ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน บัญชาปราบโฉมงาม บทที่ 2
อูมู่ฉินกับสี่ผู้คุมกฎรวมทั้งผู้อาวุโสทั้งหลายประชุมลับกันอยู่หนึ่งวัน ร่างแผนการชิงตัวนักโทษออกมา
แผนชิงตัวนักโทษครั้งนี้เป็นผลงานชิ้นแรกที่อูมู่ฉินจะทำตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประมุขมา แต่นางไม่ใช่ประมุขหุบเขาคนแรกที่ทำเรื่องแบบนี้ นับแต่ปฐมาจารย์ก่อตั้งสำนักหุบเขาหมื่นบุปผา ประมุขแต่ละยุคในอดีตมากน้อยล้วนเคยปล้นคุกชิงตัวนักโทษกันมาแล้ว เพียงเพราะโลกนี้ไม่เคยขาดแคลนคดีที่ต้องโทษอย่างไม่เป็นธรรม
ในหุบเขาหมื่นบุปผามีช่างหยกที่ถูกกดขี่ประทุษร้าย มีนักกวีที่เปี่ยมไปด้วยความปราดเปรื่องแต่กลับต้องระเหเร่ร่อนอยู่ตามถนน มีหญิงปักผ้าที่ถูกข่มเหงและกดขี่ ยังมีนักวาดภาพ ช่างตีเหล็ก หมอตำแย ที่ปรึกษาการทหาร ช่างแกะสลัก หมอ เป็นต้น บุคคลที่มีความสามารถในทุกสาขาอาชีพที่พึงมีก็มีครบ ขอเพียงประมุขหุบเขาเห็นว่าคนผู้นั้นไม่สมควรตาย ก็จะนำพากองกำลังจำนวนมากปิดหน้าปลอมแปลงโฉม ลงจากเขาไปชิงตัวคน
วันนี้อูมู่ฉินพากำลังคนมาดักซุ่มอยู่ละแวกใกล้เคียงเนินสยบวิญญาณ สิบปีก่อน ที่นี่เดิมเป็นสุสานที่ฝังศพรวมกันแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีกลิ่นอายความเยียบเย็นน่าสะพรึงกลัวมากเกินไป และมีคำเล่าลือว่าถูกผีหลอกกันอย่างมากมาย ขุนนางท้องถิ่นได้เชิญนักพรตฝีมือเลิศล้ำท่านหนึ่งมาทำพิธีร่ายอาคมและตั้งป้ายศิลาแผ่นหนึ่งที่บนเนิน ป้ายศิลาแผ่นนี้สลักตัวอักษรใหญ่ไว้สามคำ ‘เนินสยบวิญญาณ’ นับแต่นั้นที่แห่งนี้จึงมีชื่อว่าเนินสยบวิญญาณตามป้าย
“เจ้าแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องผ่านมาทางนี้?”
“พวกเขาแยกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปทางน้ำอย่างเปิดเผย อีกกลุ่มหนึ่งลอบมาทางบกอย่างลับๆ เพราะพวกเขากลัวว่าระหว่างทางจะมีคนมาชิงตัวนักโทษ ดังนั้นจึงให้ซือถูตัวปลอมไปทางน้ำ แต่พวกเขาหลอกข้าไม่ได้ ข้าอูหวั่นเซียงมีตาวิเศษที่มองทะลุแม้แต่ปัญหาเล็กน้อย ซือถูหรานตัวจริงถูกพวกเขาคุมตัวมาทางถนนสายนี้”
ผู้คุมกฎเสือดาวถามผู้คุมกฎอินทรีด้วยความอยากรู้ “เจ้าแยกแยะซือถูหรานตัวจริงกับตัวปลอมได้อย่างไร”
“ข้าวางหนอนพิษคล้องใจไว้ในตัวเขา ต่อให้เขากลายเป็นเถ้าถ่านข้าก็จำได้”
อูมู่ฉินฟังแล้วเบิกตากว้าง ผู้คุมกฎงูหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ผู้คุมกฎเสือดาวทำตาปะหลับปะเหลือก ผู้คุมกฎจิ้งจอกกลับยกนิ้วหัวแม่มือให้นาง
อูหวั่นเซียงผู้คุมกฎอินทรีเป็นชนเผ่าเหมียว ชาวเหมียวเชี่ยวชาญการใช้หนอนพิษ หนอนพิษคล้องใจเป็นหนอนพิษฝาแฝดสองตัว เอาหนอนพิษตัวหนึ่งใส่ไว้ในตัวเป้าหมาย อีกตัวหนึ่งไว้ที่ตัวผู้ใช้หนอนพิษ หนอนพิษฝาแฝดสามารถสัมผัสรับรู้ถึงกันและกันได้ การเคลื่อนไหวของคนที่ถูกใส่หนอนพิษไว้ในตัวจะไม่มีวันหนีพ้นจากคนที่ใช้หนอนพิษไปได้ นั่นก็หมายความว่าคนที่ใช้หนอนพิษสามารถตามติดอีกฝ่ายดุจดวงวิญญาณที่ไม่แตกสลาย สุดหล้าฟ้าเขียวก็หาตัวเขาพบ
ผู้คุมกฎจิ้งจอกถามด้วยความอยากรู้ “เจ้าลากเขาขึ้นเตียงไปแล้ว?”
