สวีซั่นเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วจริงๆ มีบางคนรั้งอยู่บนเรือ มีบางคนติดตามเว่ยหลันโจวเดินทางไปยังจวนของเขา และเห็นได้ชัดว่าเขาเองก็กระจ่างชัดถึงความชอบของเว่ยหลันโจวเป็นอย่างดี เพราะแค่รถม้าทองคำระยิบระยับที่มารับคันนั้นก็เกือบจะบาดตาฉู่ซินเถียนจนบอดอยู่แล้ว
ฝูงชนที่มุงดูอยู่รอบๆ ยังไม่ลดน้อยลงไป เห็นได้ชัดว่าบรรดาชาวบ้านเหล่านี้ต่างรู้ว่าเจ้าของเรือลำนี้ก็คือฝูอ๋องผู้มีชื่อเสียงเลวร้าย ดังนั้นตอนที่พวกเขาปรากฏตัวบนดาดฟ้า รอบด้านก็มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นไม่น้อยแล้ว
“นั่นคือฝูอ๋อง สวรรค์ ดูดีประดุจเทพเจ้าเลยเชียว”
“เขาดูดีมากจริงๆ”
“แม้แต่ท่านเสนาบดีเฉวียนยังตายไปแล้ว เขารอดมาได้เช่นนี้ ช่างโชคดีจริงๆ แต่เรื่องที่เขาเป็นผู้นำทูตไปแคว้นหนีตันจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่ขาดสาย เว่ยหลันโจวเอาแต่ยิ้มแย้มเดินนำลงจากเรือ มุ่งตรงไปยังรถม้า สวีซั่นกับคนอื่นๆ ยังคงติดตามมาข้างหลัง
หลังเว่ยหลันโจวขึ้นรถม้าแล้ว สวีซั่นเองก็ทำท่าจะตามขึ้นไปด้วย แต่กลับเห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วสูง พร้อมโบกไม้โบกมือ สวีซั่นจำต้องก้าวถอยหลังไปอย่างกระอักกระอ่วน ม่านรถม้าถูกปล่อยลง แต่นึกไม่ถึงว่าเว่ยหลันโจวจะเลิกม่านรถม้าขึ้นอีกครั้ง แล้วชี้ไปยังฉู่ซินเถียน “ขึ้นมา”
ฉู่ซินเถียนอึ้งไป ก่อนเห็นเขากวักมือมาที่นางอีกครั้ง
เอาเถอะ มีเจ้านายเช่นนี้นางก็พลอยได้รับสิ่งพิเศษตามไปด้วย แม้แต่สาวใช้ข้างกายเว่ยหลันโจวยังจะใหญ่กว่าขุนนางท้องถิ่นเสียอีก นางคารวะให้สวีซั่นอย่างลำบากใจ แล้วก้าวขึ้นรถม้าไปอย่างรวดเร็ว
สวีซั่นได้แต่ขึ้นหลังม้าไปอย่างจนใจ ท่านอ๋องเจ้าสำราญผู้นี้นี่ เขานึกดูถูกเว่ยหลันโจวในใจ เป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ เขาจะไม่แสดงท่าทีนอบน้อมก็คงทำไม่ได้
เมื่อสวีซั่นโบกมือ กระทุ้งม้าเริ่มออกเดินทาง รถม้าเองก็ขยับเคลื่อนตามไปด้วย ส่วนเหลียนจื่อกับเด็กรับใช้คนอื่นๆ รวมไปถึงองครักษ์ผู้ติดตามต่างก็เดินเท้าตามไปอย่างตั้งใจยิ่ง
ภายในรถม้า เว่ยหลันโจวนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามฉู่ซินเถียน ภายในรถกว้างขวาง ภาพปักลายอันประณีตที่แขวนอยู่บนผนังแสดงให้เห็นถึงความหรูหรา บนที่นั่งซึ่งไม่แข็งเกินยังวางเบาะรองเอาไว้อยู่หลายอัน สามารถเอาไปวางรองข้างหลังได้ด้วย เว่ยหลันโจววางรองหลังไว้หลายชั้น แต่เขาไม่ยอมนั่งเฉยๆ กลับเอาแต่มองมาที่นางด้วยแววตาชั่วร้าย มุมปากหยักยกขึ้น
ฉู่ซินเถียนนั่งตัวตรงอย่างเรียบร้อย ทั้งจงใจก้มหน้าหลบเลี่ยงสายตาของเขา
ผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าที่ยังคงเงียบสงัดนี้ นางก็ลอบเงยหน้าขึ้น ถึงได้พบว่าเว่ยหลันโจวกำลังหลับตาลงพักผ่อน ภายใต้แพขนตาเรียงเป็นระเบียบยิ่งทำให้เขามองดูเหนื่อยล้ามากขึ้น
ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยมากแล้วจริงๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาเคยพูดว่าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว…ฉู่ซินเถียนมองคนผู้นี้ไม่กระจ่างจริงๆ
รถม้าเคลื่อนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดก็หยุดลง ในชั่วขณะที่รถหยุดลง เว่ยหลันโจวก็ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่มองเห็นคือฉู่ซินเถียนเอนพิงหน้าต่างคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“ท่านอ๋อง ถึงจวนแล้วพ่ะย่ะค่ะ เชิญลงจากรถเถิด”
เสียงของสวีซั่นดังขึ้น ขณะเดียวกันม่านรถม้าก็ถูกคนเลิกขึ้น