ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน บัญชาปราบโฉมงาม บทที่ 6
การใช้ยาแปลงโฉมนี้ ลูกน้องผู้หนึ่งที่อยู่ข้างกายปฐมาจารย์ มีความเชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพรเป็นผู้ศึกษาและคิดค้นขึ้นมา ยานี้สามารถเปลี่ยนแปลงรูปหน้าและรูปร่างลักษณะของอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้า คนทั่วไปเวลาแปลงโฉมจะใช้หน้ากากติดบนใบหน้า นั่นเป็นวิธีพื้นๆ ธรรมดา ถูกมองออกได้ง่าย และทำร้ายผิวหน้า ปฐมาจารย์รักสวยรักงาม ทั้งตั้งกฎว่าประมุขหุบเขาต้องเป็นคนงาม แล้วจะสอนศิษย์ให้ใช้วิธีปลอมแปลงโฉมที่ทำร้ายผิวหนังและประสิทธิภาพไม่ยืนยาวได้อย่างไร
นางลืมตาขึ้น หยิบคันฉ่องสำริดขึ้นมา ภาพที่สะท้อนออกมาในคันฉ่องคือรูปโฉมแท้จริงที่ไม่ได้พบเห็นมานาน จากนั้นนางก็ถอดเสื้อสีเรียบและกางเกงขายาวออก เปลี่ยนมาสวมชุดอิสตรีอีกชุดหนึ่ง เพียงหมุนตัวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่หญิงชาวบ้านที่ดูทึ่มทื่อไร้เดียงสาอีก หากแต่เป็นหญิงงามล่มเมืองที่รูปโฉมงดงามดุจเทพธิดาทั้งเจือเสน่ห์พริ้งเพราอีกสามส่วน
นางเอาเสื้อผ้าแบบหญิงชาวบ้านและเครื่องมือในการแปลงโฉมซ่อนกลับลงไปใต้แผ่นหิน เอาของอื่นๆ มาวางปิดไว้ข้างบน จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องเก็บฟืน สะกิดปลายเท้าใช้วิชาตัวเบาพุ่งทะยานไปสิบกว่าจั้ง เงาร่างอ่อนช้อยสง่างามดุจเทพเซียนโลดแล่นเข้าไปในป่า
นางใช้วิชาตัวเบามาตลอดทาง พยายามหลบเลี่ยงคนในหมู่บ้าน ที่สังเกตเห็นนางได้มีเพียงนกในป่าไม้ เพราะการโผนทะยานของนางทำให้นกหลายตัวตกใจบินหนี
ฉับพลันนั้นเองก็มีเสียงลมดังขึ้นมาข้างหลัง นางตื่นตัวและหันหน้ากลับไปมองก็เห็นเสื้อขาวปลิวปราย คนผู้หนึ่งกำลังไล่ตามติดมาข้างหลัง วิชาตัวเบาของคนผู้นี้เหนือกว่านาง ทำให้ระยะห่างของคนทั้งสองขยับชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว และทำให้นางมองเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
ตันไหวชิง!
นางประหลาดใจ เก็บพลังที่จุดตันเถียน ทิ้งร่างอรชรอ้อนแอ้นลงบนยอดไม้ประดุจนกที่บินมาแล้วหยุดพัก น้ำหนักเบาดุจขนนก
ตันไหวชิงก็หยุดร่างบนยอดไม้ เงาร่างดุจไม้ไผ่ ฝ่าเท้ามั่นคงดุจขุนเขา มองประสานสายตากับนาง
อูมู่ฉินยกปากแย้มยิ้ม “จอมยุทธ์ตัน ไม่ได้พบกันนาน ท่านคงไม่ได้เฝ้าตอรอกระต่าย อยู่ในเขตภูเขานี้มาครึ่งปีกระมัง”
ตันไหวชิงรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาสุภาพเรียบร้อยเฉกเช่นสุภาพบุรุษสง่างาม สูงส่งเหนือผู้คน ดูสุภาพมีมารยาทเหมือนปัญญาชน แต่อูมู่ฉินรู้นิสัยของคนผู้นี้ เขาหาได้นุ่มนวลอ่อนโยนดั่งรูปโฉมภายนอก อาจารย์เคยบอก รูปโฉมภายนอกจะหลอกตาคน มองคนต้องมองลึกเข้าไปข้างใน