อูหวั่นเซียงสีหน้าขรึมเย็น “กำลังจะลงมือ คนก็ถูกจับเสียก่อน ช้าไปก้าวหนึ่ง!”
วุ่นวายกันมาเป็นนาน ที่อูหวั่นเซียงแค้นใจก็คือเรื่องนี้เอง เนื้อหอมหวานที่กำลังจะเข้าปากถูกชิงไปแล้ว นี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุให้นางคลุ้มคลั่ง
อูหวั่นเซียงเป็นคนใจกล้าบ้าบิ่น รักแรงเกลียดแรง บุรุษในหุบเขาที่หลงใหลในตัวนางมีมากมาย แต่อูหวั่นเซียงไม่พึงใจแม้แต่คนเดียว ส่วนผู้คุมกฎเสือดาวกับผู้คุมกฎงูแม้จะเป็นบุรุษรูปงามไร้ผู้เทียมทาน แต่สำหรับอูหวั่นเซียงแล้ว นางกับพวกเขาสนิทสนมกันจนไม่ต่างอะไรกับพี่น้อง มีเพียงซือถูหรานที่หลั่งเลือดสู้รบในสมรภูมิ อาบโลหิตสังหารศัตรูจึงจะถูกใจนาง
อูมู่ฉินเผยสีหน้าว่าเข้าใจ พลางตบอกเอ่ยขึ้น “วางใจเถิด ข้าจะช่วยเจ้าชิงชิ้นเนื้อต้องห้ามกลับคืนมา”
‘ชิ้นเนื้อต้องห้าม’ คำนี้นางรู้จักตอนอายุเก้าขวบโดยอาจารย์ของตน
ผู้คุมกฎเสือดาวถามด้วยสีหน้าเรียบขรึม “ท่านประมุข นี่เรามาช่วยคน หรือผลักคนลงขุมไฟนรกกันแน่”
ผู้คุมกฎงูยิ้มชั่วร้าย “นี่เรียกว่าโชคดีได้ใจหญิงงาม ไม่เพียงช่วยชีวิตน้อยๆ ของตนไว้ได้ ยังได้โอบกอดหญิงงามอีกด้วย”
ผู้คุมกฎจิ้งจอกยิ่งยั่วเย้า “เป็นการช่วยคน และได้ตัวคน ยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว”
ทุกคนหัวเราะจนไหล่สั่น คาดเดาว่าเมื่อถึงเวลานั้นหากมิใช่ลมตะวันออกดับลมตะวันตก ก็ย่อมต้องเป็นลมตะวันตกพัดดับลมตะวันออก แม้สิ่งที่กำลังรอพวกเขาอยู่คือการเข่นฆ่าสังหารที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นคาวโลหิต พวกเขาก็ยังคงพูดคุยกระเซ้าเย้าแหย่กันอย่างไม่สะทกสะท้านไร้ข้อห้ามใดๆ เพราะตั้งแต่เด็กพวกเขาก็เป็นเช่นนี้
เวลานี้ผู้สอดแนมที่ส่งตัวไปได้กลับมาแล้ว
“เรียนท่านประมุข ขบวนนำส่งตัวนักโทษปรากฏขึ้นแล้วขอรับ”
อูมู่ฉินเก็บสีหน้าล้อเล่น เปลี่ยนเป็นท่าทางเคร่งขรึมน่าเกรงขามของผู้เป็นประมุข ในดวงตาคู่งามเปล่งประกายเจิดจ้าด้วยความเบิกบานใจเพราะได้ออกมาล่าสัตว์ คนอื่นๆ ก็ถูไม้ถูมือไม่ต่างจากนาง รอคอยด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแวววาว
ตีขุนนางสุนัข ชิงตัวผู้ถูกกลั่นแกล้ง ภารกิจนี้ช่างน่าสนใจยิ่งนัก!
อูมู่ฉินมองไปข้างหน้า กองกำลังขบวนหนึ่งค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น มุมปากนางหยักโค้งเป็นรอยยิ้มงดงาม ชูมือขึ้น แล้วโบกลงเป็นสัญญาณให้บุกเข้าโจมตี ฉับพลันนั้นกำลังคนที่ดักซุ่มอยู่ทุกทิศทางก็บุกเข้าหาเป้าหมายด้วยความรวดเร็วดุจพยัคฆ์ เสือดาว และสุนัขป่า
ภารกิจในการช่วยคนเปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว