ทดลองอ่าน บัญชาปราบโฉมงาม บทที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บัญชาปราบโฉมงาม บทที่ 1

นัยน์ตาดำสนิทมองไม่เห็นก้นบึ้งของบุรุษผู้นี้ปกติจะมีประกายเยียบเย็นคมกริบทำให้คนเคารพยำเกรง แต่ยามมองสตรีในภาพวาด แววตากลับทอประกายลึกล้ำอ่อนโยนยากที่ผู้ใดจะสังเกตเห็น ในสายตาของผู้ที่มองมาจะเห็นเพียงว่าเขามองหญิงสาวในภาพ แต่ความจริงแล้วเขากำลังมองเงาของหญิงสาวอีกคนหนึ่งผ่านหน้าตาและลักษณะท่าทางของหญิงงามในภาพวาดต่างหาก

สายตาของเขาจดจ่อเช่นนั้น คล้ายจะสลักภาพวาดหญิงงามลงไปในสมอง เวลาคล้ายหยุดนิ่งอยู่กับที่ กระทั่งมีคนมาทำลายความเงียบ

“ฝ่าบาท พาคนมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หยวนเจี๋ยปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังดุจเงา พลางรายงานเสียงต่ำต่อผู้เป็นนายด้วยความนอบน้อม

ในที่สุดไป่หลี่ซีก็เบนสายตาจากคนในภาพวาด ยามที่หันมามองหยวนเจี๋ย แสงอาทิตย์ก็ส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลาเหนือผู้คนของเขา อู่ซีฮ่องเต้ในวัยสามสิบหก ทั่วร่างมีกลิ่นอายของบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ท่วงทีสุภาพเยือกเย็น หนักแน่นสุขุมเก็บงำความรู้สึก รวมทั้งมีพลังอำนาจของผู้เป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ที่จารึกอยู่ในกระดูก

ยามนี้ในดวงตาดำสนิทมีประกายเจิดจ้าระริกไหว น้ำเสียงก็คล้ายมีความพยายามกดข่มความตื่นเต้นดีใจเจืออยู่จางๆ

“คนเล่า?”

“จัดให้อยู่ที่เรือนซีจู๋ ให้คนดูแลปรนนิบัติรับใช้ ไม่กล้าละเลยพ่ะย่ะค่ะ”

ในดวงตาของไป่หลี่ซีพลันเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เส้นสายบนใบหน้าที่ดูแข็งกระด้างเย็นชาก็ผ่อนคลายลง มุมปากหยักโค้งเป็นรอยยิ้มจางๆ รอยยิ้มนั้นอบอุ่นดุจแสงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า ประกายอ่อนโยนละมุนละไมในดวงตาคล้ายสามารถแบกรับความมืดมิดในโลกนี้ได้

หยวนเจี๋ยที่ติดตามอยู่ข้างกายอีกฝ่ายมานานปีอดทอดถอนใจอยู่ในใจไม่ได้ เขาไม่ได้เห็นผู้เป็นนายดีใจเช่นนี้มานานแสนนานแล้ว

กี่ปีมาแล้ว นับแต่สตรีผู้นั้นหายตัวไป ฝ่าบาทก็ทรงไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริง

“หยวนเจี๋ย”

“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”

“ปีนี้นางอายุเท่าไรแล้ว”

“สิบเจ็ดพ่ะย่ะค่ะ”

“สิบเจ็ดแล้วหรือ…” ไป่หลี่ซีถอนใจเบาๆ ด้วยความปลื้มปีติ จากนั้นก็เอ่ยเบาๆ คล้ายพูดกับตนเอง “สิบเจ็ดปีแล้ว นางช่างเหี้ยม…”

ในน้ำเสียงที่ทอดถอนใจ นอกจากมีความสุขแล้วยังมีความเจ็บปวดชอกช้ำและไม่ยินยอม รวมทั้งความแค้นใจที่พูดไม่ออก

หยวนเจี๋ยรีบก้มหน้าลง ไม่กล้ามีความคิดเห็นต่อ ‘นาง’ ที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาแม้แต่น้อย หลายปีมานี้ ในโลกนี้ก็มีเพียงสตรีผู้นั้นที่ทำให้ผู้เป็นนายของเขาเฝ้าคิดถึงไม่ลืมเลือน แม้ผ่านไปหลายปีก็ยังคงฝังลึกอยู่ในใจราวใช้มีดสลักไว้ ไม่สามารถลบออก และไม่สมัครใจจะลบ

แต่ก็ไม่น่าแปลก สตรีผู้นั้น…พิเศษอย่างแท้จริง ดูเหมือนมีรักลึกซึ้งแต่กลับไร้ปรานี บอกไร้ใจแต่กลับมีใจ ตอนนั้นที่นางจากไปเป็นเพราะเห็นแก่ส่วนรวม คิดเพื่อฝ่าบาทอย่างแท้จริง เพียงแต่ในใจของฝ่าบาทไม่อาจปล่อยวางได้เท่านั้น เมื่อวันเวลาผ่านไปนานเข้าก็กลายเป็นปมในใจ และเป็นเคราะห์กรรมของพระองค์เอง

หยวนเจี๋ยติดตามผู้เป็นนายมาแต่ครั้งอีกฝ่ายยังเป็นรัชทายาท ตั้งแต่เป็นองครักษ์เล็กๆ ที่ไม่สำคัญ ไต่เต้าขึ้นมาจนมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการใหญ่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ ได้เห็นผู้เป็นนายย่ำผ่านกองโลหิตขึ้นมาทีละก้าวๆ กระทั่งได้นั่งบนบัลลังก์มังกรที่อยู่สูงสุดเหนือผู้คนด้วยตาตนเอง