นางดูจากค่ายกลที่ตันไหวชิงวางไว้ก็รู้ว่าคนผู้นี้เฉลียวฉลาด เหี้ยมโหดอำมหิตและเย็นชา แต่นางไม่กลัวเขา เพราะในข่าวสารเกี่ยวข้องกับเขาที่ผู้คุมกฎอินทรีรวบรวมมาละเอียดรอบคอบจนนางรู้จักเขาครบทุกด้าน ส่วนสาเหตุที่ผู้คุมกฎอินทรีรวบรวมข่าวของเขามาละเอียดไม่ใช่เพราะอื่นใด…เพียงเพราะเขารูปงาม
ตันไหวชิงเป็นยอดฝีมือในบรรดาคนรุ่นหนุ่มแห่งยุทธภพในเวลานี้ เขามีนิสัยชอบไปมาตามลำพัง ยามเผชิญหน้ากับการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องไร้สาระในยุทธภพ เขาก็มีหลักการและวิธีการปฏิบัติตัวอย่างดีเยี่ยม
ตามรายงานจากสายข่าวของผู้คุมกฎอินทรี เรื่องที่ตันไหวชิงเคยทำในที่แจ้งในที่ลับ เปรียบเทียบกันทั้งสองด้าน นางล้วนจดจำอยู่ในสมองทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ความรู้สึกที่นางมีต่อคนผู้นี้ในเวลานี้ก็คือถึงแม้เขาจะอยู่ฝ่ายธรรมะ แต่การกระทำของเขากลับแปลกประหลาดยิ่ง
พูดง่ายๆ ประโยคเดียวก็คือเขาไม่ถูกผูกมัดด้วยประเพณีนิยม บรรทัดฐานการปฏิบัติตัว และพิธีรีตอง กฎเกณฑ์ของฟ้าดินล้วนอยู่ในใจของเขาเท่านั้น
ดังนั้นตันไหวชิงผู้นี้ความจริงแล้วเป็นคนประเภทเดียวกับนาง เพียงแต่นางมาจากหุบเขาหมื่นบุปผาที่ถูกมองว่าเป็นพรรคมารชั่วร้าย ส่วนเขากลับมาจากวงศ์สกุลที่มีชื่อเสียงว่าเป็นฝ่ายธรรมะแห่งที่ราบตอนใต้
นางไม่หนี หากแต่ยิ้มน้อยๆ มองเขา แสงอาทิตย์ส่องสะท้อนเรือนผมยาวของนางดูสดใสสวยงามยากจะหาใดเทียม ลมภูเขาพัดม้วนเส้นผมปลิวปรายอยู่ด้านหลัง เพิ่มกลิ่นอายเทพเซียนขึ้นหลายส่วน
ตันไหวชิงมองนางด้วยแววตาเยียบเย็น แม้เขาจะวางค่ายกลไว้ แต่จนแล้วจนรอดก็จับนางไม่ได้ ไม่ได้พบนางมาครึ่งปี ดูเหมือนนางจะงดงามมากขึ้น เปรียบกับตอนพบนางครั้งแรกดูมีจริตจะก้านมีเสน่ห์ดึงดูดใจของอิสตรีมากขึ้น แต่ต่อให้อิสตรีเลอโฉมเพียงใด ถ้าไม่ถูกใจเขา เขาก็ไม่มีวันถูกรูปโฉมภายนอกอันตื้นเขินทำให้ลุ่มหลง
“โจรหญิง มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะหนีไปไหนอีก”
อูมู่ฉินสีหน้าไร้ความผิด “จอมยุทธ์ตันเข้าใจผิดแล้ว ข้าหาได้หนีไม่ ค่ายกลที่ท่านวางไว้บนภูเขาแม้จะร้ายกาจ แต่คิดจะกักตัวข้า ยังต้องเพิ่มความชำนาญอีกหน่อย”
ตันไหวชิงหรี่นัยน์ตา “เจ้าไม่กลัวข้าสังหารเจ้า?!”
“ท่านไม่ทำเช่นนั้น”
“อ้อ รู้ได้อย่างไร”
“เพราะท่านก็ไม่แน่ใจว่าข้าเป็นคนเลว ก็เหมือนกับที่ท่านไม่แน่ใจว่าแม่ทัพซือถูมีความผิด”
ประกายแสงในดวงตาตันไหวชิงสั่นไหว เขาจับตามองนางนิ่ง เรียวปากบางหยักยกเป็นรอยยิ้มที่อ่านความหมายไม่ออก “ใช่ ข้าไม่คิดสังหารเจ้า แต่ก็ไม่คิดจะปล่อยเจ้าไป”
“ไว้ประมือกันวันหน้าได้หรือไม่ ที่บ้านข้ามีคนแก่และเด็ก จะรีบกลับไปอยู่พร้อมหน้ากัน”
รอยยิ้มมุมปากเขากว้างขึ้น “ไม่ได้” กล่าวจบพลังที่เขาซัดออกมาจากฝ่ามือก็จู่โจมเข้ามาแล้ว