บทที่หนึ่ง
หลายเดือนมานี้ ไม่ว่าในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ต่างๆ ในหมู่ราษฎร กระทั่งในหมู่ชาวยุทธ์ ต่างพากันโจษจันเป็นที่เอิกเกริกอยู่สามเรื่องใหญ่
เรื่องที่หนึ่ง ขุนนางใหญ่หลายสิบคนทางเจียงหนานถูกค้นบ้านและยึดทรัพย์
การตรวจค้นในครั้งนี้พบทองคำหนึ่งร้อยหมื่นตำลึง อู่ซีฮ่องเต้ทรงชิงชังขุนนางที่ทุจริตต่อหน้าที่เป็นที่สุด ทรงมีรับสั่งให้ค้นบ้านและยึดทรัพย์ขุนนางที่กินสินบาทคาดสินบนทุจริตต่อหน้าที่ ปลุกเร้าให้ราษฎรในเจียงหนานมีกำลังใจฮึกเหิม เหล่าอาณาประชาราษฎร์ต่างสดุดีสรรเสริญคุณูปการและคุณธรรมของฮ่องเต้ เลื่องลือไปพันลี้
เรื่องที่สอง โจษจันกันว่าฮ่องเต้จะทรงรับพระธิดาบุญธรรมคนหนึ่ง
ว่ากันว่าเด็กสาวผู้นั้นรูปโฉมงดงามดุจบุปผา ฮ่องเต้ไม่เพียงจะทรงรับเป็นพระธิดาบุญธรรม ยังจะทรงแต่งตั้งนางเป็นองค์หญิงอีกด้วย
ทุกยุคทุกสมัยทุกราชวงศ์ ที่ไม่ขาดแคลนมากที่สุดก็คือขุนนางที่ทุจริตต่อหน้าที่และผู้กระทำความผิด ราชวงศ์ใดบ้างไม่มีขุนนางที่ทุจริตต่อหน้าที่ การค้นบ้านยึดทรัพย์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ส่วนเรื่องที่ฮ่องเต้จะทรงรับพระธิดาบุญธรรมก็ไม่นับเป็นเรื่องผิดปกติอันใด แต่ที่แปลกประหลาดก็คือกล่าวกันว่าสตรีผู้นั้นเป็นคนในยุทธภพ อีกทั้งยังมาจากหุบเขาหมื่นบุปผา เรื่องนี้ทำให้คนแปลกใจอย่างมาก
ทุกคนต่างรู้ดี หุบเขาหมื่นบุปผาถูกมองว่าเป็นพรรคมาร และสตรีในหุบเขาหมื่นบุปผาก็ถูกมองว่าเป็นนางมาร ไม่รู้ว่านางเป็นนางมารคนใด ชื่อเรียงเสียงใด เพราะไม่รู้จักนามของคนผู้นี้ และไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน จึงทำให้ผู้คนไม่รู้จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร
เนื่องจากฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งว่าหุบเขาหมื่นบุปผายอมสวามิภักดิ์และจงรักภักดีต่อราชสำนักแล้ว ดังนั้นไม่ว่าสำนักหรือพรรคใดก็ห้ามทำร้ายคนของหุบเขาหมื่นบุปผา ทันทีที่มีพระบัญชาลงมา ผู้คนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าฮ่องเต้จะทรงรับพระธิดาบุญธรรมจริง หรือถูกสตรีในหุบเขาหมื่นบุปผาทำให้ลุ่มหลงกันแน่ แต่ก็หามีผู้ใดกล้าซุบซิบนินทาในเรื่องนี้ นอกเสียจากจะไม่ต้องการศีรษะแล้ว ด้วยเหตุนี้ความสนใจของผู้คนและหัวข้อสนทนายามว่างขณะดื่มน้ำชาหลังอาหารจึงเปลี่ยนมาเป็นเรื่องใหญ่เรื่องที่สามทั้งหมด
เรื่องที่สาม จับกุมผู้กระทำผิดคนสำคัญของราชสำนัก
จากตะวันออกถึงตะวันตก จากเหนือจรดใต้ ฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้ออกประกาศจับผู้กระทำผิดผู้หนึ่ง
ที่อื่นยังไม่ต้องกล่าวถึง เพียงแค่กระดานติดประกาศจับในเมืองหลวง ทุกวันจะต้องมีชาวบ้านกลุ่มใหญ่ยืนอยู่หน้าภาพวาด วิพากษ์วิจารณ์คนในภาพต่างๆ นานา เพราะผู้กระทำผิดที่ถูกประกาศจับเป็นสตรีผู้หนึ่ง ทั้งยังเป็นสตรีที่รูปโฉมงดงามยิ่ง
ภาพวาดสาวงามผู้ใดบ้างไม่อยากดู หัวข้อสนทนาของชาวบ้านจึงวนอยู่กับเรื่องสาวงามผู้กระทำผิด ที่แปลกก็คือบนกระดานติดประกาศจับไม่ได้บอกว่าสาวงามกระทำความผิดเรื่องใด
การคาดเดาต่างๆ เป็นไปอย่างเกรียวกราว ยิ่งเป็นการเพิ่มความลึกลับให้กับสาวงามผู้กระทำผิดผู้นี้อีกชั้นหนึ่ง
อีกด้าน ในคฤหาสน์ของผู้มีอำนาจราชศักดิ์แห่งหนึ่งแถบชานเมืองหลวง บุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ในห้อง แสงอาทิตย์จากนอกหน้าต่างส่องกระทบร่างของเขา อาบย้อมเงาร่างสูงตระหง่านล่ำสันแข็งแรงของเขาให้มีประกายสีทองเคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง
เขายืนอยู่ข้างผนัง หยุดนิ่งเป็นเวลานานเพียงเพราะบนผนังมีภาพหญิงงามภาพหนึ่งแขวนอยู่ นักวาดวาดภาพนี้ตอนหญิงงามเพิ่งอายุสิบห้า เป็นภาพในพิธีปักปิ่น ของนาง
ฝีมือของนักวาดยอดเยี่ยมลึกล้ำดุจเทพเซียน วาดใบหน้าและลักษณะท่าทางอันมีเสน่ห์ชวนพิสมัยของหญิงงามออกมาราวกับมีชีวิต มุมปากสวยงามหยักโค้งเป็นรอยยิ้มงดงามชวนลุ่มหลง เพิ่งจะอายุสิบห้าปีก็มีรูปโฉมดุจเทพธิดา งามล่มบ้านล่มเมืองแล้ว