย่าหลันคงเฉลียวฉลาดมากเกินไปถึงสอบเข้าเป็นบัณฑิตในสำนักศึกษาหลวงได้โดยไม่ต้องให้สินบน เท่ากับเป็นตบหน้าท่านอารองเป่าอย่างแรง มิน่าท่านยายถึงไม่พอใจ และท่านป้าสะใภ้รองก็ไม่ชอบ
เรือนลึกของบ้านหลังนี้อยู่ได้ไม่ง่ายจริงๆ จะว่าไป…ไฉนตอนแรกนางถึงไม่คิดจะเอาใจคนผู้นี้บ้างนะ
ถ้าทำดีกับเขาสักหน่อย นางย่อมมีวันดีๆ ให้ผ่าน แต่…พอเห็นหน้าตาโง่งั่งนั่นแล้วมันขัดลูกหูลูกตา หลินไต้อวี้เคยเห็นเขาวางท่าเป็นคุณชายตอนไม่พอใจแล้วสั่งโบยคน ทำให้รู้สึกว่าน่าขยะแขยง
แต่ถ้าอยากกินของอร่อย…ก็ทนๆ เอาหน่อยเถอะ
โปรดติดตามตอนต่อไป…