เสี่ยวหยวนเป่ารังเกียจหนูมากจริงๆ ผ่านไปสองวันเขาก็นึกวิธีใหม่ขึ้นมาได้อีกครั้ง
หลินฟางโจวและเสี่ยวหยวนเป่าแสร้งกินหนูเข้าไป หลังจากนั้นก็แสร้งล้มลงบนพื้นโดยไม่ลุกขึ้นมาอีก ทั้งสองนอนนิ่งอยู่บนพื้นไม่ขยับพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่เป็นนาน จิ่ววั่นกระวนกระวายกระโดดอยู่บนตัวพวกเขาอยู่นาน สุดท้ายจึงคาบหญ้าที่ไม่รู้จักชื่อกลับมาด้วย
ไม่มีประโยชน์ พวกเขายังคง ‘แกล้งหลับเหมือนตาย’ อยู่เช่นเดิม
รอกระทั่งพวกเขา ‘ได้สติ’ ขึ้นมา จิ่ววั่นก็จับหนูมามอบให้อีกครั้งแล้ว ทั้งคู่จึงใช้อุบายเดิม แสร้งล้มลงไปบนพื้นอีกครั้ง หลังจากลองทำเช่นนี้อยู่สามรอบ ในที่สุดนกเค้าแมวตัวนั้นก็ไม่มอบของขวัญใดๆ ให้อีก
“ฮ่าๆๆๆ!” หลินฟางโจวแทบน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มยินดีแล้ว นางกอดเสี่ยวหยวนเป่าด้วยความตื่นเต้น ทั้งหัวเราะและกระโดดไปพร้อมๆ กัน “ในที่สุดก็ไม่ต้องกินหนูแล้ว ฮ่าๆๆ!”
เสี่ยวหยวนเป่าที่ถูกนางกอดจนแทบจะหายใจไม่ออกเค้นเสียงพูดออกมา “พวกเราไม่เคยกินหนูนะ”
หลินฟางโจวยืมหนังสือหลายเล่มมาจากคุณชายลั่ว นางวางแผนว่าจะส่งเสี่ยวหยวนเป่าไปห้องเรียนชั้นต้น ค่าเล่าเรียนหนึ่งปีก็ใช้เพียงแค่หนึ่งตำลึงเท่านั้น
แต่ว่า…อาจารย์ที่ห้องเรียนชั้นต้นก็ไม่ได้รับเด็กทุกคนเข้าเรียนหรอก หากโง่หรือซุกซนเกินก็ล้วนแต่ไม่ได้เข้าเรียนทั้งสิ้น ซึ่งก่อนที่จะรับเข้าเรียนอาจารย์ยังต้องทดสอบพื้นฐานของเด็กด้วย เป้าหมายหลักในการทดสอบก็คือการสอนตามระดับสติปัญญาของผู้เรียน ซึ่งไม่ใช่เพราะพื้นฐานของผู้เรียนแย่เกินไปจึงปฏิเสธที่จะรับ
หลินฟางโจวคิดว่าในเมื่อต้องทดสอบทั้งที อย่างน้อยๆ การสอบให้ได้ดีก็สามารถสร้างความประทับใจที่ดีให้แก่อาจารย์ได้มากกว่า เพราะเหตุนี้นางจึงถามขอบเขตของการทดสอบมาจากอาจารย์แล้ว ทั้งยังยืมหนังสือจากคุณชายลั่วมาด้วย
พอเข้ามาในบ้านนางก็โยนหนังสือพวกนั้นให้กับเสี่ยวหยวนเป่าแล้วเอ่ย “ท่องหนังสือพวกนี้ให้หมด”
เสี่ยวหยวนเป่ามองหลินฟางโจวแวบหนึ่ง ตำราพวกนั้นคือ ‘ตำราพันอักษร’ ‘วิชาคำนวณเบื้องต้น’ เป็นตำราสำหรับเด็กที่เริ่มเรียน เล่มที่ยากที่สุดก็คือ ‘คัมภีร์กวี’ ซึ่งเลือกมาเพียงแค่กลอนสิบบทแรก โดยข้างในเขียนเน้นส่วนสำคัญและคำอธิบายเอาไว้ เขาเอ่ยถาม “ท่องหนังสือพวกนี้ไปทำไม”
“ให้เจ้าท่องก็ท่องไปเถอะ อีกไม่กี่วันอาจารย์จะทดสอบความรู้ของเจ้าแล้ว หากเจ้าตอบไม่ได้ ยามที่กลับบ้านมาข้าจะไม่ให้เจ้ากินอาหารเลย”
‘ไม่ให้กินอาหาร’ คำขู่เช่นนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ช่วงนี้เสี่ยวหยวนเป่าชอบกินอาหารมาก นอกจากนั้นเขายังรู้สึกว่าความอยากอาหารของเขาในช่วงนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย เขากลัวหลินฟางโจวจะเมินเฉยต่อเขา เพราะเหตุนี้จึงไม่กล้าพูดมาโดยตลอด