“ที่แท้ท่านก็คาดเดาไว้แล้วแต่แรก ท่านเริ่มสงสัยเฮ่อหลันซีกับตู้จื่อเฟยตั้งแต่เมื่อใดกันแน่”
“ตั้งแต่สี่เอ๋อร์บอกว่าเห็นเฮ่อหลันซีที่นอกห้องยาบ่ายวันนั้น”
“แต่คนที่เข้าห้องยาคืออาเม่ย ตอนนั้นท่านคงยังไม่รู้กระมังว่าอาเม่ยถูกเฮ่อหลันซีซื้อตัวไป”
“ตอนนั้นยังไม่แน่ใจก็จริง แต่ก็เป็นเพราะเหตุนั้น ข้าถึงได้คิดว่าบางทีอาเม่ยก็คือคนของเฮ่อหลันซี พอเป็นเช่นนี้ทุกเหตุการณ์จึงกระจ่าง”
“ข้ายังไม่เข้าใจอยู่ดี ถึงอาเม่ยเข้าห้องยา แต่นางกับเฮ่อหลันซีก็มิได้ติดต่อกันนี่นา แม้แต่สี่เอ๋อร์ยังพูดเลยว่าเฮ่อหลันซีต้องไปที่เรือนของยายเฒ่าถัง”
“สี่เอ๋อร์เห็นนางเข้าไปในเรือนฮูหยินผู้เฒ่าถังกับตาหรือไม่”
“นั่นนับว่าไม่”
“คนมักมีกรอบความคิดตามความเคยชิน ในการรับรู้ของสี่เอ๋อร์ เฮ่อหลันซีมักประจบประแจงฮูหยินผู้เฒ่า ทุกวันตกบ่ายเป็นต้องไปอยู่ในห้องฮูหยินผู้เฒ่า นางย่อมนึกไปว่าเฮ่อหลันซีต้องไปที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่า แต่สี่เอ๋อร์ลืมไปข้อหนึ่ง ทางเดินเส้นนั้นแม้ตรงไปยังที่พักของฮูหยินผู้เฒ่าได้…” เฉียวจือซูใช้นิ้วจุ่มน้ำชาวาดลงบนพื้นโต๊ะอย่างง่ายๆ สองสามขีด วาดไปพลางเอ่ยไปพลาง “นี่คือเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า นี่คือเรือนหลันซี ส่วนนี่ห้องยา ไม่กี่เส้นนี้คือทางเดินในจวนสกุลถัง”
ซุนจิ่วเม่ยอาศัยแสงเทียนสลัวมองภาพวาดแผนที่จวนสกุลถังที่เฉียวจือซูวาดโดยละเอียด ก่อนเอ่ยอย่างตกใจ “จากเรือนหลันซีไปถึงเรือนฮูหยินผู้เฒ่าถัง ทางเดินนอกห้องยาเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุด หรือนางแค่กำลังเดินชมสวน”
“หากต้องการเดินชมสวน ไยจึงไม่พาผู้ติดตามไปสักคน”
“นั่นก็ถูก เฮ่อหลันซีหญิงผู้นี้โอ้อวดเพียงนั้น จะไม่พาไปสักคนได้อย่างไร”
“นั่นเพราะเรื่องที่นางจะทำเป็นความลับเกินไป” นัยน์ตาเฉียวจือซูสาดประกายเย็นเยียบ
“นางคงไม่วางใจอาเม่ย ถึงต้องมาดูกับตาว่าอาเม่ยเข้าห้องยา ถือโอกาสดูต้นทางให้นาง พวกนางสองคนลอบวางแผนเรื่องนี้เอาไว้ ในใจย่อมมีความกังวล ด้วยเหตุนี้พบหน้ากันแท้ๆ กลับทำเป็นมิได้พบ ต่อมาเมล็ดอวิ๋นไถในตะกร้าของอาเม่ยก็พิสูจน์การคาดเดาของข้าได้พอดี”
“คนทั่วไปเห็นเมล็ดอวิ๋นไถจะคิดถึงแต่ยายเฒ่าถัง”
“แม้ผู้กินอาหารจะเป็นฮูหยินผู้เฒ่า แต่ผู้ทำอาหารกลับเป็นฮูหยินสาม นางประกาศว่าตนเองเตรียมเมล็ดเจวี๋ยหมิงให้ฮูหยินผู้เฒ่า แท้จริงคือต้องการปกปิดความจริงเรื่องการตากเมล็ดอวิ๋นไถ”
“รูปร่างเมล็ดอวิ๋นไถคล้ายเมล็ดเจวี๋ยหมิง อาเม่ยถึงได้พูดซ้ำไปซ้ำมาว่าตนเองตากเมล็ดเจวี๋ยหมิง”
“ที่แท้ตอนบ่ายเจ้าก็เห็น” เฉียวจือซูเหลือบมองซุนจิ่วเม่ย เห็นนางยิ้มทะเล้น พลันคลี่ยิ้ม “เมื่อวานที่อาเม่ยกับสาวใช้คนนั้นตากก็คือเมล็ดอวิ๋นไถ ที่ที่อันตรายที่สุดกลับเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ข้าคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าถังไม่รู้เลยสักนิดว่านอกห้องพระของตนตากสิ่งของที่ทำให้ลูกสะใภ้ตนเองไม่ตั้งครรภ์”