บทที่ 2
เซียวจวิ้นเห็นหลี่เมิ่งซีลุกขึ้นแล้วจึงหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก จือชิวเห็นเช่นนั้นก็รีบกระตุกแขนเสื้อหลี่เมิ่งซีและส่งสายตาให้นาง หลี่เมิ่งซีถึงนึกขึ้นได้ว่าจือชิว จือชุนอยากเสี่ยงเซียมซี เห็นเซียวจวิ้นใกล้จะเดินออกไปแล้วนางจึงรีบร้องเรียก “คุณชายรอง!”
เซียวจวิ้นชะงักเท้า หันกลับมามองนาง
เห็นเซียวจวิ้นหันกลับมา หลี่เมิ่งซีจึงเกิดความลังเล ทั้งสองมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน คุณชายรองผู้นี้กลับมีท่าทีอึดอัดขัดแย้งอย่างมาก ตลอดทางทำตัวเหมือนคนใบ้ นางไม่อยากสนใจเขาเลยจริงๆ แต่เห็นสีหน้าคาดหวังของจือชิวแล้วจึงกระแอมเสียงค่อยก่อนพูด “คุณชายรอง คือว่า…มาถึงที่นี่แล้ว ภรรยาผู้น้อยอยากเสี่ยงเซียมซีดูสักหน่อยเจ้าค่ะ”
สองสาวใช้มองเซียวจวิ้นอย่างประหม่า กลัวว่าภูเขาน้ำแข็งลูกนี้จะปฏิเสธ แต่เห็นเขาเงียบไปเพียงครู่เดียวก็หมุนตัวเดินกลับมา แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่เข้าใจได้ว่าเขาตกลงแล้ว สีหน้าของทั้งสองฉายความยินดีทันที หากมิได้อยู่ในพระอุโบสถที่บรรยากาศเคร่งขรึม พวกนางจะต้องกระโดดตัวลอยแน่
ประคองหลี่เมิ่งซีไปตรงบริเวณเสี่ยงเซียมซีแล้ว ทว่าเห็นหลี่เมิ่งซีไม่ยอมเสี่ยงเซียมซีเสียที บ่ายเบี่ยงอยู่นาน จือชิวจึงก้าวออกไปรับกระบอกเซียมซีจากสามเณรน้อย ใช้สองมือประคองไว้อย่างศรัทธา อธิษฐานในใจหลายคำและเขย่าเบาๆ ไม่นานไม้เซียมซีก็ร่วงลงมาอันหนึ่ง สามเณรน้อยหยิบขึ้นมาแล้วยื่นให้ด้วยสองมือ หลี่เมิ่งซียื่นมือไปรับ จือชิวชะโงกหน้าเข้ามาอย่างตื่นเต้น บนเซียมซีเขียนว่าอะไรบ้างนะ
“มีเรื่องดีมาเยือนถึงหน้าบ้าน สั่งสมกุศลย่อมพบเจอเรื่องมงคล การแต่งงานและเรื่องอื่นล้วนราบรื่น ป่วยไข้ได้ยาดีกลับแข็งแรง” หลี่เมิ่งซีถือเซียมซีและอ่านเบาๆ
“เซียมซีนี้ตีความอย่างไรหรือเจ้าคะ” จือชิวมองหลี่เมิ่งซี ก่อนจะถามอย่างไม่เข้าใจ
“ยังต้องตีความอีกหรือ ดูจากตัวหนังสือก็รู้แล้ว ความหมายคือราบรื่นทุกสิ่ง” เห็นจือชิวมีสีหน้าร้อนใจ หลี่เมิ่งซีจึงพูดส่งเดช
“แต่บ่าวไม่ได้ป่วยนี่เจ้าคะ ไฉนเซียมซีจึงบอกว่าป่วยไข้ได้ยาดีกลับแข็งแรง เซียมซีนี้เหมาะกับสะใภ้รองมากกว่า”
