ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 3 ตอนที่ 6
บทที่ 6
สาวใช้ทั้งสี่ของหลี่เมิ่งซีกำลังเลือกน้ำหอมที่นางปรุงขึ้นใหม่ พวกนางถือขวดใบเล็กสูดดมไปมา จือชุนดมพลางพูด “สะใภ้รองเก่งจริงๆ คิดได้อย่างไรว่าต้องนำเครื่องหอมไปละลายน้ำแล้วปรุงเป็นน้ำหอม เช่นนี้เวลาใช้ก็สะดวกขึ้นมาก เวลาซักเสื้อผ้าแล้วไม่ต้องนำไปรมกำยาน สะดวกจริงๆ เจ้าค่ะ”
จือซย่าพูดต่อ “ขวดนี้กลิ่นหอมอ่อนจาง คล้ายมีคล้ายไม่มี ดมแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายใจ ทำจากเครื่องหอมสงบใจใช่หรือไม่เจ้าคะ แต่ดมแล้วก็ไม่เหมือน บ่าวชอบมาก ขวดนี้มอบให้บ่าวเถอะเจ้าค่ะ”
หลี่เมิ่งซีฟังแล้วอธิบายง่ายๆ “พวกนี้ล้วนปรุงจากดอกไม้สดกับสมุนไพรพิเศษ ใช้ดอกไม้ใบหญ้าที่แตกต่างกันปรุงกลิ่นที่ไม่เหมือนกันออกมา ขวดของจือซย่าใช้หญ้าซวินอีกับมะลิ หญ้าซวินอีมีสรรพคุณทำให้จิตใจสงบ เหมาะสำหรับพรมในม่านมุ้งตอนกลางคืนมากที่สุด ขวดของจือชิวใช้กุหลาบเป็นหลัก ล้วนเป็นของที่ข้าทำขึ้นเล่นๆ พวกเจ้าเลือกที่ชอบไปเถอะ จำไว้ว่าในเรือนของเราไม่มีของสิ่งนี้ ระวังอย่าให้คนอื่นรู้เข้าแล้วถามหาที่มาเอาได้”
“บ่าวขอบคุณสะใภ้รอง” สาวใช้ทั้งสี่เลือกพลางส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างดีอกดีใจ ชั่วขณะหนึ่งที่รู้สึกชอบไปหมดทุกขวด แย่งกันไปแย่งกันมาจนโต้เถียงกัน
“สะใภ้รอง น้ำหอมนี้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังใช้สะดวก พวกขุนนางและชนชั้นสูง คุณชายคุณหนูทั้งหลายต้องชอบแน่ สะใภ้รองลองเอาไปขายที่ร้านยาอี๋ชุนสิเจ้าคะ” ระหว่างเลือก ตาจือชิวก็เป็นประกายเหมือนเห็นเงินกองใหญ่หลั่งไหลเข้ามา นางรีบบอกคัมภีร์การค้ากับหลี่เมิ่งซีทันที
“ใช่เจ้าค่ะ บ่าวเห็นด้วยกับจือชิว” จือซย่า จือตงคล้อยตาม
“ข้าไม่ชอบกลิ่นกำยานเพราะกลิ่นเข้มข้นเกินไป ทั้งยังเห็นว่าพวกเจ้าเก็บดอกไม้มามากจึงลองปรุงไว้ใช้เอง เดิมทียาที่ร้านยาอี๋ชุนก็ทำกำไรสูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขายของพวกนี้หรอก ทำของออกมาให้คนอยากซื้อใช่ว่าดีเสมอไป ขอมีกำไรแค่พอใช้ก็พอแล้ว”
หลี่เมิ่งซีพูดจบ เห็นพวกนางเงียบไปจึงถามว่า “จือชิว เรื่องร้านสาขาจัดการไปถึงไหนแล้ว”
พอพูดถึงร้านยา จือชิวก็กระตือรือร้น “ดูความจำของบ่าวสิเจ้าคะ สองวันนี้มัวแต่เรียนรู้ธรรมเนียมมารยาท กระทั่งลืมเรื่องสำคัญไปเสียได้ วันก่อนพี่ชายของบ่าวให้คนส่งจดหมายมาบอกว่าหาได้ที่หนึ่งในเมืองจิ้นหยาง เดิมทีเคยเป็นร้านขายอาหาร กิจการไม่ดีจึงต้องการขายกิจการ เห็นพี่ชายบอกว่าทำเลตรงนั้นดีมาก ใหญ่เป็นสองเท่าของร้านยาอี๋ชุน พี่ชายถูกใจตั้งแต่เห็นแวบแรก อยากซื้อไว้จึงร้อนใจให้บ่าวมาขอความเห็นจากสะใภ้รอง วันนั้นประจวบเหมาะกับที่ท่านไปเรือนโซ่วสี่ กลับมาแล้วบ่าวก็ต้องไปเรียนธรรมเนียมมารยาทจึงลืมเลือนเรื่องนี้ไป”
“เรื่องนี้ให้หลี่ตู้มีอำนาจจัดการทั้งหมด เพียงแต่กำชับเขาให้รอบคอบสักหน่อย เรื่องทุกอย่างอย่าร้อนใจเกินไป แล้วเรื่องบ้านพักไปถึงไหนแล้ว”
“เรื่องบ้านพักยังไม่ได้ข้อสรุปเจ้าค่ะ พี่ชายบอกว่าไม่ต้องร้อนใจ ที่พักของท่านต้องเลือกให้เหมาะสมหน่อย ใช่แล้วสะใภ้รอง วันก่อนพี่ชายไปวัดจิ้งอวิ๋น คิดจะซื้อหยกประดับลายเมฆและฝูชิ้นนั้นกลับมา คิดไม่ถึงว่าตอนพี่ชายไปถึง ร้านค้าแห่งนั้นจะถูกปิดไปแล้ว”
“ปิดแล้ว? รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร”
“พี่ชายของบ่าวลองสืบดู เห็นว่าหลงจู๊ล่วงเกินคนเข้า จึงถูกบังคับซื้อร้านไป ตอนนี้ปิดร้านไว้ชั่วคราวรอการตรวจนับสินค้าเจ้าค่ะ”
จือชุนได้ยินแล้วดวงตาเป็นประกาย นางถามแทรกขึ้นมา “คุณชายรองจัดการพวกเขา ช่วยระบายโทสะแทนสะใภ้รองใช่หรือไม่”
จือชิวส่ายหน้า มองหลี่เมิ่งซีแล้วพูด “เดิมทีบ่าวก็คิดว่าเป็นฝีมือของคุณชายรอง ซาบซึ้งใจอยู่นาน ภายหลังพี่ชายสืบดู ก่อนจะบอกว่าผู้ซื้อมีแซ่หลี่ ไม่ใช่สกุลเซียวเจ้าค่ะ”
“แล้วพี่ชายเจ้าไม่ได้ถามผู้ซื้อหรือว่าหยกประดับชิ้นนั้นกับกำไลหยกเหลืองยังอยู่หรือไม่ พวกเราซื้อกับเขาก็เหมือนกัน” จือชุนถามอย่างไม่ถอดใจ
“ภายหลังพี่ชายไปอีกครั้ง ขอให้คนตรวจสอบดู แต่กลับไม่มีของสองสิ่งที่พวกเราพูดถึงเลย”
ฟังคำพูดจือชิวแล้ว หลี่เมิ่งซีก็ผิดหวังไปครู่หนึ่ง นางนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น
