LOVE
ทดลองอ่าน ฝันดีว่ามีเธอ ตอนที่ 2
สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นว่าทริปนี้ณชาต้องเป็นคนขับรถไปถึงพัทยา และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์เองหมด โดยที่พสินหาได้มีอีโก้มากพอที่จะสำนึกผิดหรือละอายใจในเรื่องนี้ไม่ แต่ณชาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะช่วยจ่ายแม้แต่บาทเดียวมาตั้งแต่แรก จึงไม่ได้รู้สึกอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมนอนโรงแรมถูกๆ ตามที่พสินเสนอ ทั้งยังไม่ยอมกินข้าวข้างทางตามที่เขาพยายามจะช่วยประหยัด
“แบบนี้จะมาว่าพี่ก็ไม่ถูกนะ ในเมื่อเธอเลือกที่พักที่กินในระดับที่พี่ไม่มีปัญญาจ่ายเองนี่นา”
พสินออกตัวระหว่างพากันมานั่งจิบกาแฟในร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งในช่วงสายของวันต่อมา เขากับณชาเพิ่งเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม แล้วจึงมาแวะหาอะไรทานที่ร้านนี้ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เมื่อวานเขากับณชามาถึงพัทยาในช่วงเย็น แล้วก็เลือกพักในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง เมื่อคืนเขานั่งดื่มที่บาร์ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเป็นเพื่อนณชาจนถึงตีสอง ฟังเธอเวิ่นเว้อเพ้อรำพันถึงเจสตลอดหลายชั่วโมง เธอเมาเล็กน้อยแบบยังพอจะมีสติอยู่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอไว้ใจเขามากจึงมิได้ระวังตัวมากนัก ซึ่งพสินก็ไม่เคยมีความคิดอยากจะเอาเปรียบเธอแม้แต่นิดเดียว ถึงจะมีใจให้ณชาแต่ความรู้สึกของเขาบริสุทธิ์และอ่อนโยนเกินกว่าจะคิดเรื่องต่ำๆ กับเธอได้ แม้ว่าคำพูดคำจาของเขาแต่ละครั้งจะไม่ค่อยถนอมน้ำใจเธอสักเท่าไหร่นักก็ตาม…
“ถ้าเธอยอมนอนโรงแรมที่พี่เสนอ กินอาหารร้านที่พี่โอเค…พี่ก็คงเป็นคนเลี้ยงไปแล้วล่ะ”
“หุบปากไปเลยค่าาา”
“แต่จริงๆ แค่พี่มาเป็นเพื่อนตอนที่เรากำลังรู้สึกแย่มันก็น่าจะถือว่าดีสุดๆ แล้วนะ อะไรจะสำคัญไปกว่าการมีเพื่อนอยู่ข้างๆ ตอนกำลังจิตตก”
“ค่ะพี่ ขอบพระคุณมากค่ะ ช่างเป็นบุญของน้องจริงจริ๊งงง!” ณชาตอบกลับอย่างประชดประชัน “นี่ถ้าไม่ได้พี่พีทป่านนี้คงเสียใจโดดทะเลตายไปแล้วล่ะมั้ง!”
“เอาน่า…ไว้พี่รวยเมื่อไหร่จะเลี้ยงเราคืนบ้าง”
“อีกสิบปีคุณพี่จะรวยไหมคะ เงินเดือนนิดเดียวแถมยังเที่ยวเก่งซะขนาดนี้ รถก็ไม่มีขับ บ้านก็ยังต้องเช่าเขาอยู่”
“พูดจาโหดร้ายไม่ถนอมน้ำใจพี่เลย”
“แล้วคุณพี่เคยถนอมน้ำใจน้องไหมคะ”
“ก็บอกแล้วว่าทั้งหมดเป็นเพราะพี่ห่วง”
ณชาเบ้ปากใส่ก่อนจะยกถ้วยชาร้อนขึ้นจิบ
“พี่พูดตามตรงนะ ถ้าเราตกลงเป็นแฟนกันตอนนี้ อีกสัก…ห้าหกปีหรืออีกสิบปีเราค่อยแต่งกันก็ได้นี่นา ตอนนั้นพี่น่าจะมีพร้อมทุกอย่างแล้ว”
คนฟังชะงักมองอีกฝ่ายอย่างค้นคว้าแวบหนึ่ง พสินมีวิธีมองและพูดถึงเรื่องเหล่านี้ได้โดยที่ไม่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือเกิดอาการขัดเขินใดๆ เลย เขาพูดขึ้นมาได้หน้าตาเฉยและฟังดูเรียบๆ เหมือนชวนคุยเรื่องปกติทั่วไปจนเธอไม่รู้สึกว่าโดนต้อนหรือกดดัน
