รักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง
เดี๋ยวๆ ใครเป็นคนคิดคำกล่าวนี้ขึ้นมาให้ท้องร้องเนี่ย ด้วยความสงสัยเลยไปไขว่คว้าในอากู๋ ก็ได้คำตอบมาคร่าวๆ แบบไม่มีที่มาที่ไปว่าใครเริ่มใช้ แต่ความหมายที่จับได้ ก็คือการรักใครสักคนแล้วเขาไม่รักตอบ มันก็แห้งเหี่ยวไม่ต่างอะไรจากข้าวเหนียวที่ตอนนึ่งใส่น้ำน้อยไปหน่อย ก็เลยออกมาแข็งกินไม่อร่อย ช่างเปรียบจริงๆ นะเออ ว่าแต่ใครจะอยากให้ความรักของตัวเองเป็นเหมือนข้าวเหนียวแห้งๆ ที่กินไม่อร่อยกันจริงมั้ย
ก่อนอื่นต้องรู้ใจตัวเองก่อนว่าเป้าหมายของเราคือใครกันแน่
วิธีถามใจตัวเองที่ง่ายที่สุดก็คือ เราเขินเวลาอยู่ใกล้ใคร ไม่กล้าพูดด้วย ไม่กล้าสบตาใคร หรือพอได้ทำสิ่งเหล่านั้นออกไปแล้วต้องแอบยิ้มกรุ้มกริ่มในใจจนปอดอิจฉาตับไตหมั่นไส้ นั่นแสดงว่าเขาคนนั้นแหละคือคนที่คุณแอบชอบ หรือถ้าอาการหนักกว่านั้น ก็เรียกว่าแอบรักได้เลย ทีนี้เอาไงดีล่ะ ควรจะเขาไปบอกชอบหรือบอกรักตรงๆ เลยดีมั้ย
ช้าก่อน ถ้าอยากสัมผัสได้ถึงความสุขในช่วงเวลาที่ได้แอบรักใครสักคน
ก็ช่วงเวลานี้แหละที่เราจะรู้สึกเขินอายมากที่สุดและหยุดยิ้มไม่ได้เลยเพียงแค่ได้คุยกับเขา เราไม่ต้องถึงขั้นไปสารภาพความจริงในใจภายในเจ็ดวันหรอก ไม่มีกล้องรายการเรียลลิตี้มาแอบถ่ายซะหน่อย ทำตัวให้เป็นธรรมชาติเช้าไว้ ใช้ความสดใสและร่าเริงเป็นมิตรนี่แหละค่อยๆ สะกิดใจอีกฝ่าย ไม่นานเขาต้องรับรู้ได้ว่าเรารู้สึกยังไง และพอถึงเวลานั้นเราก็อย่าเพิ่งหวั่นไหวหมายใจว่าเขาจะต้องชอบเราเหมือนกัน ถ้ายังคิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ แสดงว่าเรากำลังตกอยู่ในโหมดโลกสวยแล้วนะ
อยากให้ลองแอบรักใครสักคนในแบบฉบับโลกไม่สวยดูก่อน
ไม่ได้หมายความว่าคิดแบบโลกสวยเป็นเรื่องผิด แต่การคิดแบบโลกไม่สวย อย่างน้อยก็เหมือนเป็นเกราะป้องกันความรู้สึกตัวเองไม่ให้ถลำลึกไปไกล เกิดมั่นใจไปเองว่าเขาก็รักเราเหมือนกัน แล้วสุดท้ายมันไม่เป็นแบบนั้น คนที่เสียใจก็จะมีแค่เราฝ่ายเดียว นอกจากจะทุกข์ใจมากแล้ว หนักเข้าเราอาจจะไม่กล้าสู้หน้าเขาอีกเลย
อย่าลืมสิว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของคนที่เราชอบ ต่างก็ล้วนเป็นตัวเลือกของเขาเช่นกัน
เราควรคิดเอาไว้อย่างหนึ่งว่า ในเมื่อโลกไม่สวย เราก็ควรทำตัวเองให้มีคุณค่าเข้าไว้มากกว่ามานั่งคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องใส่ใจหรือให้ความสำคัญแค่เฉพาะเราคนเดียว ไม่งั้นมันก็ไม่ต่างอะไรจากคนเห็นแก่ตัวที่มองโลกแบบสวยๆ ว่าอีกฝ่ายต้องแคร์เราสิ เพราะเราแอบชอบเขาอยู่นะ ถ้าคิดแบบนี้ก็คงสบายใจแค่ฝ่ายเดียวไปตลอดแน่ๆ ต้องเลิกวางบทให้ตัวเองเป็นตัวเอก และคู่แข่งเป็นตัวร้าย