จือชิวเห็นแล้วไม่รู้จะปลอบโยนอย่างไร พลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงพูดกับหลี่เมิ่งซีว่า “สะใภ้รองยังจำได้หรือไม่ว่าครึ่งเดือนก่อนท่านช่วยชีวิตคุณชายคนหนึ่งไว้”
หลี่เมิ่งซีฟังแล้วจึงถามอย่างสงสัย “คุณชายอะไร จู่ๆ เจ้าพูดขึ้นมาเช่นนี้ ข้าคิดไม่ออกจริงๆ”
“สะใภ้รองงานเยอะจนหลงลืม ครั้งก่อนที่พวกเราแอบออกจากคฤหาสน์ไปตรวจดูกิจการ เจอคุณชายคนหนึ่งเป็นลมอยู่หน้าร้านยา พี่ชายกับท่านพ่อต่างตรวจแล้วก็ไม่พบว่าเป็นโรคอะไร ขณะทำอะไรไม่ถูก บังเอิญเจอท่านเข้า ท่านก็บอกว่าถูกพิษและถอนพิษให้ ช่วยชีวิตเขาไว้”
“พอเจ้าพูดข้าก็นึกขึ้นได้ คุณชายผู้นั้นถูกพิษเฮ่อหลงเหยียน เป็นพิษประหลาดชนิดหนึ่ง คนทั่วไปถอนพิษไม่ได้จริงๆ โชคดีที่พบข้าเข้า นับว่าเขาดวงแข็ง เจ้าบอกว่าเขาฟื้นขึ้นมาก็จากไปเลยมิใช่หรือ ไฉนจึงพูดถึงเขาขึ้นมาเล่า”
“หลายวันก่อนคุณชายผู้นั้นกลับมา พี่ชายโกรธที่เขาจากไปโดยไม่อำลาจึงไล่เขาออกไปจากร้าน ทว่าเขากลับดื้อดึงอยู่หน้าร้านยาอี๋ชุนไม่ยอมจากไป บอกว่าท่านช่วยชีวิตเขาเอาไว้ นับแต่นี้ไปชีวิตของเขาเป็นของท่านแล้ว จะพบท่านให้ได้ พี่ชายเกรงว่าจะกระทบต่อการค้าจึงพาเขาเข้าไปด้านหลังร้าน สอบถามดูจึงรู้ว่าคุณชายผู้นี้แซ่โอวหยาง ชื่อตัวเดียวว่าตี๋ เป็นชาวยุทธ์คนหนึ่ง ว่ากันว่าเป็นจอมยุทธ์กระบี่ เนื่องจากถูกศัตรูไล่ฆ่าและถูกพิษมา เขาจึงหมดสติอยู่ที่หน้าร้านยา จับพลัดจับผลูได้สะใภ้รองช่วยถอนพิษให้ พอเขาฟื้นขึ้นมา เพื่อหลบเลี่ยงศัตรูจึงจากไปโดยไม่อำลา หลายวันก่อนเขาสังหารศัตรูได้แล้วจึงกลับมาหาท่านเพื่อทดแทนบุญคุณ ตอนนี้เขาเป็นผู้คุ้มกันให้ร้านยาอยู่เจ้าค่ะ”
“หึๆ ฟังดูก็เหมือนนิทาน ในเมื่อมีรัชทายาทคุ้มกันอยู่ ยังต้องใช้เขาด้วยหรือ” หลี่เมิ่งซีพูดยิ้มๆ ในหัวพลันเกิดความคิด ราวคว้าจับอะไรได้ นางหุบปากลงทันที จอมยุทธ์โอวหยางที่โผล่ออกมากะทันหันผู้นี้ทำให้นางคิดถึงนิยายกำลังภายในที่เคยอ่านเมื่อชาติที่แล้ว พรรคกระยาจกเอย พรรคเขียวเอย ค่ายนั้นพรรคนี้ แน่นอนว่านางก่อตั้งพรรคขึ้นมาไม่ได้อยู่แล้ว แต่วันหน้าเมื่อกิจการใหญ่โตขึ้น นางต้องเปิดร้านสาขาอีก ย่อมมิอาจพึ่งพารัชทายาทเสียทุกอย่างได้ ยังไม่พูดถึงว่าต้องพึ่งตนเองเลย ทว่าแต่โบราณมาเชื้อพระวงศ์เป็นพวกที่พึ่งไม่ได้มากที่สุด