จริงๆ แล้วพสินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าแทบไม่ได้มีอะไรเลยที่เธอไม่ชอบ ถ้าไม่นับเรื่องทรัพย์สินเงินทองของนอกกายที่เขามีค่อนข้างน้อย…ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนที่เข้ากับเธอได้ดีมากแบบที่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำได้เลยด้วยซ้ำ แล้วเธอกับเขาก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังและธาตุแท้กันและกันเกือบทุกอย่าง แล้วสิ่งที่เธอชอบที่สุดในตัวเขาก็คือ พสินนับเป็นคนเดียวที่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วเธอไม่เคยเห็นเขาหยิบมือถือขึ้นมาโดยไม่จำเป็นเลย ในโลกส่วนตัวแล้วเขาไม่มีความติดโซเชียลมีเดียเลยสักนิด ทั้งที่ตัวเองทำงานด้านไอทีและดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งแท้ๆ
“ขี้โม้…ห้าหกปีนี่มันแป๊บเดียวเองนะคะ พี่พีทจะทันมีอะไรได้ยังไง”
“ดูถูกชะมัด”
“จริงๆ แล้วคุณพริ้งบอกว่าณชาไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างทางด้านวัตถุ เพราะณชาเองมีทุกอย่างครบหมดแล้ว แค่เลือกคนดีๆ ที่รักเราแล้วก็พร้อมจะดูแลเราก็พอ…”
“นั่นมันพี่ในอีกห้าหกปีชัดๆ เลย ว่าไหม”
“แน่ใจเหรอว่าถึงตอนนั้นจะเลิกตะลอนๆ เที่ยวต่างประเทศแล้วคอยอยู่ดูแลใครสักคนได้อย่างเต็มที่จริงๆ”
“ก็…พี่คิดว่าพี่ทำได้นะ”
ณชาเบ้ปากด้วยสีหน้ายิ้มๆ อย่างหมั่นไส้แกมไม่เชื่อถือเลยสักนิด
“งั้นก็รอดูเอาละกัน อีกตั้งนาน แต่ก่อนอื่น…เราน่าจะลองมาเป็นแฟนกันดูก่อน”
“ขอผู้หญิงเป็นแฟนได้ไร้ความโรแมนติกมากเลย…” ณชาประชด “ไม่ผ่านค่ะ ไม่เอา!”
“ปฏิเสธได้ใจร้ายชะมัด”
“ก็ตัวเองไม่น่ารักเองนี่นา ถ้าอยากได้ณชาจริงๆ พี่พีทต้องน่ารักกว่านี้นะ ไม่งั้นใครจะไปยอมใจอ่อนง่ายๆ”
“ถ้าพี่น่ารักกว่านี้เธอจะฝันถึงพี่ทุกคืนไหมล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ เพราะตอนนี้ฝันถึงแต่เจสทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าหลับหรือตื่นก็เห็นแต่หน้าเขา ขนาดเมื่อคืน…เมาพับหลับไปยังฝันเห็นเขามาจุ๊บแล้วจุ๊บอีก แต่ดันสะดุ้งตื่นเพราะกำลังฝันหวานอยู่ดีๆ ก็ฝันว่าเชอรีลมากรี๊ดใส่หูดังมาก”
“เธอนี่…มโนเก่งสมกับแฮชแท็กที่ได้เลยนะ มิน่า…คุณพริ้งกับคุณโบว์ถึงปวดหัวจะเป็นจะตาย”
“นี่คงแอบไปเม้าท์กับคุณโบว์คุณพริ้งเรื่องณชามาสินะ”
อีกฝ่ายเงียบไม่ยอมตอบ ณชาเลยมองค้อนขวับหนึ่งแล้วหันไปยกมือโบกเรียกพนักงานให้มาหาที่โต๊ะ
“ขอโทษนะคะ ช่วยเอาครัวซองต์ไปอุ่นให้อีกทีได้ไหม มันเย็นจนแข็งไปแล้วอ่ะค่ะ”
“อะไร…เขาเพิ่งเอาไปอุ่นมาให้เมื่อกี้นี้ จะให้ไปอุ่นอีกแล้ว?” พสินโวยเบาๆ
“ก็มันเย็นชืดแล้วนี่นา ณชาชอบทานอุ่นๆ ร้อนๆ”
“งั้นทำไมไม่รีบกิน อุ่นแล้วเอามาวางทิ้งไว้จนมันชืดทำไม”
“จะให้กินรีบๆ ยัดๆ มันจะไปได้อารมณ์ยังไงล่ะคะ ก็ต้องค่อยๆ ละเลียด…” ณชาเถียงแล้วหันไปยิ้มหวานกับพนักงานที่ยืนรออยู่ “ช่วยเอาไปอุ่นให้ใหม่ด้วยนะคะ”
พนักงานรับคำแล้วยกจานใส่ครัวซองต์อัลมอนด์ของเธอเดินเข้าครัวไปอุ่นมาให้ หลังจากถามพสินว่าของเขาจะให้เอาไปอุ่นด้วยไหมแล้วชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธและตอบว่าไม่เป็นไร…