เพิ่มความสตรองสำหรับการแอบรักในแบบฉบับโลกไม่สวย
เอาง่ายๆ คือจงอย่าอ่อนแอ แค่เห็นอีกฝ่ายมีคนเข้าหาเยอะก็นอยด์ แค่เห็นอีกฝ่ายคุยกับคนอื่นก็โพสต์สเตตัสเหมือนคนอกหัก (ทั้งที่ตัวเองยังไม่มีแฟน) จำไว้สิ โลกไม่สวยอยู่แล้ว เราจะทำตัวแย่ตามโลกทำไม จงวางตัวให้ดี จริงใจ มีน้ำใจ ยิ้มแย้ม คิดบวกเข้าไว้ และถึงเราจะหน้าตาธรรมดายังไง ก็ต้องมีคนมองว่าเรานิสัยดีเกินใครแน่นอน รับรองว่าจะต้องได้รับสิ่งดีๆ ในสักวัน ถึงไม่ได้คำว่าแฟนในตอนท้าย แต่อย่างน้อยเราก็ได้มิตรภาพดีๆ กลับมา คำว่าชนะใจน่ะแปดสิบเปอร์เซ็นต์คือมีลุ้นนะเออ แต่ก็อย่างที่บอกไปแหละ การแอบรักมันไม่ได้สมหวังเสมอไปหรอก เราต้องยอมรับก่อนด้วยล่ะว่า โอกาสสมหวังน่ะห้าสิบห้าสิบ
ชอบใคร เขาก็รักตอบ ขนาดในนิยายยังไม่มีพล็อตแบบนี้เลยจริงมั้ย
เราก็แค่ทำตัวปกติแหละ ไม่นิ่งหรือเงียบเกินไป เขินได้เขิน อายได้อาย หน้าแดงได้ก็ปล่อยไป เพื่อนแซวเหรอก็อวยม้วนตีลังกาไปสิ ทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติ ไม่ประดิษฐ์เยอะ รับรองพอเป้าหมายเริ่มรู้ตัว คำตอบที่เราอยากรู้ ก็จะได้รู้ในเร็ววัน ซึ่งอาการของอีกฝ่ายนั่นละคือคำตอบที่จะทำให้รู้ว่าเราควรหยุดหรือไม่ต่อ ถึงเวลานั้นเราจะตัดสินใจได้เองว่าถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้องสารภาพความจริงในใจซะที และถ้าหากไม่สมหวังขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ต้องไปมองแบบโลกสวยว่าเขาต้องเห็นใจเราสิ แต่ให้มองแบบโลกไม่สวยว่าโลกนี้ไม่มีใครได้อะไรมาง่ายๆ เสมอไปหรอก
ถ้าคนที่เราไม่รัก มาแอบรักเรา เราก็คงเลือกที่จะปฏิเสธเหมือนกัน
สรุปวิธีแอบรักในแบบฉบับโลกไม่สวย ก็คือการไม่มองโลกสวยเกินไปว่าสุดท้ายเรื่องราวจะต้องแฮปปี้เอนดิ้ง สุดท้ายพอไม่สมหวัง เราก็ต้องเศร้าเพราะคาดหวังไปเยอะแล้ว ฉะนั้นอยากให้จำไว้เสมอว่าทุกเรื่องราวในชีวิตล้วนมีส่วนสร้างตัวตนให้เป็นเราในทุกๆ วันนี้ จงเก็บประสบการณ์แอบรักใครสักคนไว้เป็นบทเรียน หากมองว่าโลกใบนี้มันไม่สวย ก็อาจจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เราได้ไม่มากก็น้อย อย่างเรื่องแอบรักใครสักคนด้วยยังไงล่ะ คนที่รักใครเป็นยังถือว่าใช้ชีวิตคุ้มค่ากว่าคนที่เย็นชาไปกับทุกๆ เรื่องนะจริงมั้ย