จะบ้าตาย เซียมซีมีเหมาะกับใครด้วยหรือ เจ้าคิดว่านี่เป็นการเลือกคู่หรือไร! หลี่เมิ่งซีค้อนจือชิวทีหนึ่ง จือชิวปิดปากอย่างรู้กาลเทศะ
“อมิตาภพุทธ สีกา หากอยากตีความเซียมซีสามารถออกจากประตูนี้ ในวิหารข้างจะมีคนตีความเซียมซีให้” สามเณรน้อยชี้ประตูที่เชื่อมไปยังวิหารข้างพลางพูด
“สะใภ้รองกับจือชุนรออยู่ตรงนี้ก่อน บ่าวไปครู่เดียวก็มาเจ้าค่ะ” จือชิวฟังแล้วก้าวเท้าเดินออกไป แต่ถูกจือชุนคว้าตัวไว้ “เดี๋ยวก่อน เสี่ยงเซียมซีเสร็จพวกเราค่อยไปด้วยกัน”
จือชิวเหลือบมองหลี่เมิ่งซี รู้สึกว่าตนเองร้อนใจไปสักหน่อย นางชะงักทันทีแล้วเดินกลับมา
จือชุนรับกระบอกเซียมซีมาและเขย่าอยู่นาน ไม้เซียมซีหล่นลงมาอันหนึ่ง ไม่รอให้สามเณรน้อยก้าวเข้ามา จือชิวก็แย่งไปก่อนแล้วอ่านออกมา “ยามว่างไร้กังวลนั่งอยู่เฉย กินอิ่มดื่มชาเอนกายพัก มิต้องเหน็ดเหนื่อยกายหรือใจ ไร้ทุกข์ภัยไร้หายนะแน่นอน”
“น่าจะหมายถึงชีวิตราบรื่นเช่นกัน เห็นทีพวกเจ้าสองคนคงจะโชคดีมาก ไปเถอะ ไปฟังว่าต้าซือว่าอย่างไรบ้าง” หลี่เมิ่งซีฟังจือชิวอ่านจบก็ตีความหมายตามตัวหนังสือทันที
สองสาวใช้ฟังแล้วหน้าแดงเรื่อ ดีอกดีใจยิ่งนัก ประคองหลี่เมิ่งซีจะเดินออกไป จือชิวพลันชะงักเท้า ก่อนจะเอ่ยปากโน้มน้าว “สะใภ้รองเสี่ยงเซียมซีสักอันเถอะเจ้าค่ะ ไหนๆ ก็อุตส่าห์มาแล้ว ถือเสียว่าเสี่ยงทายเล่นๆ” จือชิวพูดพลางรับกระบอกเซียมซีมาจากสามเณรน้อย ยื่นให้หลี่เมิ่งซีด้วยสองมือ
ให้ตายหลี่เมิ่งซีก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ นางกำลังจะปฏิเสธ หางตาก็เหลือบไปเห็นเซียวจวิ้นยืนอยู่ข้างๆ เขากำลังมองนางอย่างครุ่นคิด คิดถึงคำพูดของตนเองเมื่อครู่นี้ที่บอกว่าจะเสี่ยงเซียมซี หากยามนี้จากไปโดยไม่เสี่ยงเซียมซีคงดูไม่ดีนัก นางจึงยื่นมือไปรับกระบอกเซียมซี เขย่าจนไม้เซียมซีร่วงลงมาอันหนึ่ง ถูกจือชิวเก็บขึ้นมาแล้วอ่าน “หยกมุกล้ำค่านั้นอยู่กับตัว มัวไปแสวงหาจากที่อื่น เหมือนคนถือไฟตามหาไฟ มิสู้หยุดไว้ไม่เหนื่อยเปล่า”
หลี่เมิ่งซีฟังแล้วขมวดคิ้วมุ่น นี่คืออะไรกับอะไรกันแน่ แล้วอะไรคือมิสู้หยุดไว้ไม่เหนื่อยเปล่า!