แต่ไรมาผู้เป็นนายทำสิ่งใดก็จะตัดสินใจดำเนินการอย่างฉับพลัน ไม่โยกโย้พิรี้พิไร มีความเด็ดขาดและวิธีการของผู้เป็นกษัตริย์ เป็นความเปรื่องปราดที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่ยามอยู่ต่อหน้าสตรีผู้นั้น กลับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน บางครั้งเขาเองก็ยังสงสัยว่าผู้เป็นนายใช่ถูกวางยาด้วยหนอนพิษหรือไม่ หาไม่เวลาผ่านไปนานปีเพียงนี้ เหตุใดถึงยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจอีก

เพื่อจะเอาตัวนางกลับมา ฝ่าบาทได้ทำทุกวิถีทาง กระทั่งไม่เลือกวิธีการ ทรงบัญชาให้ติดป้ายประกาศจับไปทั่วแคว้น เรื่องนี้ก็แล้วไปเถิด เวลานี้ยังจับลูกศิษย์ของผู้อื่นมาอีก ทั้งปล่อยข่าวออกไปว่าจะรับเป็นพระธิดาบุญธรรม และแต่งตั้งให้เป็นองค์หญิง!

ข่าวปล่อยออกไปแล้ว ถัดจากนี้ก็ต้องดูว่าสตรีผู้นั้นจะเล่นด้วยหรือไม่ ในความคิดของหยวนเจี๋ย สตรีผู้นั้นใจดำอำมหิตมากพอ ไม่แน่ยังอาจตัดสินใจเด็ดขาดหลบซ่อนตัวไม่ออกมา ความมุ่งหวังของฝ่าบาทก็คงต้องคว้าน้ำเหลว

ทว่าคำพูดเหล่านี้หยวนเจี๋ยกล้าคิดอยู่เพียงในใจเท่านั้น ไม่กล้าเอ่ยออกจากปาก นั่นเป็นปมในใจของฝ่าบาท เป็นสิ่งต้องห้ามของผู้เป็นกษัตริย์ที่แตะต้องไม่ได้เด็ดขาด

ไป่หลี่ซีกล่าวกับหยวนเจี๋ยเบาๆ “ไปเถิด เราอยากจะไปดูนางให้เต็มตา”

“พ่ะย่ะค่ะ” หยวนเจี๋ยถอยไปอยู่ด้านหนึ่ง รอผู้เป็นนายเดินผ่านไปแล้วจึงตามหลังไปอย่างเงียบๆ

สถานที่ที่พวกเขาอยู่ในเวลานี้คือคฤหาสน์ชานเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงสิบลี้ เพื่อหลบเลี่ยงหูตาของคนในวัง หลังจากพวกเขาจับตัวลูกศิษย์ของสตรีผู้นั้นได้ก็คุ้มกันและส่งตัวมายังเมืองหลวง จากนั้นก็จัดให้อยู่ที่นี่อย่างลับๆ

ระหว่างทางจากเรือนหลักไปที่เรือนซีจู๋ ไป่หลี่ซีก้าวย่างอย่างสุขุมมั่นคง ไม่รีบไม่ร้อน เฉกเช่นปกติ แต่หยวนเจี๋ยรับรู้ได้ถึงฝีเท้าที่เบาและรวดเร็วของผู้เป็นนาย

“หยวนเจี๋ย”

“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าว่า…นางรูปร่างหน้าตาเหมือนคนในภาพหรือไม่”

“ทูลฝ่าบาท แม่นางผู้นี้ดูสดใสมีชีวิตชีวากว่าคนในภาพพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นหรือ” มุมปากของไป่หลี่ซีหยักโค้งมากขึ้น จากนั้นก็ถามอย่างออกจะเป็นกังวล “ที่เราจับกุมนางมา นางโกรธหรือไม่”

หยวนเจี๋ยบ่นอุบอิบในใจ จับตัวผู้อื่นมายังจะกลัวผู้อื่นโกรธอีกหรือ ไม่ผิดจากที่คาด พอฝ่าบาทเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรีผู้นั้นก็เปลี่ยนเป็นไม่ปกติแล้ว แต่ปากของเขาไม่กล้าพูดออกไปเช่นนี้ จึงรีบตอบคำ “แม่นางผู้นี้ควบคุมอารมณ์ได้ดียิ่ง ไม่เอะอะไม่โวยวาย”

“อ้อ” ไป่หลี่ซีค่อนข้างคาดคิดไม่ถึง หันไปมองหยวนเจี๋ย “นางไม่เอะอะไม่โวยวาย แล้วไม่หวาดกลัวหรือ”

“แม่นางผู้นี้แม้อายุยังน้อย อุปนิสัยกลับสุขุมหนักแน่น มีท่วงท่าของการเป็นผู้นำ” ลูบตามขน ของผู้เป็นนายย่อมไม่ผิดแน่

ไป่หลี่ซีฟังแล้วดวงตาเปล่งประกายวาว รอยยิ้มยิ่งกว้างขึ้น ไม่พูดอะไรอีก หมุนตัวเดินไปข้างหน้าต่อ

หยวนเจี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็เดินตามหลังผู้เป็นนายไป

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 3

บทที่ 3 ความผิดพลาด+ใต้แสงจันทร์ แม้สิ่งที่ไทเฮากล่าวจะเป็นประโยคคำถาม แต่ซูโม่อี้ก็รู้ว่านางไม่ได้มีความตั้งใจจะถามเขาเ...

community.jamsai.com