บทที่ 4
“อะไรกัน พี่เซียวไม่อยากเดินทางลงใต้กับข้าหรือ” รัชทายาทใบหน้าเขียวคล้ำ ไม่รอให้นายท่านใหญ่พูดอะไรก็เอ่ยปากคาดคั้นก่อนแล้ว
เจ้าลูกทรพี คิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้าขัดคำสั่งของบิดามารดาท่านย่า! ถึงอย่างไรก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง นายท่านใหญ่ย่อมมิอาจทำอะไรเขาได้ แต่ล่วงเกินรัชทายาทเช่นนี้ ดีไม่ดีอาจต้องตายทั้งตระกูล! เห็นรัชทายาทสีหน้าเปลี่ยนไป นายท่านใหญ่ก็ตัวสั่นคุกเข่าลงทันที โขกศีรษะเอ่ยว่า “รัชทายาทโปรดบรรเทาโทสะด้วย เรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ รัชทายาทโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะ…”
ไม่รอให้นายท่านใหญ่พูดจบ ซั่งกวนหงฮุยก็หันไปพูดกับเซียวอวิ้น “คุณชายสามโปรดนำทางด้วย ข้าจะไปพบพี่เซียวด้วยตนเอง”
ซั่งกวนหงฮุยไม่สนใจนายท่านใหญ่ พูดจบก็ก้าวยาวๆ ออกไป
เซียวอวิ้นมองบิดาอย่างแข็งทื่อ ตลอดจนท่านย่าที่เดินตามออกมาแล้วมีท่าทางที่ตกใจ ปากเขาขยับไปมาคิดจะพูดอะไร กลับได้ยินนายท่านใหญ่เอ่ยเพียงว่า “ยังไม่รีบไปอีก เจ้าก็คิดจะขัดคำสั่งรัชทายาทด้วยรึ!”
เซียวอวิ้นได้สติทันใด หันไปเห็นรัชทายาทเดินไปไกลแล้วจึงรีบวิ่งเหยาะตามไป
เห็นรัชทายาทเดินห่างออกไปแล้ว นายท่านใหญ่จึงลุกขึ้น เขาใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและหันไปมองใบหน้าขาวซีดของมารดาที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่ด้านข้าง รีบเข้าไปประคองและเอ่ยว่า “มารดาไม่ต้องกังวล กลับไปพักในห้องโถงสักครู่หนึ่งก่อน ลูกจะไปดูที่เรือนเซียวเซียงเดี๋ยวนี้ขอรับ”
“เจ้าหลานทรพี! จะต้องให้คนสกุลเซียวทั้งหมดตายไปพร้อมกับเขาด้วยหรือไร เร็วเข้า เตรียมเกี้ยวไปเรือนเซียวเซียง!”
ทั้งสองเร่งรุดไปยังเรือนเซียวเซียง พอลงจากเกี้ยวก็เห็นรัชทายาทเดินออกมาแต่ไกล เซียวอวิ้นตามอยู่ข้างหลัง แตกต่างจากที่คิด รัชทายาทไม่ได้โกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด อีกทั้งใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เห็นรัชทายาทเดินตรงมา เหล่าไท่จวินกับนายท่านใหญ่ก้าวเข้าไปจะคารวะ กลับถูกรัชทายาทประคองไว้เสียก่อน เขายิ้มน้อยๆ เอ่ยว่า “เหล่าไท่จวิน นายท่านสกุลเซียว พี่เซียวกังวลเรื่องที่สกุลเซียวประสบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กะทันหัน เป็นห่วงความปลอดภัยของนายท่านสกุลเซียวจึงเปลี่ยนใจเรื่องการเดินทางลงใต้ เขามีใจกตัญญูเช่นนี้ ข้าย่อมไม่อยากจะฝืนใจ สองวันนี้ข้าจะออกเดินทางลงใต้คนเดียว นายท่านสกุลเซียวอยู่ในผิงหยางหากมีอะไรสามารถไปหาหลี่จั้นเพื่อให้เขาส่งข่าวให้ข้าได้”
เห็นรัชทายาทไม่เอาผิด เหล่าไท่จวินและนายท่านใหญ่ต่างพรูลมหายใจยาว ก่อนจะส่งรัชทายาทจากไปอย่างนอบน้อม จากนั้นทั้งสองจึงย้อนกลับเข้าไปในเรือนเซียวเซียง ได้เวลาคุยกับจวิ้นเอ๋อร์ที่เอาแต่ใจผู้นี้ให้ดีแล้ว เมื่อวานรัชทายาทพูดอะไรบ้าง เหตุใดจวิ้นเอ๋อร์จึงหย่าภรรยา แล้วยังวันนี้อีก เหตุใดรัชทายาทจึงโมโหเมื่อได้ยินว่าเซียวจวิ้นจะไม่เดินทางลงใต้…เรื่องเหล่านี้ล้วนสร้างความฉงนสงสัยให้บุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในสกุลเซียวทั้งสองคน บางทีเรื่องพวกนี้อาจเกี่ยวพันถึงชะตาของสกุลเซียว
เดินเข้าประตูชั้นในไปก็เห็นสาวใช้และบ่าวหญิงสูงวัยยืนอยู่เต็มลานบ้าน ชุ่ยอี๋เหนียงกับหงอวี้คุกเข่าอยู่หน้าประตูห้องหนังสือ เหล่าไท่จวินเห็นแล้วอดนิ่วหน้าไม่ได้ จวิ้นเอ๋อร์คิดจะทำอะไรกันแน่นะ
เห็นเหล่าไท่จวินกับนายท่านใหญ่มา ทุกคนสะดุ้งตกใจพากันคุกเข่าลง
เหล่าไท่จวินพูดอย่างหมดความอดทน “กลางวันเช่นนี้ไม่มีอะไรให้ทำแล้วหรือ ถึงได้มาเบียดเสียดกันอยู่ในลาน ให้รัชทายาทเห็นเข้าจะน่าดูเสียที่ไหน!”
เห็นเหล่าไท่จวินโมโห ทุกคนจึงโขกศีรษะติดๆ กัน นายท่านใหญ่พูดขึ้น “แยกย้ายไปกันเถอะ!”