ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน บัญชาปราบโฉมงาม บทที่ 4
เขาเข้ามาในบ้านเก็บจานชาม ยังต้องแบ่งสมาธิไปมองนางที่อยู่ด้านนอกด้วยกลัวว่านางจะสัปหงกจนเผลอร่วงตกจากเก้าอี้ คิดไปคิดมาก็เห็นว่าไม่เหมาะ เขาจึงเดินออกไปอีกครั้ง อุ้มนางขึ้นมา ก้าวยาวๆ ไปที่ลานด้านหลัง วางร่างนางลงบนเก้าอี้หิน ให้นางพิงเสาไม้ที่อยู่ด้านข้างหลับ ลานด้านหลังมีผ้าห่มตากอยู่ บดบังร่างนางไว้ได้พอดี ไม่ถูกผู้ใดเห็นเป็นแน่ เขาจึงวางใจกลับเข้าไปทำงานในบ้านต่อ
เขาคิดการวางแผนอยู่ในใจ หลังจากนี้จะต้องสั่งคนให้จัดการหาที่อยู่ให้นางให้เรียบร้อย ตนจะได้ไม่ต้องรำคาญใจคอยห่วงพะวง ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาไปติดค้างอะไรนางตั้งแต่เมื่อไรกัน
เขาเก็บกวาดเรียบร้อย จากนั้นก็ตรวจดูรอบด้าน หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนจึงหยิบสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ ออกมาเขียนอะไรบางอย่าง นี่เป็นจดหมายลับที่จะส่งไปเมืองหลวง เขียนเสร็จแล้วเขาก็หยิบถุงหนังสีดำใบหนึ่งออกมาจากช่องลับที่พื้นกระดาน หยิบตราประทับแกะลายอันหนึ่งออกมา มีแต่คนของเขาเท่านั้นจึงจะรู้จักตราประทับนี้
เขาผนึกจดหมายลับ หลังจากประทับตราลงไปก็เอาเก็บไว้ในช่องลับด้วยกัน
ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จเขาก็เดินไปที่ลานด้านหลัง พอเห็นสภาพของมู่เอ๋อร์เขาก็เกือบจะหัวเราะออกมา นางหนูผู้นี้ท่าทางจะง่วงมาก แต่ก็กลัวตนเองจะล้มลงไป ถึงกับเอาผ้าห่มที่คลุมอยู่มัดตนเองติดกับเสาเอาไว้ จากนั้นก็พิงเสาหลับสบาย
นางที่อยู่ในสภาพเช่นนี้เห็นแล้วทั้งน่ารักและน่าสงสาร แสงแดดสาดส่องใบหน้านางจนแดงน่ามองยิ่ง นางหลับสนิทเสียขนาดเขาเข้ามาใกล้ก็ยังไม่ตื่น เขายื่นมือไปลูบเส้นผมของนาง เส้นผมแห้งแล้ว เพียงรู้สึกนุ่มมือดุจแพรต่วน ทำให้เขาแทบไม่อยากละมือ
เส้นผมนุ่มนิ่มระผ่านนิ้วมือของเขา คล้ายระผ่านส่วนที่นุ่มนิ่มที่สุดในหัวใจของเขา เขามองนางเงียบๆ จะว่าไปก็แปลก นางหาได้งามเลิศเลอ เพียงนับเป็นหญิงงามในหมู่ชาวบ้าน แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาจากนางได้
เขาชอบความใสซื่อของนาง มองใบหน้าที่หลับอย่างสงบสุขของนางทำให้เขาลืมความมืดมนอัปลักษณ์ของโลกนี้ไปได้ชั่วคราว
นางในยามหลับ มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อยคล้ายกำลังยิ้ม เขาอยากจะถามนางยิ่งนัก กินไม่อิ่ม สวมใส่ไม่อุ่น ไม่มีที่ให้หลบแดดบังฝน เพราะเหตุใดนางจึงยังนอนหลับอย่างสบายใจเช่นนี้ได้ หรือไม่กลัวเขาซึ่งเป็นบุรุษจะเกิดความคิดมิดีมิร้ายต่อนางหรือ
บางทีเขาควรจะขู่ขวัญนาง นางจะได้รู้จักระวังตัว ด้วยรูปโฉมที่งดงามของนาง เที่ยวระเหเร่ร่อนอยู่ในป่าเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้จะต้องประสบภัยอันตรายแน่นอน
ครั้นแล้วเขาก็ไม่คำนึงถึงเรื่องที่ต้องระวังระหว่างชายหญิง จู่ๆ ก็อุ้มนางขึ้นมา การกระทำนี้รบกวนการนอนของนาง นางลืมตางัวเงียขึ้นมาด้วยความฉงน
“พี่ชาย ท่านจะทำอันใดอะไร” ด้วยความง่วงงุนเสียงของนางจึงอู้อี้ นุ่มนิ่มอ่อนหวาน คล้ายมีผู้ใดเอาขนนกเข้าไปเย้าแหย่หัวใจบุรุษ
ไป่หลี่ซีแสร้งยกยิ้ม กดเสียงลงต่ำ พูดกับนางอย่างคลุมเครือมีเลศนัย “ข้าจะอุ้มเจ้าเข้าไปนอนในห้อง”
“อ้อ” นางพยักหน้า หลับตาลง เอาศีรษะหนุนไปที่หัวไหล่ของเขาและหลับต่อ
ไป่หลี่ซีย่นหัวคิ้ว “ข้าจะอุ้มเจ้ากลับไปที่เตียงของข้า” เขาเอ่ยเสริม กลัวนางฟังไม่เข้าใจ
“อืม” นางพยักหน้า กระทั่งตายังไม่ลืมขึ้นมา
อืมอะไร ถึงกับยังฟังไม่เข้าใจหรือ หญิงโง่งมผู้นี้!
