พานเหรินเฟิ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เพราะตอนนี้กำลังมีเสืออาละวาดอยู่บนภูเขา มันกินคนที่เดินทางผ่านไปเจอมันเข้าแล้วหลายคน เมื่อวานเขาเพิ่งประกาศหาผู้กล้าฆ่าเสือบนภูเขาโดยให้เงินรางวัลจำนวนมาก และก็มีนายพรานซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังผู้หนึ่งขึ้นไปบนเขาแล้ว ทว่าจนถึงตอนนี้นายพรานผู้นั้นก็ยังไม่กลับมา เกรงว่าสถานการณ์คงไม่สู้ดีนัก…
ไม่เพียงเท่านี้ เทพสังหารสองคนนั้นที่ออกตามหาเด็กก็กลับมาอีกครั้งแล้ว ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ในโถงรับแขกของเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
พานเหรินเฟิ่งรู้สึกคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าหลายวันมานี้พวกเขาค้นหาคนไม่พบแท้ๆ ทว่าเหตุใดพวกเขาจึงไม่ยอมจากไปเสียที…
“เป็นไปได้หรือไม่…” พานเหรินเฟิ่งทำใจกล้าพูดสิ่งที่ตนเองคาดเดาอยู่ในใจออกมา “เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะถูกสัตว์ป่าบนเขากินไปแล้ว”
ทั้งสองคนจ้องมาทางเขาอย่างใจเย็น ดังนั้นเขาจึงหุบปากไปทันที
ในห้องพลันเงียบกริบ พานเหรินเฟิ่งเหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็ม* เขาหลุบตาลงต่ำ เมื่อสายตามองไปที่ดาบสั้นตรงเอวพวกเขาแล้ว ในสมองก็เกิดความคิดอันชาญฉลาดขึ้นมา เขาจึงเอ่ยว่า “ใต้เท้าทั้งสองกล้าหาญเกินใคร ต้องเป็นยอดฝีมือที่หาตัวจับได้ยากในใต้หล้าแน่”
คนที่ดูอายุมากกว่ายังคงมีท่าทีเคร่งขรึม สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ขณะที่เทพสังหารคนที่สองกลับยิ้มแย้มพลางเอ่ย “เจ้านี่มันช่างประจบสอพลอ ข้ากับพี่น้องข้าล้วนฟังจนเบื่อแล้ว”
พานเหรินเฟิ่งยิ้มแห้งเอ่ย “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ทำให้ในพื้นที่มีภัยจากเสือ เป็นโชคร้ายของราษฎรในอำเภอนี้ที่มีข้าน้อยเป็นผู้ปกครองซึ่งไร้ความสามารถเช่นนี้ โชคยังดีที่ใต้เท้าทั้งสองท่านให้เกียรติย่ำเท้ามาที่นี่…”
เทพสังหารคนที่สองเอ่ยด้วยความเบื่อหน่าย “เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า เจ้ามีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย ข้ารำคาญพวกขุนนางที่ชอบอ้างคำพูดจากตำราอย่างพวกเจ้าเป็นที่สุด!”
พานเหรินเฟิ่งตกใจจนร่างสั่นเทิ้ม เขารีบร้อนพูดออกไป “ข้าน้อยต้องการจะพูดว่า…จะเป็นไปได้หรือไม่ถ้าใต้เท้าทั้งสองได้โปรดไปกำจัดเสือร้ายที่ทำร้ายผู้คนเหล่านั้น…”
ปัง!
เทพสังหารคนที่หนึ่งตบโต๊ะอย่างแรงคราหนึ่งพลางเอ่ยอย่างเย็นชา “พวกเรามาตามหาคน ไม่ใช่มาล่าสัตว์!”
“ขะ…ขอรับ” พานเหรินเฟิ่งรับคำกระท่อนกระแท่น
ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจ้าหน้าที่แจ้งมาจากด้านนอก “ใต้เท้า มีคนชื่อหลินฟางโจวบอกว่าต้องการจะพบท่านขอรับ”
“ให้เขากลับไปซะ ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าวันนี้ไม่ต้องการพบแขก”
“แต่เขาบอกว่า…เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก อาจทำให้ใต้เท้าได้เลื่อนตำแหน่งเชียวนะขอรับ”
พานเหรินเฟิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดี เขาจึงบอกปัดไป “ไร้สาระ! ให้เขาไสหัวไป! หากยังไม่ไปอีกก็ให้โบยยี่สิบที!”
“ช้าก่อน!” เทพสังหารคนที่สองเหลือบมองพานเหรินเฟิ่งแวบหนึ่ง ใบหน้าเขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ลองเรียกเขาเข้ามาไม่ดีกว่าหรือ ดูว่าจะเป็นเรื่องดีทำให้เลื่อนตำแหน่งได้อย่างไร”