เดิมทีก่อนที่นางจะข้ามมิติมาก็เคยเห็นคนหน้าตาดีมามากแล้ว โดยเฉพาะตอนที่อยู่โรงเรียนสอนทำอาหารฝรั่งเศส นางเคยเจอชายหนุ่มหน้าตาดีผมสีทองตาสีฟ้าเดินอยู่เต็มท้องถนนไปหมด ซึ่งพวกเขาทำให้นางหาได้หวั่นไหวไปกับชายหนุ่มโบราณตรงหน้านี้
เขาขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นผู้ใด อ้อ ฝูอ๋องใช่หรือไม่ คนผู้นั้นวันๆ เอาแต่โอบกอดสาวงาม ขลุกอยู่แต่ชั้นบน ไฉนเลยจะเปี่ยมเสน่ห์เหมือนข้า อีกทั้งข้ายังเดินไปมาทั่วเรือได้ด้วย”
“เจ้ามีเสน่ห์แล้วอย่างไร” นางถาม
“หมายความว่าอย่างไร” เขาฟังไม่เข้าใจอย่างหาได้ยากยิ่ง
“ผู้อื่นเขาไม่มีเสน่ห์สู้เจ้า แต่ยังคงเป็นท่านอ๋องผู้สูงส่ง แล้วเจ้าเล่า เป็นแค่บ่าวรับใช้ข้างกายท่านหมอไปตลอดชีวิตก็พอใจแล้วหรือ” จู่ๆ ฉู่ซินเถียนก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
เขาแค่นเสียงกล่าวล้อเล่น “รู้จักพอเพียงเป็นหนทางแห่งความสุข เจ้าไม่เคยได้ยินบ้างหรือ”
“อย่างเจ้าเรียกว่ารักสบายจนคร้านจะทำงานต่างหาก! วิชาแพทย์เรียนไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วแท้ๆ เหตุใดจึงไม่กราบอาจารย์แล้วตั้งใจศึกษาต่อไป บุรุษควรจะประสบความสำเร็จ เหตุใดเจ้าจึงพอใจกับชีวิตง่ายดายเพียงนี้” ฉู่ซินเถียนบ่นต่อว่า ท่าทางจริงจังเช่นนี้ก็เพราะมุ่งหวังให้อีกฝ่ายได้ดี
ฉู่ซินเถียนโมโหจนสองแก้มป่องขึ้นมาแล้ว ท่าทางน่ารักเช่นนี้ของนางทำให้เขายิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น “บิดามารดาข้ายังไม่ว่าอะไรเลย เจ้าจะมาสนใจทำไม หรือเจ้าอยากจะเป็นภรรยาของข้า?”
เขายิ้มตาหยีพลางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปอยู่ข้างกายนาง ขยับหมุนทั้งคนและเก้าอี้ให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงโน้มตัวลงกักตัวนางเอาไว้ระหว่างเขากับเก้าอี้
ฉู่ซินเถียนเงยหน้ามองบุรุษที่โน้มตัวลงมา นางพลันยื่นมือออกไปดันหน้าอกเขาทันทีโดยไม่ต้องคิด “ทั้งๆ ที่เจ้าสามารถพูดคุยกับข้าดีๆ ได้ แต่เหตุใดจึงต้องทำให้ตัวเจ้าดูกะล่อนปลิ้นปล้อนเช่นนี้ด้วย ประเดี๋ยวข้าก็รังเกียจเจ้าหรอก”
ดวงตามองสบกัน นัยน์ตาของนางใสกระจ่างดุจสายน้ำ ส่วนเขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาที่มีอารมณ์อันสลับซับซ้อน ผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงยิ้มออกมาแล้วเหยียดกายขึ้น
“เด็กโง่ อย่างข้าเรียกใกล้ชิดสนิทสนมหรอก” ถูกนางต่อว่าว่ากะล่อนปลิ้นปล้อนเช่นนี้ เขากลับไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย กลับกันยังนั่งลงบนโต๊ะอย่างได้ใจยิ่ง ทั้งมองมาที่นางจากมุมสูง
“เจ้าจะอธิบายเช่นนี้ก็ได้ แต่ข้าอยากจะถามเจ้าอย่างจริงจังสักคำ เป็นบ่าวรับใช้อยู่ข้างหลังผู้อื่นไปตลอดชีวิตมันดีนักหรือ เจ้าคิดให้ดีๆ หากเป็นหมอก็สามารถช่วยเหลือผู้คน สามารถช่วยเหลือคนไร้อำนาจและยากจน ทั้งเจ้าเองยังสามารถเป็นนายของตนเองได้ นี่ดีเพียงใดกัน ทำไมเจ้าจะต้องทำให้ชีวิตของตัวเจ้าเองต้องเสียเปล่าเช่นนี้ด้วย” นางทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดจริงๆ
เขากอดแขนพลางเลิกคิ้วขึ้นสูง กวาดตามองนางขึ้นๆ ลงๆ หนหนึ่ง ก่อนส่ายศีรษะ “เจ้าพูดจาโตกว่าอายุเกินไปหรือไม่ ยังเป็นแค่เด็กน้อยอยู่แท้ๆ”
“บุรุษก็เหมือนสตรี ควรจะจัดการชีวิตตนเองได้จึงจะถูก” จู่ๆ นางก็รู้สึกยอมไม่ได้ขึ้นมา “ทั้งๆ ที่เจ้ามีโอกาสมากกว่าข้าแท้ๆ แต่กลับไม่รู้จักทำให้ชีวิตก้าวหน้าเช่นนี้เสียได้ ช่างน่าชังเกินไปแล้วจริงๆ!”