เขาเพลิงโทสะพวยพุ่ง ถ้าเขาเป็นเติงถูจื่อนางจะทำเช่นไร
ไป่หลี่ซีอุ้มนางตรงเข้าบ้าน หลังจากวางนางลงบนเตียงแล้ว เขาไม่ได้ผละไป หากแต่เอามือทั้งสองข้างค้ำยันไว้ซ้ายขวาข้างตัวนาง จากนั้นก็โน้มตัวลง ขยับใบหน้าเข้าไปจนชิด ลมหายใจเป่ารดใบหน้าของนาง จงใจยั่วเย้าผิวหนังของนาง รอให้นางลืมตาและหวาดกลัวเขา
ทว่าคนตัวเล็กกลับไม่ตื่น ยังคงหลับต่อ ประมาทไม่ระวังตัวเสียจนทำให้คนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เขาทนไม่ไหว ขู่ขวัญนางเสียงต่ำ “นี่เป็นเตียงของข้า ไม่สู้เราสองคนมานอนด้วยกันเสียเลย เจ้าไม่ตอบ ข้าก็ถือว่าเจ้าตกลงแล้วนะ”
ตอนเขาพูด ลมปากเป่าระเส้นผมนาง ทำให้นางคันหน้ายุบยิบ นางถูกรบกวนจากการหลับฝัน คิ้วงามขยับเข้าหากัน ฉับพลันนั้นนางก็ยื่นมือคล้องคอเขา จุมพิตไปที่ริมฝีปากเขาทีหนึ่ง
“อย่าดื้อ ไปเล่นข้างๆ อย่าส่งเสียงรบกวน” นางพึมพำออกมาราวกับเสียงนกนางแอ่นร้อง แล้วพลิกตัวนอนต่อ
ไป่หลี่ซีตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง เบิกตามองนางอย่างงงงัน นางจูบเขา…นางถึงกับจูบเขา
ลมหายใจของนางสม่ำเสมอ หัวใจเต้นเป็นปกติ ทั้งร่างผ่อนคลาย ถ้าแสร้งหลับเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองไม่ออก นี่เท่ากับว่านางหลับไปแล้วจริงๆ คำพูดที่ละเมอเมื่อครู่ก็เป็นความจริงเช่นกัน
กลีบปากอ่อนนุ่มนี้หอมและน่าหลงใหลยิ่งนัก แม้จะเพียงแตะเบาๆ แต่กลับปลุกเร้าความรู้สึกลึกซึ้งในใจของเขา ทำให้เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ
เขามองจ้องนางเขม็ง ประกายตาดุจเปลวไฟ แต่หญิงผู้นี้ยังคงหลับใหลราวกับคนไร้หัวจิตหัวใจ คล้ายว่าต่อให้ถูกคนจับขายไปแล้วก็ไม่ตื่น จุมพิตเขาในฝัน แต่กลับนอนอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ช่าง…ประเดี๋ยวก่อน นางเข้าใจว่าคนที่นางจูบคือผู้ใดกัน
เขาอยากปลุกนางขึ้นมาถาม แต่เห็นนางนอนหลับสบายเช่นนี้กลับไม่อาจตัดใจปลุก ทำให้เขาในเวลานี้ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี
เขาพบว่าตนเองไม่รังเกียจจุมพิตที่เหมือนแมลงปอแตะผิวน้ำนี้แม้แต่น้อย กลับมีความปรารถนาอยากจะลิ้มลองอีกผุดขึ้น
แววตาข่มขู่คุกคามคนของเขาจับจ้องนางอยู่เป็นนาน เสียดายนางไม่รู้ตัวเลย สุดท้ายเขาก็ทอดถอนใจ ตัดสินใจปล่อยนางไปชั่วคราว ให้นางนอนให้เต็มที่สักตื่น พรุ่งนี้เขาค่อยมาคิดบัญชีนี้กับนาง
เขาหยัดร่างขึ้น ก้าวยาวๆ เดินออกจากห้องไป
หลังจากเขาออกไปแล้ว คนที่อยู่บนเตียงพลันลืมตาขึ้น หันหน้ามองไปทางด้านนอก เมื่อแน่ใจว่าเขาไปแล้วนางก็หัวเราะซุกซนออกมาอย่างไร้สุ้มเสียง
นางตื่นอยู่!
ตอนหม่าเฉวียนอุ้มนางที่ลานด้านหลังนางก็ตื่นแล้ว เพียงแต่ง่วงงุนจนคร้านจะลืมตา แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเขาเอ่ยถ้อยคำคลุมเครือมีเลศนัยเจือการขู่ขวัญเช่นนั้นออกมา
นางประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะขู่ขวัญนางเช่นนี้