เยี่ยเหมยรู้สึกเหนื่อยแทนคนในตระกูลใหญ่โตจากใจจริง แค่ลมพัดหญ้าไหวก็เห็นเป็นภัยไปเสียหมด ถ้าเปลี่ยนเป็นนางคงได้เหนื่อยตายไปแล้ว คราวนี้นางดับจินตนาการงดงามเล็กๆ ในสมองจนไม่เหลือแม้แต่ประกายไฟ คุณชายตระกูลใหญ่อะไรไม่มีทางมีสัมพันธ์ข้องเกี่ยวใดๆ กับหญิงชนบทที่ท้องก่อนแต่งอย่างนางได้แน่นอน
ครั้นได้ยินว่าเยี่ยเหมยตั้งท้องได้สามเดือนแล้ว แววลังเลไม่แน่ใจที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกก้นดวงตาของสะใภ้ใหญ่จั่นก็หายวับไปไร้ร่องรอย แววดูถูกดูแคลนวาบผ่าน ร้องเรียกชุนหลันทันที “ยังไม่รีบมาประคองแม่นางเยี่ยอีก เจ้านายของเจ้าอย่างข้ายิ่งซุ่มซ่ามอยู่ เดี๋ยวก็ได้ทำแม่นางเยี่ยชนนู่นชนนี่พอดี”
ชุนหลันรีบก้าวมารับมือเยี่ยเหมยไปประคองแทน พร้อมกับถูกบ่นว่าอย่างคล้ายจริงคล้ายปลอม
ถ้ามิใช่ก่อนหน้านี้ที่โรงรับจำนำเคยได้เห็นท่าทียามจัดการเรื่องราวของสะใภ้ใหญ่จั่นมาแล้ว เยี่ยเหมยคงได้คิดว่านี่เป็นความเอาใจใส่ของนายบ่าวสองคนนี้จริงๆ นางนึกค่อนแคะในใจ ปากกลับมิแคล้วต้องแต่งเรื่องมาเอาหน้ารอด
ของมาอยู่ตรงหน้าเจ้าบ้านแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องให้คนหาบไปต่อ เห็นเหล่าบ่าวหญิงรับใช้ยืนเรียงแถวรออยู่บนทางเดินศิลาเขียว เยี่ยเหมยก็ใช้ให้เปิดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่คลุมรถทั้งสองคันอยู่ออกอย่างไม่เกรงใจ
รถเข็นเด็กและรถหัดเดินนี้หนาหนักกว่าของที่ทำด้วยพลาสติกและอะลูมิเนียมอัลลอย แต่ก็ให้ความรู้สึกเทอะทะแค่เพียงเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ของที่มีล้อและมีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาดสองชิ้นนี้ก็ยังทำให้คนทั้งหลายตื่นตะลึงได้
รถเข็นเด็กเลือกใช้วิธีประกอบสามส่วน แยกเป็นโครงรถ ตัวรถ และส่วนมือจับ ส่วนตัวรถรวมเอาฐานรถและล้อสี่ล้อไว้ด้วย สองล้อหน้าสามารถเปลี่ยนทิศทางตามการเข็นได้ ทั้งสี่ล้อล้วนเป็นไม้หุ้มด้วยหนังวัวสีดำหลายชั้น ยืดขยายได้ดี ความยืดหยุ่นก็ยอดเยี่ยม ความเสียหายย่อมจะเกิดไม่สูงนัก
ตัวรถทำเป็นรูปร่างคล้ายโต่ว ด้านในมีเก้าอี้นั่ง เด็กสามารถนั่งข้างบน สองมือจับประคองสองข้างตัวรถหรือจะเก็บไว้ในที่นั่งก็ได้ เยี่ยเหมยใช้ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดอ่อนนุ่มเย็บติดกับเศษผ้าไหมหลายสีเพิ่มสีสันให้กับที่จับรถเข็นไม้ ดูสวยงามทั้งยังน่าสบาย
ส่วนรถหัดเดินใช้ไม้มาทำย่อมจะทำให้มีแปดล้อเปลี่ยนทิศทางได้อิสระไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เยี่ยเหมยจึงเปลี่ยนแนวคิดของรถหัดเดินเสียใหม่ ขุดรูโครงรถกับที่นั่งให้สอดสองเท้าลงไปได้ ทำล้อหน้าหลังให้เป็นล้อที่เคลื่อนไหวได้ เด็กประคองตัวรถไว้ก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย เดินหน้าถอยหลังจะเร็วหน่อย แต่ถ้าไปซ้ายขวาจะไม่คล่องนัก ทว่านี่ก็ดีกว่าขยับไม่ได้เลย
ของไม่มีอะไรซับซ้อน เยี่ยเหมยอธิบายเพียงเล็กน้อยคนทั้งหมดก็เข้าใจ
ในใจสะใภ้ใหญ่จั่นยังคิดถึงเรื่อง ‘ตำรับยาลับจากบรรพบุรุษ’ ของเยี่ยเหมยที่ชุนหลันนำมารายงาน เรื่องนี้จึงถูกวางทิ้งไว้ชั่วคราว นางลูบดูที่นั่งในตัวรถด้วยตนเองแล้วก็หันหน้าไปสั่งสาวใช้ให้เตรียมเส้นไหมเพื่อทำเบาะใหม่สองเบาะ หลังจากลองเข็นรถเข็นเด็กเดินไปสองก้าวก็สั่งชุนหลันอย่างใจกว้าง “เดี๋ยวนำเงินค่ารถให้แม่นางเยี่ยแล้วก็เพิ่มให้นางอีกสิบตำลึงเป็นสินน้ำใจ รถนี้ช่วยลดภาระงานของพวกเจ้าได้ไม่น้อยเลย”
“นั่นน่ะสิเจ้าคะ ถึงฤดูร้อนคุณชายน้อยกับคุณหนูเล็กก็จะไม่ร้อนจนเป็นผื่นคันทั้งตัวแล้ว” ชุนเถาลูบที่จับรถเข็น นึกถึงความลำบากที่ต้องอุ้มเด็กในหน้าร้อนขึ้นมาก็อดจะกระซิบพึมพำข้างหูบ่าวหญิงชรานางหนึ่งไม่ได้
สะใภ้ใหญ่จั่นกับชุนหลันยืนอยู่หน้าสุด ชุนเถาพูดอะไรพวกนางไม่ได้ยิน แต่กลับถูกเยี่ยเหมยได้ยินแล้วลอบหัวเราะเงียบๆ
หลังจากนั้นพอชุนหลันเอ่ยเตือน สะใภ้ใหญ่จั่นก็นึกถึงตำรับยาลับจากบรรพบุรุษที่เยี่ยเหมยบอกขึ้นได้ จึงพาเยี่ยเหมยเดินไปเรือนพักของตน
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 23 พ.ค. 62