หลังจัดการห้องครัวเสร็จเรียบร้อยและล้างปากง่ายๆ แล้ว นางถึงได้เดินถือตะเกียงน้ำมันกลับไปยังห้องนอนของตนเอง ภายในห้องมีเตียงเล็กๆ หลังหนึ่ง ตู้ลิ้นชัก แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ชุดหนึ่ง นางตรวจดูซ้ำๆ ว่าประตูลงกลอนดีแน่แล้วจริงๆ นางก็เดินไปดูหน้าต่างที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่งซึ่งมีไม้แท่งหนึ่งดันเอาไว้ จวบจนแน่ใจว่าหน้าต่างไม่อาจเปิดออกกว้างกว่านี้ได้อีก นางจึงเดินไปยังเตียง
ฉู่ซินเถียนถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก นางก็เป่าไฟในตะเกียงน้ำมันให้ดับ หลังนอนบนเตียงแล้ว นางก็ตะแคงร่างไปทางหน้าต่างแล้วมองดวงดาวที่เห็นได้จากข้างนอก
จากอายุของเจ้าของร่างเดิม ตอนนี้นางก็มีอายุได้สิบสามปีกว่าๆ แล้ว จากใบหน้าของเด็กน้อยก็เริ่มจะเต็มอิ่มนวลเนียนขึ้น การเจริญเติบโตทางร่างกายก็ดีมากเช่นกัน บางทีอาจจะเป็นความงามที่มีมาตั้งแต่เกิด หรือไม่ก็อาจเกิดจากสามปีมานี้ที่นางข้ามมิติมา ด้วยของหวานที่ลองทำและกินเข้าไปก็มีอยู่ไม่น้อย
ฉู่ซินเถียนก้มหน้ามองหน้าอกที่แม้แต่ตอนนอนราบก็ยังมองเห็นส่วนที่นูนขึ้นมาได้ ก่อนจะทอดถอนใจ
คนที่อยู่บนเรือลำนี้มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ให้ความสนใจกับนาง ไม่ว่าจะแววตาหื่นกระหายคู่นั้นของหัวหน้าพ่อครัวที่คอยมองตามนางอยู่เสมอ หรือจะรองหัวหน้าพ่อครัวที่ชอบมาใกล้ชิดนางเป็นประจำ ทั้งยังมีหัวหน้าพ่อบ้านตู้ที่ทุกครั้งที่เจอนางมักจะมีท่าทีกลืนน้ำลายอย่างกระหายอยากตลอดเวลา ชวนให้คนเห็นแล้วอยากจะอาเจียนจริงๆ ด้วยอายุของเขาก็ปาเข้าไปเกือบหกสิบปี สามารถเป็นปู่ของนางได้อยู่แล้ว
คนโบราณอายุสิบสี่สิบห้าก็แต่งงานมีลูกกันแล้ว แม้ดวงวิญญาณของนางจะอายุยี่สิบกว่าปี ทว่ายามที่ถูกผู้คนจับจ้องเรือนร่างนุ่มนิ่มที่มีส่วนเว้าโค้งร่างนี้ตลอดเวลาก็ทำให้นางรู้สึกแย่มากจริงๆ
โชคดีที่เป็นสามแย่งหนึ่ง อย่างน้อยคนพวกนั้นก็ยังมีความหวาดเกรงกันเอง ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าลงมือหนัก แต่พวกเขาจะรักษาระยะห่างเช่นนี้ต่อไปได้อีกนานเพียงใดนั้น…นางไม่รู้เลยจริงๆ
การเดินเรืออันแสนน่าเบื่อใกล้จะมาถึงครึ่งเดือนแล้ว นางกลัวเหลือเกินว่าจะมีสักวันที่ใครบางคนทนไม่ไหวชิงลงมือจู่โจมนางเข้าจริงๆ ไม่ว่านางจะเป็นคนยอมรับโชคชะตามากเพียงใด แต่ก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญผวาทุกวันอยู่ดี
เมื่อหลับตาลงนอนหลับไปหนึ่งตื่น…วันใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
แสงสีทองของยามเช้าค่อยๆ เรื่อเรืองขึ้นบนผืนราตรีอันไร้ขอบเขตอย่างตามใจชอบ ฉู่ซินเถียนยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัวที่มีความร้อน กลิ่น รวมถึงเสียงอันคุ้นเคยสภาพราวกับเป็นฉากการแสดงคุกกิ้งนันทา* อันโด่งดังของเกาหลี เสียงถ้วยชามกระทบกัน เสียงตะโกนโหวกเหวก เสียงสับเนื้อ เสียงน้ำไหลซู่ซ่า นี่ก็คือชีวิตประจำวันบนเรือของทุกคนในครัว
แม้จะคุ้นชินกับการที่รอบด้านไม่มีอุปกรณ์ทำครัวอันแสนสะดวกสบายและประณีตงดงาม ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ล้วนมีแต่บุรุษสตรีที่แต่งกายด้วยชุดโบราณ แต่บางทีนางก็ยังมีความรู้สึกขัดแย้งเรื่องห้วงเวลาอยู่ นั่นอาจจะเป็นความคาดหวังอย่างหนึ่งของนาง คาดหวังว่าจะมีสักวันที่นางตื่นขึ้นมาแล้วได้กลับไปอยู่ในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ทั้งสถานที่กับบุคคลที่อยู่ตรงหน้านี้ก็เป็นแค่ละครในโทรทัศน์เท่านั้น…