บทที่เจ็ด
ถังเหอเป็นลูกโทน แต่งฮูหยินแล้วสี่คน ฮูหยินใหญ่นามว่าเลี่ยวชิงเหยียน ว่ากันว่าเป็นหลานสาวฮูหยินผู้เฒ่าถัง พ่อแม่จากไปเร็วจึงติดตามข้างกายฮูหยินผู้เฒ่าถังตั้งแต่เล็ก ฮูหยินผู้เฒ่าถังเอ็นดูนาง กลัวนางแต่งงานออกไปแล้วถูกคนรังแกจึงออกหน้าจัดการให้ถังเหอแต่งนางเข้าสกุล ฮูหยินผู้นี้แม้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับถังเหอ ทว่าได้รับการประคบประหงมตามใจตั้งแต่เยาว์วัย ความสัมพันธ์กับถังเหอจึงไม่ดีนัก ไม่นานถังเหอก็รับบุตรีคหบดีในเมืองคนหนึ่งเป็นอนุ เลี่ยวชิงเหยียนไหนเลยจะทนไหว หนึ่งร้องไห้ สองอาละวาด สามแขวนคอ อยากจะไล่ฮูหยินรองออกจากบ้านให้จงได้
ท่ามกลางความเกรี้ยวโกรธถังเหอจะเขียนหนังสือหย่า เคราะห์ดีฮูหยินผู้เฒ่าถังยับยั้งเอาไว้ได้ ทั้งสองจึงสงบศึก นับแต่นั้นฮูหยินรองสกุลถังก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัดอย่างจากฮูหยินผู้เฒ่าถังและเลี่ยวชิงเหยียน เทศกาลตวนอู่ ปีถัดมาฮูหยินรองก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ตอนที่เลี่ยวชิงเหยียนเห็นศพของฮูหยินรองแล้ว นางก็ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ทุกคืนเอาแต่ฝันเห็นฮูหยินรองกลับมาเอาชีวิต ตั้งแต่นั้นมานางก็กลายเป็นคนเสียสติ
ไปๆ มาๆ แม้ถังเหอจะแต่งงานมาแล้วสามปี ทว่าเขากลับไม่มีทายาทเลยสักคนเดียว ด้วยเหตุนี้ในปีที่สี่ เขาจึงแต่งฮูหยินคนที่สามเฮ่อหลันซีเข้ามา หลังเฮ่อหลันซีเข้ามาในจวนก็ได้รับความโปรดปรานจากถังเหอและฮูหยินผู้เฒ่าถังอย่างมาก แต่สามปีผ่านไปก็ยังให้กำเนิดได้แค่เพียงบุตรีสองคน ฮูหยินผู้เฒ่าถังในใจร้อนรน เร่งรัดให้ถังเหอรับอนุเพิ่มขึ้นอีก ถังเหอต้องใจเจิ้งหนานชิงบุตรสาวตระกูลปัญญาชนสกุลเจิ้งมานานแล้ว ประจวบเหมาะกับได้ยินว่าบุตรคนโตสกุลเจิ้งเล่นพนันติดหนี้ก้อนโต เขาจึงขอเจิ้งหนานชิงแลกกับการใช้หนี้ให้แทน หลังเจิ้งหนานชิงเข้ามาในจวนไม่นานก็ตั้งครรภ์ แต่เพียงสามเดือนก็แท้งโดยไม่คาดคิด นับแต่นั้นก็ไม่ตั้งครรภ์อีก
ทันทีที่เฉียวจือซูได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็ราวกับมีเมฆหมอกหนาทึบ
สวนในจวนสกุลถังกิ่งหลิวแตกยอดใหม่ระเบาๆ บนผิวน้ำในบ่อขนาดเล็กที่นิ่งเรียบ กลางทางเดินสายเล็กอันมิดมืด สาวใช้นางหนึ่งเดินมาอย่างเร่งร้อน นางเคาะประตูห้องแขกเรือนฝั่งตะวันตกของจวนสกุลถังแผ่วเบา
เฉียวจือซูเปิดประตูและถาม “นำยามาแล้วหรือ”
ผู้ที่มาคือสี่เอ๋อร์ นางปิดประตูด้วยท่าทางประหม่า และรีบร้อนพยักหน้า
เฉียวจือซูถามอีก “ที่วางไว้ในตู้ยาก็นำมาด้วยหรือไม่”
สี่เอ๋อร์พยักหน้าอีก ก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างมา มือแต่ละข้างล้วนถือห่อยาอยู่ นางแบมือซ้าย “นี่คือยาหนึ่งเทียบที่ฉินมามาซื้อเพิ่ม” จากนั้นนางก็ยื่นห่อยาในมือขวาให้เฉียวจือซู “นี่คือที่ฉินมามาวางไว้ในตู้ยาหลังเที่ยง ข้าทำตามที่ท่านสั่ง เฝ้าอยู่ใกล้ๆ ห้องยามาโดยตลอด เมื่อสักครู่ถึงค่อยแอบเอาออกมา”
เฉียวจือซูรับยามาวางบนโต๊ะ เปิดห่อยาทางซ้ายมือก่อน อาศัยแสงอ่อนจางของโคมไฟแยกอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เปิดห่อยาอีกห่อ ใช้ช้อนยายาวบางคันหนึ่งเขี่ยไปมา แยกเม็ดสีแดงน้ำตาลขนาดเท่าเมล็ดถั่วออกมาได้สองสามเม็ด