“สมัยมีชีวิตอยู่หมอหลวงหูศึกษาค้นคว้าวิชาแพทย์กับข้าบ่อยๆ วิชาฝังเข็มของเขาอาจเป็นประโยชน์ต่อคุณชายรอง น่าเสียดาย เนื่องจากตอนอดีตฮ่องเต้ประชวรและสวรรคตเป็นเขาที่อยู่เวรพอดี จึงถูกใส่ร้ายว่าวินิจฉัยผิดพลาดและถูกประหารชีวิตทั้งสกุล วิชาแพทย์อันล้ำเลิศจึงไม่ถูกสืบทอดต่อมา ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าบุตรชายคนเล็กของหมอหลวงหูยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์จากบิดา เพียงแต่หนึ่งไม่รู้ว่าข่าวลือเป็นจริงหรือเท็จ สองต่อให้ข่าวลือเป็นจริง เขายังมีชีวิตอยู่ก็คงปกปิดชื่อแซ่เอาไว้ ในเวลาสั้นๆ จะไปตามหาตัวได้จากที่ใด”
“ไม่มีหนทางอื่นแล้วหรือ”
“ใช่แล้ว นายท่านใหญ่ลองไปขอร้องร้านยาอี๋ชุนดูสิ ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนที่รัชทายาทป่วย เซียนปรุงยาผู้นั้นรักษาโรคให้รัชทายาท เคยใช้ทักษะการฝังเข็มปกป้องเส้นลมปราณหัวใจของรัชทายาทมาแล้ว เซียนปรุงยามีวิชาแพทย์อันน่าอัศจรรย์ ไม่แน่อาจช่วยชีวิตคุณชายรองได้”
“ร้านยาอี๋ชุน?!” นายท่านใหญ่ฟังคำหมอหลวงหลี่แล้วทวนคำพูดรอบหนึ่ง เขาอดส่ายหน้ายิ้มขื่นไม่ได้ “ไม่ปิดบังท่านหมอ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดร้านยาอี๋ชุนถึงได้เป็นศัตรูกับพวกเราเป็นพิเศษ ได้ยินว่าหลงจู๊ร้านยาอี๋ชุนออกตรวจโรคบ่อยๆ ก่อนที่หมอหลวงจะมา มารดาได้ส่งพ่อบ้านไปเชิญหลงจู๊ที่ร้านยาอี๋ชุนแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอร้านยาอี๋ชุนได้ยินว่าเป็นคนสกุลเซียว ยังไม่ทันพูดอะไรก็ไล่เขาออกมาทันที”
หมอหลวงหลี่ฟังแล้วอึ้งไปเช่นกัน เขาหรือจะรู้ว่าหลี่ตู้พ่อลูกอคติกับเซียวจวิ้นอยู่แล้ว เพราะคำพูดไกล่เกลี่ยของรัชทายาทเมื่อหลายวันก่อน สองฝ่ายจึงดูใกล้ชิดกันมากขึ้น ทว่าวันก่อนจือซย่าส่งข่าวมาบอกว่าสะใภ้รองถูกกักตัวอยู่ในอารามชิงซิน นายหญิงใหญ่จะปองร้ายสะใภ้รอง บอกว่าสะใภ้รองให้พวกเขาเตรียมพร้อมให้ดี หากจำเป็นจริงๆ จะให้พวกเขาไปเปิดเผยฐานะที่คฤหาสน์สกุลเซียวและรับตัวคนออกมา
จือชิวรู้สถานการณ์ของสะใภ้รองแล้วก็เดือดดาลทันที โวยวายจะพาคนไปถล่มอารามชิงซินให้ราบเป็นหน้ากลอง และจะไปอาละวาดที่คฤหาสน์สกุลเซียว รับตัวสะใภ้รองออกมา สุดท้ายกลับถูกโอวหยางตี๋กับหลี่ตู้ใช้กำลังห้ามเอาไว้ บอกว่าหากสามารถเปิดเผยความจริงกับสกุลเซียวได้ พวกเขาคงทำไปนานแล้ว ไยต้องรอจนถึงตอนนี้ เหตุใดจึงปล่อยให้สะใภ้รองลำบากถึงเพียงนั้นด้วย หลี่จั้นที่ปรึกษาของรัชทายาทตั้งใจมาแจกแจงสถานการณ์ตอนนี้ให้พวกเขาฟังว่าหมู่นี้วังหลวงมีข่าวไทเฮาทรงพระประชวรแพร่ออกมา เยียนอ๋องเกรงว่าไทเฮาจะอยู่ได้อีกไม่นาน กำลังเร่งเตรียมการจะลงมือก่อนเวลา ตอนนี้การชิงตำแหน่งรัชทายาทกำลังดุเดือด สถานการณ์ตึงเครียดพร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้หลี่จั้นจึงพยายามพูดไกล่เกลี่ยให้พวกเขาปรองดองกับสกุลเซียวเอาไว้
ปรองดองกับสกุลเซียวเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่เวลานี้การที่ร้านยาอี๋ชุนกับสกุลเซียวซึ่งเป็นฝ่ายรัชทายาทเหมือนกันเกิดความขัดแย้งกันขึ้น ย่อมเป็นการทำให้ตนเองเจ็บตัวและทำให้ศัตรูได้ใจ ไม่แน่ถึงตอนสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายอาจพ่ายแพ้และถูกเยียนอ๋องกำจัดจนสิ้นซากก็เป็นได้
ฟังคำพูดโน้มน้าวของพี่ชายกับโอวหยางตี๋แล้ว ในที่สุดจือชิวก็สงบลง ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อสกุลเซียว พอเห็นคนสกุลเซียวมาขอร้องพวกนาง ไหนเลยจะปล่อยให้พวกเขาได้สมใจ สกุลเซียวตัดสินใจหย่าสะใภ้รองแล้ว คุณชายรองจะเป็นหรือตายไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนางอีก นางแทบจะตีหัวพวกเขาแล้วโยนออกจากร้านเสียด้วยซ้ำ
กล่าวด้วยคำพูดของจือชิว ที่ไม่ได้ตีหัวพวกเขาเพราะเห็นแก่หน้ารัชทายาท
หมอหลวงหลี่ไม่รู้ว่าร้านยาอี๋ชุนกับสกุลเซียวมีความแค้นใหญ่หลวงต่อกันเช่นนี้ ฟังคำของนายท่านใหญ่แล้วจึงส่ายหน้าอย่างเหลือเชื่อ คิดถึงสถานการณ์ของรัชทายาทแล้ว เวลานี้ร้านยาอี๋ชุนกับสกุลเซียวอย่าได้เกิดความขัดแย้งขึ้นเป็นอันขาด ดังนั้นจึงเอ่ยว่า “สองปีมานี้ข้าติดตามข้างกายรัชทายาท เคยพบเซียนปรุงยาอยู่หลายหน เซียนปรุงยาผู้นี้เป็นบุคคลสูงส่งมีคุณธรรม จะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร จะต้องเป็นพวกข้ารับใช้เกิดความเข้าใจผิดเป็นแน่ เซียนปรุงยาเป็นน้องชายบุญธรรมของรัชทายาท คุณชายรองก็เป็นพระสหายของรัชทายาท เรื่องนี้นายท่านใหญ่ควรคลี่คลายดีกว่าผูกใจเจ็บ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้พวกเรามีเรื่องจะขอร้องผู้อื่น”
“ท่านหมอหลวงกล่าวถูกต้องยิ่งนัก เพียงแต่ร้านยาอี๋ชุนไม่ยอมพบคนสกุลเซียวของข้า จะมีหนทางใดเล่า”
หมอหลวงหลี่ขบคิดแล้วเอ่ยว่า “นายท่านใหญ่คงไม่รู้ว่าร้านยาอี๋ชุนไม่เคยคบหาผู้สูงศักดิ์ แต่ไรมาขายแต่ยาเท่านั้น ไม่ช่วยชีวิตคน ก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเฉิงของพรรคไผ่เขียวเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ เฉิงย่วนบุตรสาวของเขาหาหมอมากมายมารักษาแต่ไม่เห็นผล จึงพาบิดามาที่ร้านยาอี๋ชุนสาขาใหญ่ คุกเข่าอยู่หน้าประตูห้าวัน ทำให้เซียนปรุงยาซาบซึ้งใจ จนยื่นมือช่วยเหลือ”
“หรือว่าเพื่อชีวิตของจวิ้นเอ๋อร์ ข้าต้องไปคุกเข่าด้วยตนเอง” นายท่านใหญ่ฟังแล้วพึมพำ